โย-เอ ยอมรับบัญชีบริษัทยังไม่นิ่ง โต้! ใช้ไอจีโปรโมทสินค้าใหม่ไม่น่าเกลียด

          กลายเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดที่ดูท่าจะจบลงยาก สำหรับ“โย-ยศวดี หัสดีวิจิตร” กับอดีตเพื่อนซี้ “บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์”กรณีผิดใจกันในเรื่องการทำธุรกิจอาหารลดน้ำหนัก ซึ่งต่างคนต่างงัดหลักฐานมาสู้ ล่าสุด “โย-ยศวดี” ขอควงแขนพี่สาว “เอ-อัญชลี” มาเปิดใจอีกครั้งในรายการ“คนดังนั่งเคลียร์” ทาง ช่อง 2 บันเทิง ถึงรส ถึงคุณ ที่นี้ที่เดียว

ขัดแย้งกันเรื่องปกติ ?

โย : จริงๆ มันไม่น่าจะต้องแตกหักกันขนาดนี้

บีบอกเป็นเพื่อนร่วมโลก ไม่สุงสิงดีกว่า ?

โย : น่าโกรธมากนะ(หัวเราะ) ถามว่าหนูหัวเราะทำไมหนูรู้จักเขา รูจักเขาดีไง(ยิ้ม) คือบีจะเป็นคนที่ใครไปจิ้มถูกจุดเขาจะพุ่งเลย

ทำไมเพื่อนถึงพูดแบบนี้ ?

โย : ก็แน่นอนว่าต้องมีอะไรที่ทำให้เขาต้องการให้เรารู้สึก เต็มๆ อ่ะ เพราะเขารู้ว่าถ้าเขาพูดแบบนี้มาโยฟังปุ๊บโยต้องเจ็บจี๊ดไปถึงหัวใจ มันเป็นการกระทำของแบบ เวลาเด็กนักเรียนเนี่ยทะเลาะกันอาจารย์( อ.ยิ่งศักดิ์) เคยเป็นไหมคะที่เรียน เหมือนว่าสมัยที่เราเรียน ม.ต้น เรากลับไปมีชีวิตแบบนั้นแล้ว มีชีวิตอยู่ในกลุ่มเพื่อนผู้หญิง แล้วเวลาเพื่อนผู้หญิงรักกันมากๆ เวลาจะแตกกันมันมีคำแบบนี้แน่ๆ โยเลยคิดว่าโยกำลังกลับไปอยู่ในวัยเด็ก อีกรอบหนึ่ง(หัวเราะ)

ไม่คิดบ้างเหรอว่ามันออกมากจากจิตใจของบีจริงๆ ?

โย : ถ้าน้องคิดว่าอะไรที่มันดีที่สุดวันนี้ก็ยังยืนยันว่าอยากให้เขาเลือกสิ่งที่มีความสุข ถ้าเขามีความสุขจริงๆ ในการพูดเสียดแทง อยากให้เขาพูดมาให้เยอะๆ เลยนะ พูดมาทุกวันก็จะยอมรับฟัง ถ้าเขารู้สึกดีขึ้น

คิดว่าเขาไม่อยากคบเราแล้ว ?

โย : คิดว่าการคบกันเป็นเรื่องยาก เรื่องยาก ณ เวลานี้ อย่าว่าแต่ทางเขา ทางตัวโยเองก็ตอบได้เลยว่ามันยากมาก

ข้อความสำคัญบางอย่างทำไมเลือกที่จะคุยกันในไลน์ ?

โย :ไม่ค่อยได้โทรคุยกันจริงๆ บอกได้เลยว่าหลายเดือนมากแล้ว เกือบครึ่งปี ที่จะยกหูโทรศัพท์หากันเนี่ย แทบไม่มีเลย ถ้าจะมีอะไรก็คุยไลน์กัน 2-3 คำแล้วจบ จนวันที่ตัดสินใจปิดธุรกิจ คือเดือนสิงหาคม เรียกมาคุย คุณบีก็มากับผู้ช่วยวันนั้นคือวันที่พูดอย่างเต็มปากเต็มคำต่อหน้าต่อตากันว่าตัดสินใจจะปิดธุรกิจวันที่ 4 ตุลาคม นะ

วันนั้นเป็นยังไง ?

