เมื่อพูดถึงมังงะแนวสยองขวัญและดราม่าที่น่าจับตามองที่สุด และกำลังจะกลายมาเป็นอนิเมะให้เข้าชมกันอีกไม่ช้า คงหนีไม่พ้น "The Summer Hikaru Died" ผลงานของอาจารย์โมคุโมกุเร็น (Mokumokuren) ที่จะได้พาผู้ชมไปสำรวจความลึกลับของจิตใจมนุษย์ผ่านเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ผิดเพี้ยนระหว่างเด็กหนุ่มสองคนในชนบทที่งดงาม รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! หากมองผิวเผิน "The Summer Hikaru Died" อาจดูเหมือนเป็นมังงะสยองขวัญทั่วไป แต่แท้จริงแล้วมันคือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความสยองขวัญทางจิตวิทยา, ดราม่า, และการตั้งคำถามเกี่ยวกับมิตรภาพและความเป็นมนุษย์ ซึ่งคาดว่าเมื่อถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบอนิเมะ จะยิ่งทวีความน่าสนใจขึ้นไปอีกขั้น เรื่องย่อ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นอย่างเรียบง่ายในฤดูร้อนที่แสนอบอุ่นกับเด็กหนุ่มสองคน โยชิกิ และ ฮิคารุ ผู้เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปตามปกติ จนกระทั่งวันหนึ่งฮิคารุหายตัวไปและกลับมาอีกครั้งในสภาพที่ดูเหมือน "คนเดิม" แต่กลับนั่นกลับไม่ใช่ฮิคารุคนเดิมอีกต่อไป เพราะสิ่งที่โยชิกิสัมผัสได้นั้น…. ความจริงที่เขาไม่เคยบอกใครกำลังจะถูกเปิดเผยในรูปแบบการกลับมาที่หลอกหลอนจากเพื่อนสนิท แม้ภายในเรื่องจะไม่ได้ใช้ความสยองขวัญแบบ Jump Scare หรือฉากที่น่าตกใจจนเกินไป แต่ใช้การสร้างบรรยากาศที่น่าขนลุกและกดดันอย่างช้าๆ การผูกเรื่องที่ค่อยๆ เผยความจริงทีละน้อยสไตล์ญี่ปุ่น ทำให้ผู้ชมจะรู้สึกเหมือนกำลังไขปริศนาไปพร้อมกับโยชิกิ ตัวละครโยชิกิถูกออกแบบมาให้เป็นคนธรรมดาที่ต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่เกินกว่าจะจินตนาการได้ ความเจ็บปวดจากการสูญเสียเพื่อนที่รัก และความสับสนในการยอมรับ "สิ่ง" ที่อยู่ตรงหน้า ทำให้เขาเป็นตัวละครที่มีมิติและน่าเอาใจช่วยอย่างแท้จริง จุดที่น่าสนใจ หัวใจหลักของเรื่องอยู่ที่ความสัมพันธ์ระหว่างโยชิกิและ "ฮิคารุ" คนใหม่ ความผูกพันที่เคยบริสุทธิ์ถูกแทนที่ด้วยความกลัว ความสงสัย และความไม่แน่นอน แต่ถึงอย่างนั้น โยชิกิก็ยังคงรักและอยากจะปกป้อง "สิ่งนั้น" ที่มีใบหน้าของเพื่อนรักของเขาเอาไว้ ความรักที่มาพร้อมกับความตายและความสยองขวัญเป็นธีมหลักที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกประทับใจและหวั่นไหวไปพร้อมๆ กัน งานภาพของอาจารย์ “โมคุโมกุเร็น“ คืออีกหนึ่งจุดเด่นที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ ภาพวาดที่เน้นความนุ่มนวลและสวยงามของชนบทในฤดูร้อน ตัดสลับกับภาพความสยองขวัญที่ถูกนำเสนออย่างละเอียดและน่าขนลุก ทำให้เกิดความขัดแย้งที่น่าสนใจระหว่างความงามและความน่ากลัวได้อย่างลงตัว และแน่นอนว่าในอนิเมะเองก็ทำออกมาได้เพอร์เฟคสุดๆ ฉบับอนิเมะจะสามารถนำเสนอภาพวาดที่สวยงามของชนบทญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อนได้อย่างเต็มที่ การใช้โทนสีที่สดใส แสงแดดที่ส่องผ่านป่าไม้ หรือทุ่งหญ้าที่พลิ้วไหว จะสร้างความขัดแย้งที่น่าสนใจกับเนื้อหาที่มืดมนของเรื่องได้เป็นอย่างดี ความงดงามของทัศนียภาพจะทำหน้าที่เป็นฉากหลังที่ยิ่งขับเน้นความสยองขวัญให้มากขึ้น เหมือนกับคำพูดที่ว่า "ความสวยงามที่ซ่อนความตายไว้ภายใน" การใช้เสียงและดนตรีประกอบ นี่คือสิ่งที่อนิเมะจะได้เปรียบมังงะมากที่สุด ดนตรีประกอบและเสียงเอฟเฟกต์ จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างบรรยากาศที่กดดันและน่ากลัว ซึ่งอย่างที่รู้ว่าเป็นอนิเมะแนวธีมสยองขวัญ เสียงที่ผิดเพี้ยน, เสียงกระซิบที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ, หรือเสียงที่แสดงถึงพลังเหนือธรรมชาติ จะทำให้ผู้ชมรู้สึกขนลุกและตื่นเต้นไปพร้อมๆ กัน ความสัมพันธ์ที่เปราะบางและสยองขวัญของตัวละครหลัก ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่าง “โยชิกิ” และ "ฮิคารุ" คนใหม่ แม้จะไม่ถูกระบุว่าเป็น BL Yaoi แต่ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและอาการคลั่งรักนั้นเรียกได้ว่ากระทบใจสาววายสุดๆ “The Summer Hikaru Died" ไม่ได้เป็นแค่เรื่องราวสยองขวัญ แต่เป็นงานศิลปะที่ละเอียดอ่อนและลึกซึ้ง การที่เรื่องนี้ถูกสร้างเป็นอนิเมะจะทำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับความงามและความน่ากลัวที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว และทำให้ตัวละคร รวมถึงความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดของพวกเขา มีชีวิตชีวาและน่าจดจำยิ่งขึ้น ถ้าคุณชอบเรื่องราวที่มีบรรยากาศหนักๆ และการสำรวจจิตใจตัวละครที่ซับซ้อน ผู้เขียนมั่นใจว่าอนิเมะเรื่องนี้จะเป็นอีกหนึ่งผลงานที่คุณไม่ควรพลาดเด็ดขาด!!! ขอบคุณรูปภาพโดย Twitter: @hikaru_anime_en ภาพปก ภาพที่ 1/2/3/4/5/6/7/8/9/10/11/12 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !