สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 นั้น ทำให้เราต้องอยู่บ้านมากขึ้น ต้อง Social distancing ตามนโยบายดูแลสังคมร่วมกัน และที่บริษัทเราก็ปรับเปลี่ยนแผนให้ทำงานที่บ้าน การต้องเว้นระยะห่างทางสังคม การที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ไวรัสแพร่ระบาดนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นและไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน หลายคนอาจจะต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก ต้องอยู่ท่ามกลางความวิตกกังวล ความเครียดรุมเร้าจนทำให้ไม่มีความสุขในการทำงาน การได้ฟังเพลงโปรด จึงเป็นทางออกที่ผ่อนคลายสภาวะจิตใจที่ดีอีกทางหนึ่ง เรามาดู 10 Playlist เพลงที่เหมาะกับ Work From Home ของเราดีกว่าว่าจะเหมือนหรือแตกต่างกับของใครบ้างขอบคุณภาพประกอบ Whitney Houston1. The greatest love of allเพลงที่ฟังที่ไรแล้วก็รู้สึกดี มีความสุข ฟังไม่เคยเบื่อก็ต้องเริ่มต้นที่เสียงร้องของ Whitney Houston กับเพลงที่มีประวัติศาสตร์น่าจดจำอย่าง The greatest love of all เพลงนี้มีหลาย Version มาก แต่เราชอบ Version ของ Whitney เพราะเสน่ห์ของน้ำเสียงที่เกาะกินลึกลงไปสัมผัสก้นบึ้งของหัวใจจริง ๆ รวมถึงเนื้อหาของเพลงยังช่วยส่งพลังให้กับเราได้ดีมาก ๆ ท่อนที่บอกว่า "...I decided long ago, Never to walk in anyone's shadows, if I fail, if I succeed At least I'll live as I believe, No matter what they take from me, They can't take away my dignity...." ฟังแล้วฮึกเหิม รู้สึกมั่นใจ พร้อมลุยกับการ Work From Home ทันทีขอบคุณภาพประกอบ barbra streisand2. Woman in loveเพลงที่ฟังทีไรก็ฟินแอนด์อินเลิฟทุกครั้ง จินตนาการล่องลอยกลับไปครั้งที่ยังเป็นวัยรุ่นวัยหวาน กับน้ำเสียงของ Barbra Streisand นักร้องในตำนานที่เป็นทั้งดาราและนักร้อง สมัยนั้นเพลงนี้ฮอตฮิตติดชาร์ต ร้องตามกันได้ทั้งบ้านทั้งเมืองโดยเฉพาะสาว ๆ เนื้อเพลงอาจจะออกแนวฝัน ๆ เพ้อ ๆ ละเมอหา พร้อมทุ่มเททำได้ทุกอย่างเพื่อความรัก จึงทำให้โดนใจใครหลายคน และโด่งดังทะลุกาลเวลา "...I am a woman in love, and I do anything to get you into my world, and hold you within, It's a right, I defend..."ขอบคุณภาพประกอบ billy joel3. Just the way you areนักร้องชายชาวอเมริกันกับเสียงที่สุดประทับใจ Billy Joel เจ้าของฉายา “เปียโนแมน” กับเพลง Just the way you are นั้นเป็นเพลงรักที่ฟังทีไรก็รู้สึกเป็นคำรักที่จริงใจ ตรงไปตรงมา และมีความหมายที่ดีงามมาก ๆ เป็นการแสดงออกถึงความต้องการที่จะรักใครสักคนที่เป็นตัวของตัวเอง ไม่เปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่น " ...I don't want clever conversation, I never want to work that hard, I just want someone that I can talk to, I want you just the way you are...." เพลง Just The Way You Are เกือบถูก Billy Joel ตัดออกจากอัลบั้มตอนที่จะบันทึกเสียงไปแล้ว สุดท้ายก็ไม่โดนตัด และกลายมาเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดเพลงแรกเขาเลยขอบคุณภาพประกอบ Josh Groban4. You raise me upทำงานภายใต้ภาวะวิกฤต นั่งเหงา ๆ อยู่คนเดียว ได้ฟังเพลงโปรดไปด้วย ทำงานไปด้วย ยิ่งหากได้ฟังเสียงของ Josh Groban กับเพลง You raise me up