โย : ยอมรับว่าเขาก็อึ้งๆ นิดหนึ่งค่ะ แต่ว่าก็ให้เหตุผลกันและกันว่า ตัวผู้ช่วยเขาเองไม่เห็นด้วยที่จะให้ปิด เขาอยากให้ทำต่อ แต่ตัวคุณบีก็อารมณ์ร้อนๆ แนวเขา เราก็ตัดใจแล้ว มันก็มาถึงจุดที่ว่าตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังไม่เคยคุยอะไรกัน ก็จะคุยแต่ไลน์นี่แหละค่ะ

ไลน์ทำให้เกิดความแตกหัก ?

โย/เอ :ใช่(พยักหน้า)

บีตอบไลน์ห้วนๆ ?

โย : เขาเป็นคนที่พอโยพูดอะไรไปเขาก็จะ ค่ะ ขอบคุณนะคะ ค่ะอะไรอย่างนิ้ แนวประมาณนี้ หลังจากจัดการอะไรให้คำสุดท้ายที่ได้คุยกันคือคำว่า ค่ะ ขอบคุณค่ะ(หัวเราะ) แค่นี้เองมันก็จบ ปิด(ยิ้ม) โยก็คิดว่าทุกอย่างเคลียร์แล้ว จบแล้ว เราเป็นคนที่ไม่ค่อยตามงาน

แล้วทำไมถึงไปให้สัมภาษณ์แบบนั้น ?

โย : โยคิดว่าไอ้คำว่าค่ะ ขอบคุณค่ะ นี่คงเป็นอะไรที่โกรธสุดๆ แล้ว โยเดาใจเขาไม่ออกจริงๆ

เป็นเพื่อนกันประสาอะไร ?

โย : โยว่าเขาคงอยากให้โยใส่ใจเขามากกว่านี้ โทรหาเขาพูดอะไรกับเขาเยอะมากกว่านี้มากกว่า แต่ตัวโยเองก็ละเลย ทำไมไม่ทำ

ถึงตอนนี้ก็สายไปแล้ว ?

โย : ถูก ถึงพยายามที่จะใจเย็น มีทุกอย่างอะไรมา ลงมาเถอะโทษมาเลย อะไรก็ตามที่คุณบีจะพูด ก็ไม่ได้มีเป็นใบหนี้สิน กล่าวโทษอะไรก็จะยอมรับทั้งหมด

จะปิดบอกเขาว่าอะไร ?

โย : ก็โอเคบีพี่ว่าเราควรปิดนะ เพราะว่าธุรกิจเรามันก็กำไรไม่ค่อยดี 4 ตุลาคมพี่ตัดสินใจปิดนะ เขาก็ อืม ตามใจค่ะ ตามใจพี่ละกัน(หัวเราะ) แนวเขาจะเป็นอย่างนี้(หัวเราะ) แล้วไม่บอกเหตุผลให้มากกว่านี้

บัญชี ขาดทุนโน้นนี่ ?

โย :ก็วันนั้นมันมีบัญชีอยู่ต่อหน้าแล้วค่ะ ก็ให้เขาลองดู เขาก็บอกเนี่ยแล้วรายจ่ายอันนี้ยังไง อันนี้ยังไง เขามีคำถามนะคะ แล้วผู้ช่วยเขาก็ถามมาเยอะ เราก็โอเคถ้าเกิดมีอะไรที่รู้สึกว่า ไม่เข้าใจ ตรงโน้นตรงนี้เดี๋ยวจัดการให้ สิ้นเดือนวันที่ 30 กันยายน ก่อนปิดเรามาดู 4 ตุลาคม คือเราปิดทุกอย่างแล้ว

แต่ข่าวออกมาก่อนว่าบัญชีไม่โปร่งใส ?

