หลังจากที่ กาย ริตชี่ย์ หันไปกำกับหนังบล็อคบัสเตอร์ฟอร์มยักษ์ เป็นเวลาร่วมเกือบทศวรรษ ซึ่งบางเรื่องก็ปังบ้าง แป้กบ้าง จนทำให้คอหนังหลาย ๆ คนต่างคิดถึงหนังในยุคแรก ๆ ของเขาอย่าง Lock, Stock and Two Smoking Barrels และ Snatch ซึ่งในปี 2020 นี้ ในที่สุดเราก็ได้เห็น ริตชี่ย์ กลับมาคืนฟอร์มอีกครั้ง ในหนัง The Gentlemen ที่ครั้งนี้เขาได้ยกทัพนักแสดงดังมาร่วมงานกันแบบยกทัพ และพร้อมเตรียมเซอร์ไพรซ์ให้กับคนดูที่คิดถึงหนังอาชญากรรม ตลกร้ายอีกเพียบสำหรับเรื่องย่อของ The Gentlemen ขออธิบายแบบคร่าว ๆ โดยรวมที่สุด เพราะหนังเรื่องนี้ขอแนะนำแบบเดียวกับ Knives Out คือยิ่งรู้น้อยที่สุด ยิ่งสนุกที่สุด และหลีกสปอยล์ให้ดี โดยหนังจะพูดถึงเรื่องรางของ มิกกี้ เพียร์สัน(แมธธิว แมคกอนนาเฮย์) เจ้าพ่อค้ากัญชาเจ้าใหญ่ ที่กำลังวางแผนสละบัลลังก์ของตัวเอง และขายมันให้กับคนที่เหมาะสม ซึ่งเมื่อข่าวนี้ แพร่งพรายออกไปก็ทำให้มีคนบางกลุ่มเริ่มให้ความสนใจ และอยากที่จะแย่งชิงอาณาจักรกัญชานี้มาเป็นของตน เรื่องวุ่น ๆ มากมายในโลกของอาชญากรรมก็ได้เริ่มขึ้นThe Gentlemen เรียกได้ว่าเป็นหนังคืนสู่เหย้าของกาย ริตชี่ย์ที่แท้จริงก็ว่าได้ ใครที่คิดถึงสไตล์การกำกับกวน ๆ มุกตลกร้ายหน้าตายที่เล่นกับความซวยของตัวละคร และความวายป่วงของเรื่องราว ที่คนดูคาดไม่ถึง ใครที่คิดถึงเสน่ห์เหล่านี้ เรื่องนี้ ริตชี่ย์ใส่มาแบบจัดเต็ม ไม่มีกั้ก นอกจากนี้ ในเรื่องนี้ ริตชี่ย์ยังเพิ่มรสชาติใหม่ ๆ เข้าไปในหนัง ด้วยการแซะวงการภาพยนตร์ ผ่านบทพูด และลูกเล่นต่าง ๆ ของหนังออกมาได้อย่างชาญฉลาดสำหรับการเล่าเรื่อง เหมือนว่าหนังเรื่องนี้คือการปล่อยของของ ริตชี่ย์ หลังจากที่เก็บกดมานานหลายปี เพราะหนังได้มีการสับขาหลอกคนดูตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้ดูตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงวินาทีสุดท้าย หนังใช้ทุกช่วงเวลา ทุกวินาทีในหนังได้อย่างคุ้มค่า ด้วยการตัดต่อได้ดุเดือด เมามันส์ และบทสนทนาที่เข้มข้น จนเราไม่สามารถละสายตาไปจากจอภาพยนตร์ได้ช่วงแรกของหนังจะเป็นการแนะนำตัวละครต่าง ๆ รวมถึงเหตุการณ์โดยรวมของหนังที่ตัวละครจะต้องประสบพบเจอใน องก์ 2 ของหนัง ซึ่งในข่วงที่หนังดูเหมือนจะเนิบนาบที่สุดนี้ ริตชี่ย์ ก็ได้ใส่ลูกเล่นต่าง ๆ ให้หนังดูไม่น่าเบื่อ และชวนติดตาม ด้วยการตัดสลับไทม์ไลน์ไปมา