แล้วมันมีกำลังใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ในยามหมดกำลังใจ ไร้เรี่ยวแรง ปัญหามากมายทับถมกันเข้ามาจนภาระหัวใจหนักอึ้ง หากมีคนบอกเราว่าจะยืนอยู่ด้วยกันไม่หนีหายไปไหน เท่านี้ก็คงเพียงพอแล้ว "...You raise me up, so I can stand on mountain, You raise me up to walk on stormy seas, I am strong when I am on your shoulders, You raise me up to more than I can be..." เพลงนี้เป็นเพลงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เป็นหนึ่งในเพลงที่ถูกนำมา cover มากมาย หลายเวอร์ชั่น หลายภาษา ขอบคุณภาพประกอบ Diana Ross5. When you tell me that you love meฟัง Version ที่ Diana Ross ร้องเพลงนี้ทีไร หัวใจก็ล่องลอยไปไกลทุกครั้ง เหมือนถูกสะกดจิตให้ตกอยู่ในภวังค์แห่งรัก โดยเฉพาะท่อนนี้ "...I'm shinning like a candle in the dark, When you tell me that you love me...." มันได้ความรู้สึกหลากอารมณ์จริง ๆ และตั้งแต่ท่อนแรกของเพลงที่ขึ้นมา ก็พาให้เตลิดไปไหนต่อไหนได้แล้วเหมือนกัน "...I want to call the stars down from the sky, I want to live a day that never dies, I want to change the world only for you, All the impossible I want to do..." ยิ่งฟังก็ยิ่งอิน รู้สึกทุกทีว่าคนแต่งราวกับมาเดินวนอยู่ในใจเราเลย เมื่อเพลงนี้มาเจอกับเสียงของ Diana Ross ยิ่งเป็นอะไรที่ลงตัวเป็นอย่างมากเลยขอบคุณภาพประกอบ bryan adam6. Everything I do, I do it for youRobin Hood ภาพยนตร์ที่โด่งดัง พร้อมเพลงประกอบที่ยอดเยี่ยม กับเสียงแหบเสน่ห์ชวนหลงเพ้อละเมอหาของ Bryan Adams แทบจำไม่ได้แล้วว่าตกหลุมรัก Bryan Adams ตั้งแต่เมื่อไหร่ เพลงทุกเพลง ไม่ว่าจะเป็น Please forgive me, Have you ever really love me, All for love และอีกหลาย ๆ เพลงนั้นพูดถึงได้ไม่มีวันเบื่อ โดยเฉพาะเพลง Everything I do, I do it for you เพลงนี้มันจับใจซะเหลือเกิน โดนใจตั้งแต่อินโทร จนถึงเนื้อเพลงท่อนแรก "....Look into my eyes, You will see, What you mean to me, Search your heart, Search your soul and when you fine me there, You'll search no more..." ฟังเพลงนี้ทีไร จะรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจทุกครั้งเลย ยิ่งพอมาท่อนนี้ด้วยแล้ว เหมือนเอาตัวเองเข้าไปเป็นคน ๆ นั้นกันเลย "...Don't tell me it's not worth fightin' for, I can't help it, there's nothin' I want more, You know it's true, Everything I do, I do it for you..."ขอบคุณภาพประกอบ way back into love7. Way back into loveเวลาคิดถึง Hugh Grant ทีไรก็อารมณ์ดีทุกที ผู้ชายอะไรมีเสน่ห์เอามาก ๆ แถมยังร้องเพลงเพราะอีกต่างหาก หลายคนที่เคยดู Nothing Hill ก็คงคิดเหมือนกับเรา แต่เพลง Way back into love นั้นเป็นเพลงที่โด่งดังมาจากหนังที่มีชื่อเรื่องว่า Music and lyrics เป็นเพลงคู่ ที่ทำให้ชีวิตดูสดใส หวานฉ่ำ ทั้งที่จริง ๆ นั้นเนื้อหาของเพลงจะออกเศร้า ๆ และไขว่คว้ามองหาความสุขสมหวัง ยกตัวอย่างในเนื้อเพลงท่อนนี้ "...I've been watching but the stars refuse to shine, I've been searching but I just don't see the signs, I know that it's out there, There's got to be something for my soul somewhere....."