‘Edge of Tomorrow 2’ เป็นโปรเจกต์ที่เต็มไปด้วยปัญหามากมาย จนทำให้การพัฒนาต้องหยุดชะงักเป็นระยะในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยไลแมน, ครูซ และคริสโตเฟอร์ แมคควอรี (Christopher McQuarrie) ผู้ร่วมเขียนบท ได้เปิดเผยว่าพวกเขามีไอเดียสำหรับภาคต่อแล้ว ซึ่งจะเป็น “ภาคต่อที่เป็นเหมือนภาคเล่าเรื่องจุดเริ่มต้นไปพร้อมกัน” แต่ทีมเขียนบทได้ถูกเปลี่ยนหลายครั้ง เริ่มตั้งแต่ โจ ชราพเนล (Joe Shrapnel) และแอนนา วอเทอร์เฮาส์ (Anna Waterhouse) จาก ‘Snake Eyes: G.I. Joe Origins’ (2021) จากนั้นได้เปลี่ยนมาเป็น แมทธิว โรบินสัน (Matthew Robinson) ผู้ร่วมเขียนบท ‘Love and Monsters’ (2020) เพื่อปรับแก้บทในปี 2019 และเสร็จสิ้นไปเมื่อเดือนตุลาคม 2023 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังมีปัญหาจากการที่สตูดิโอยังไม่เชื่อมั่นที่จะลงทุนในโปรเจกต์นี้อย่างเต็มตัว และตารางงานที่แน่นมากของครูซและเอมิลี บลันต์ (Emily Blunt) ที่ส่งผลให้โปรเจกต์เกิดความล่าช้าเช่นกัน

ในปัจจุบัน บลันต์เป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จในภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่หลายเรื่อง เช่น ‘Oppenheimer’ (2023) และ ‘The Fall Guy’ (2024) เป็นต้น และกำลังแสดงนำในโปรเจกต์ใหม่หลายตัว ในขณะที่ครูซนั้น กำลังยุ่งกับการสร้าง ‘Mission: Impossible’ ภาคสุดท้าย และเตรียมจะแสดงนำในภาพยนตร์ใหม่ของ อาเลฆันโดร กอนซาเลซ อิญญาร์ริตู (Alejandro G. Iñárritu) ผู้กำกับ ‘The Revenant’ (2015)

แต่ด้วยความที่ครูซได้เซ็นสัญญาใหญ่กับ Warner Bros. จึงอาจมีส่วนทำให้โปรเจกต์ ‘Edge of Tomorrow 2’ ได้รับการพัมนาอย่างจริงจังมากขึ้นในอนาคต