ซึ่งหนังจะใช้เทคนิคนี้เกือบตลอดทั้งเรื่อง โดยเมื่อเข้าสู่องก์ 2 เป็นต้นไป หนังก็ค่อย ๆ จัดเต็มไปการใส่ประเด็นความขัดแย้งมากมายในเรื่อง โดยความขัดแย้งต่าง ๆ นั้น ก็ได้ถูกขมวดมาเป็นปมใหญ่ปมเดียวกัน ในท้ายที่สุด แน่นอนว่าท้ายเรื่องหนังก็ได้จัดเต็มความวายป่วง ความบันเทิงที่เมื่อเราดูแล้ว ยิ่งลุ้น ยิ้งสนุก และเต็มไปด้วยอะไรที่คาดไม่ถึง ตลอดทั้งเรื่องการแสดงของหนัง เรียกว่าหนังใช้งานทุกตัวละคร นักแสดงแต่ละครออกมาได้อย่างคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็น แมธธิว แม็กกอนนาเฮย์ ที่สามารถรับบทเจ้าพ่อมาดขรึมออกมาได้เท่ และมีเสน่ห์มาก ๆ ด้าน ชาร์ลี ฮันแนมในเรื่องนี้ ก็สามารถทำหน้าที่เป็นตัวดำเนินเรื่อง กว่า 60% ของหนังเรื่องนี้ออกมาได้อย่างน่าชื่นชม ส่วน เฮนรี่ โกลดิ้ง ก็สลัดมาดสมาร์ทกาย มาเป็นมาเฟียจีนสุดกร่าง จนเราลืมภาพเขาจากหนังเรื่องก่อน ๆ ไปหมดสิ้น แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือการแสดงของ ฮิวจ์ แกรนท์ ที่ปั่นประสาทคนดูได้อย่างยอดเยี่ยม ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง จนเราทั้งรัก ทั้งเกลียดตัวละครนี้ไปเลยก็ว่าได้หนังอาจมีข้อด้อยอยู่บ้างในแง่ของการเล่าเรื่องที่รวดเร็ว ตัดสลับไปมาระหว่างหลายเส้นเรื่องจนทำให้เราอาจสับสนว่าอันไหนเรื่องจริง อันไหนเรื่องหลอก ในขณะที่บางประเด็นที่หนังพยายามจะหักมุมคนดู หลายตลบ ให้กลายเป็นหักมุมซ้อนหักมุมอีกที ซึ่งหนังก็ต้องใช้ความพยายาม และชั้นเชิงในการแถ ให้ดูเนียน และน่าสนใจ แต่ทว่าบางจุดกลับดูเป็นการพยายามแถมากเกินไป จนเนื้อหาดูไม่สมเหตุสมผล แต่อย่างไรก็ตามจุดด้อยเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นส่วนที่เติมเต็มความบันเทิงให้หนังได้ไม่น้อยเลยโดยรวม The Gentlemen คือหนังคืนฟอร์มของ กาย ริตชี่ย์อย่างแท้จริง หนังมีทุกอย่างที่หลาย ๆ คนถวิลหาจากผู้กำกับคนนี้ และยังเต็มไปด้วยลูกเล่นที่แพรวพราวยิ่งกว่าเดิม ใครที่ยังติดใจกับหนังหักมุม ซ้อนหักมุม เต็มไปด้วยการสับขาหลอกตลอดทั้งเรื่อง เรื่องนี้ถือว่าไม่ควรพลาด Cr. รูปภาพจาก M Pictureลิ้งต้นฉบับบทความ https://www.facebook.com/IWatchmoviesalot/posts/3395223343884625?__tn__=K-Rสามารถติดตามอ่านรีวิวหนัง และข่าวสารหนัง เพิ่มเติมได้ที่(เพจของผู้เขียน) https://www.facebook.com/IWatchmoviesalot