พ่อพระมาโปรด "คีอานู รีฟส์" ชอบมอบของบริจาคเงินเพราะรู้สึกว่ามีเงินและทรัพย์สินมากเกินไป

ไม่ว่าใครก็อยากจะร่ำรวยด้วยกันทั้งนั้น แต่ไม่ใช่สำหรับนักแสดงหนุ่มใจบุญ "คีอานู รีฟส์" (Keanu Reeves) ที่ในขณะนี้มีทรัพย์สินอยู่ที่ 315 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 1 หมื่นสี่ร้อยห้าสิบสี่ล้านบาท โดยล่าสุดเพื่อนสนิทที่ไม่ประสงค์ออกนามของ "คีอานู รีฟส์" ได้ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าว "The Post" ว่า "คีอานู รีฟส์" รู้สึกอายและขัดเขินมากที่มีเงินจำนวนมากมายขนาดนี้ ในขณะที่ยังมีผู้คนอีกเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนที่ไม่มีเงินพอที่จะซื้ออาหารรับประทานเพื่อประทังชีวิตในแต่ละวัน

Photo Credit Website : Esquire

ด้วยสาเหตุนี้ทำให้ "คีอานู รีฟส์" มักจะซื้อของราคาแพงเป็นของขวัญให้กับทีมสตั๊นท์แมนและทีมงานในกองถ่ายหนังที่เขานำแสดงอยู่บ่อยครั้งไม่ว่าจะเป็นรถ "Harley Davidson", เงินโบนัสที่มอบให้ทีมงานในกองถ่ายทุกคนเป็นจำนวนคนละ 20,000 เหรียญสหรัฐฯ และเมื่อไม่นานมานี้ "คีอานู รีฟส์" ก็เพิ่งจะซื้อนาฬิกาโรเล็กซ์ให้กับทีมสตั๊นท์แมนของหนัง "John Wick" ภาค 4 โดยเพื่อนที่ให้สัมภาษณ์กับทาง "The Post" เผยเพิ่มเติมว่าที่ผ่านมา "คีอานู รีฟส์" ได้มอบเงินและมอบของขวัญให้กับญาติพี่น้อง,เพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการ รวมถึงมอบเงินให้กับมูลนิธิการกุศลต่างๆโดยที่ไม่ได้เป็นข่าวเป็นจำนวนมหาศาล เนื่องจาก "คีอานู รีฟส์" มองว่าเขาเป็นคนที่โชคดีมากที่เป็นนักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์ ส่วนเงินที่เขาได้มาก็ถือว่ามากมายเกินกว่าจะใช้หมดทั้งๆที่ไม่ได้ทำงานหนักอะไรมากนัก ถ้าหากเทียบกับทีมงานในกองถ่ายหนังที่ทำงานหนักมาก

Photo Credit Website : Page Six

เมื่อเดือนธันวาคมปี 2021 ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป "คีอานู รีฟส์" ได้มอบเงินค่าเหนื่อยเป็นจำนวนถึง 70% เปอร์เซ็นต์จากการเล่นหนัง "The Matrix" ภาคแรกที่เขาเก็บเอาไว้เพื่อมอบให้กับมูลนิธิวิจัยทางด้านโรคมะเร็ง และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีการสัมภาษณ์ผู้กำกับ, ทีมนักแสดง รวมถึงทีมงานจำนวนมากที่เคยร่วมงานกับ "คีอานู รีฟส์" ซึ่งทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าพระเอกหนุ่มรุ่นใหญ่คนนี้เป็นคนที่นิสัยดีและมีความเอื้ออาทรมากที่สุดเท่าคนหนึ่ง ท่ามกลางนักแสดงจำนวนมากที่พวกเขาเคยร่วมงานด้วย นอกจากนี้ "คีอานู รีฟส์" ก็ยังเป็นนักแสดงฮอลลีวูดที่เป็นที่รักของแฟนๆมากที่สุดคนหนึ่งในวงการด้วย

Photo Credit Website : New York Post

Photo Credit Website : The New Yorker, The Verge