เอ : มันจะโปร่งใสได้ยังไงในเมื่อบัญชีมันยังไม่ปิด มันยังอยู่ไม่นิ่ง

โย : ใจร้อนไปนิดนึง

เอ : มันยังอยู่ไม่นิ่ง รายจ่ายมันยังมีอยู่ทุกวัน ในการสั่งอาหาร ในการส่งของ แมสเซ็นเจอร์ ต้องเป็นเดลิเวอร์รี่ ถ้าปิดแล้วขาดทุน เขาต้องจ่ายส่วนที่ขาดทุนรึป่าว

นั่นคือส่วนที่เขากังวน ?

โย : ถ้าเป็นแนวนั้นเนี่ยโยเข้าใจเลยค่ะ ว่าโอเคคือปัญหาสมันตรงหน้า มันมองเห็นอยู่แล้ว มันมีกำไรนะ แล้วมันไม่ได้ขาดทุน ไม่มีใครต้องเจ็บตัว ในขณะที่คุณบีเองไม่ได้ลงทุนเป็นจำนวนเงินเพราะฉะนั้นมันไม่ต้องคืนอะไร เท่ากับว่าตัวเองก็ปลอดภัย

มีกำไรแล้วไม่แบ่ง ?

โย : โยว่าข้อพวกนี้คิดว่าคิดนะ

เอ : ต้องเรียกเขามาคุย เขาอาจจะไม่เข้าใจ

โย : คิดว่าคิดอย่างรายจ่ายพนักงาน เขาก็อาจจะแบบเอ้ย เชื่อรึป่าว ไม่เชื่อ ตอนนี้ทุกอย่างมันจะรู้ได้ ต่อเมื่อต้องมาคุยกันไง 

ไอจีโยบี เอาไปโฆษณาสินค้าตัวใหม่ ?

โย : อันนี้ก็คงเป็นเพราะว่ามองข้ามอะไรไปหลายๆ จุด ที่อาจจะมัวยุ่งกับงานที่ทำจริงๆ พอเห็นว่าไอจีโยบีมันนิ่งไปแล้ว ไม่ได้มีการโปรโหมตอะไร เพราะเรารู้แล้วว่าจะปิด เราก็คิดจะทำอะไรกับมันดี อยู่ๆ จะปิดไปเลยก็เสียดายฐานเกือบแสน แล้วก็คุณบีเองก็เงียบๆ โยคิดว่าคงไม่มีอะไรก็โพสประมาณ 4-5 รูป คราวนี้ก็ทำให้เขาโกรธมากเรื่องนี้ แต่พอโกรธมากคุยกันแล้วอะไรกันแล้ว เหมือนจะเคลียร์ได้ จริงๆ แล้วคือปากกับใจอาจจะไม่ตรงกันก็เลยไม่รู้ในใจที่เขาคิดจริงๆ 

เอว่าไงน้องสาวจะเอาไอจีอันนั้นมาโฆษณาสินค้าใหม่ มันน่าเกลียดไหม ?

เอ : คือเอาจริงๆ นะคะ ตั้งแต่ที่เขาเริ่มต้นมีธุรกิจนี้แล้วเขาสร้างไอจีมาด้วยกัน เอเคยได้ยินเขาคุยกันว่าถ้าวันไหนต่างคนต่างมีธุรกิจอะไร เราเอาธุรกิจของตัวเองมาโปรโหมต หรือถ้าบีมีอะไรเอามาโปรโหมตได้ โยมีอะไรเอามาโปรโหมตได้

โย : เราจะไม่ปิดไอจีนี้เพราะเราสร้างกันมามันเหนื่อยมาก

เอ : สร้างมาด้วยกัน แล้วก็อีกอย่างหนึ่งทั้ง 2 เขาก็ทำมาด้วยกัน ถ้าวันหนึ่งความสัมพันธ์เป็นเพื่อน ถ้ามันยังดีอยู่ เอเชื่อว่าไอจีตัวนี้ไม่น่าจะมีปัญหา แต่เผอิญมันมีอคติในใจอยู่แล้ว มันถึงมีปัญหาตรงนี้

          ติดตามบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ได้ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ได้ทางช่อง 2 ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 7.00/ 11.00/ 17.00/ 20.00/ 23.00 น. และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/thaich2