ขอบคุณภาพประกอบ M2M8. The day you went awayเสียงร้องใส ๆ น่ารัก กับวง M2M นักร้องสาวชาวนอร์เวย์ ที่สร้างปรากฎการณ์ดังไปทั่วโลก ทั้งเพลง Pretty boy, Mirror Mirror และเพลงนี้ The day you went away ที่สะท้อนความรักของวัยหนุ่มสาวที่เลิกรากันไปเพราะไปมีคนใหม่ ถึงแม้เนื้อเพลงจะเศร้า แต่ M2M กับท่วงทำนองและเสียงร้องที่น่ารัก ทำให้ความรักเศร้า ๆ เหงา ๆ ดูเบาลงไปเลย ถึงจะมีเนื้อร้องหนัก ๆ ขนาดนี้ "...So sad but true, for me there's only you, Been crying since the day, the day you went away..." เนื้อเพลงยังบอกเล่าถึงความทรงจำ ในวันที่เคยมีความสุขกับความรัก แต่ก็ทำได้เพียงแค่ตอกย้ำว่าความรักและเธอได้จากไปแล้ว ไม่มีอีกแล้ว อารมณ์เศร้าประมาณนี้ แต่ฟังเพลงนี้ทีไรกลับรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจอย่างบอกไม่ถูกจริง ๆขอบคุณภาพประกอบ Jason Mraz9. I'm yoursแนวเพลงป๊อบ อะคูสติก ที่มีจังหวะและทำนองน่ารักมาก ลีลาการร้องที่มีเอกลักษณ์ กับนักร้องหนุ่มชาวอเมริกัน Jason Mraz ที่มีสไตล์ผสมระหว่างป๊อบกับฮิปฮอปที่ลงตัวพอดี เนื้อหาก็พูดถึงความรู้สึก ความรัก ฟังแล้วก็อารมณ์ดี เพราะเสน่ห์จากเสียงร้องและจังหวะของดนตรี แต่ก็อดจะประทับใจบางท่อนไม่ได้ "...Before the cool done run out, I'll be giving it my best-est, And nothing's going to stop me but divine intervention, I reckon it's again my turn, To win some or learn some ...." ฟังไปทำงานไปกับเพลงนี้ ช่วยให้อารมณ์กระฉับกระเฉงขึ้นมามากจริง ๆขอบคุณภาพประกอบ beegees10. How deep is your loveนึกถึง Bee Gees เราแทบบอกไม่ได้เลยว่าเพลงไหนกันแน่ ที่เป็นเพลงดังเพลงฮิตของวงดนตรีวงนี้ เพราะมันมีมากมายไปหมด แต่เพลงที่ยังคงร่วมสมัยได้รับความนิยมต่อเนื่องไม่ว่ารุ่น Baby Boomer, Gen X, Gen Y ต่างก็รู้จักและรักเพลงนี้กันแทบทุกคน เพราะเป็นเพลงที่นุ่มนวลชวนฟัง ดูเรียบง่าย แต่ความหมายนั้นงดงามเหลือเกิน "....How deep is your love? I really mean to learn, Cause we're living in a world of fools breaking us down, When they all should let us be, We belong to you and me ...." เนื้อหาเพลงสะท้อนความรู้สึกอยากจะเรียนรู้ว่าความรักเป็นอย่างไร ทั้งในช่วงเวลาที่ดีที่สุด หรือช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุด ความรักยังลึกซึ้งจริงใจต่อกันเพียงไหน ท่ามกลางแดดยามเช้า สายฝนโปรยปราย และสายสัมพันธ์แห่งสองเราในช่วงเวลาที่ทุกคนต้องปรับชีวิตใหม่ เพราะสถานการณ์โรคระบาดไวรัสโคโรนากลายเป็นเรื่องใกล้ตัว และไม่สามารถคาดการณ์ได้ การดูแลตัวเองที่ดีที่สุดก็คือการใส่ใจ มีวินัย ล้างมือด้วยน้ำสะอาด และสบู่ ใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกต้องตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค สิ่งเหล่านี้เป็นการดูแลสุขภาพของร่างกาย แต่สำหรับสุขภาพทางด้านจิตใจนั้น เราก็ต้องคอยดูแลเสริมสร้างกำลังใจให้มากด้วยเช่นกัน การได้ฟังเพลงโปรด เพลงที่ชอบในสถานการณ์เช่นนี้ ก็จะช่วยให้หัวใจเราผ่อนคลายได้ดียิ่งขึ้น วันที่เราหลาย ๆ คนต้องทำงานอยู่กับบ้าน ปรับวิธีการเป็นการทำงานแบบ Work From Home ก็เพื่อที่จะลดความเสี่ยงให้กับตัวเราเองและสังคม เพื่อที่เราทุกคนจะก้าวผ่านวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกัน ขอบคุณภาพปก Dan Farrell / unsplash + Kiyun Lee / unsplash