โหนกระแสวันนี้ : "จั๊กกะบุ๋ม" เผชิญหน้า “แม่ปูนา” ขึ้นป้ายทวงหนี้เกือบ 3 แสน ร่ำไห้กราบต้องขายบ้าน
โหนกระแสวันนี้ กรณี “แม่ปูนา” เจ้าหนี้ ขึ้นป้ายทวงหนี้ตลกชื่อดัง “จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม” กลางห้างดัง ขอให้เมตตาคืนเงิน 284,400 บาท เพราะเป็นเงินที่ต่อลมหายใจอีก 4 ชีวิต จนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ ขณะที่จั๊กกะบุ๋ม ได้เดินทางไปสน.เพื่อลงบันทึกประจำวัน ยืนยันไม่หนี แต่ไม่รู้ยอดหนี้จำนวนเท่านี้จริงหรือไม่
โหนกระแสวันนี้ : "จั๊กกะบุ๋ม" เผชิญหน้า “แม่ปูนา” ขึ้นป้ายทวงหนี้เกือบ 3 แสน ร่ำไห้กราบต้องขายบ้าน
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 2 เม.ย. 67 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม เผชิญหน้า แม่ปูนา คู่กรณี และ ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายคนกลาง
เรื่องเกิดอะไรขึ้น ฝั่งป้าปูนา?
ปูนา : ที่บ้านเราเลี้ยงปู เป็นแค่เลี้ยงกิน แล้วมีเยอะมาก เราก็เอาทำขาย การขายของเราคือออกตามบูธ อีเวนต์ ตามห้าง แล้วมีโอกาสได้เจอพี่จั๊กกะบุ๋ม ก็ทักทายกันทั่วไป ครั้งแรกรู้จักที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ปลายปี 2566 พอรู้จักกันเขาก็สนใจปูนาแหละ เขาบอกว่าเคยเลี้ยงปูนามาก่อน แต่ยังไม่ถึงกับเลี้ยงผลิต เลี้ยงแล้วเลิก ก็มีการคุยกันว่าของเรา เราทำแบรนด์ให้ได้นะ ใครอยากเอาไปขายก็รับไปได้ คุยกันเรื่อยๆ แต่ไม่มีการตกลงว่าจะซื้อจะขายอะไรกัน ก็มีการพูดคุยกันจนวันนึงเราไปเห็นเฟซเขาโพสต์ว่ามีปัญหาเรื่องเงินเรื่องทอง เราก็ทักไปหาเขา ว่าพี่บุ๋มจำแม่ปูนาได้เปล่า สนใจขายปูนามั้ยที่เราคุยกัน
ที่ทักไปเพราะเห็นว่ามีปัญหาเรื่องเงิน เราสงสาร?
ปูนา : ใช่ค่ะ เราคิดแค่นั้นจริง ๆ เราไม่รู้เขาเป็นใคร ภูมิหลังเป็นยังไง เราไม่รู้ เรามารู้ทีหลัง ถ้ารู้เราจะไม่ทำความรู้จักเขาเลย เรารู้ประวัติเขาหลังเกิดเหตุแล้ว ทุกคนถามว่าไม่รู้จักเขามาก่อนเหรอ เขาเป็นแบบนี้ไม่รู้เหรอ ถ้ารู้จะไม่ทำความรู้จักเลย ในแชตที่คุยกัน ก็บอกว่าแม่ทำให้นะ ให้พี่เอาไปขาย รอบต่อรอบ คำว่ารอบต่อรอบคือพี่จั๊กกะบุ๋มเอาไปขายหมดแล้วก็เอาตังค์มาคืน แล้วเอาไปอีกรอบ
ในแชตที่บอกว่าเป็นทุนให้ ทำโลโก้แบรนด์พี่บุ๋ม ขายเสร็จ แล้วมาเคลียร์ยอดรอบต่อรอบ พี่บุ๋มไม่ต้องแพ็ก ไม่ต้องจัดส่งเอง แม่จะช่วยทำให้ทั้งหมด พี่บุ๋มไลฟ์ขายรับเงินเอง ส่งที่อยู่ลูกค้ามาให้แม่ ตั้งแต่ธ.ค.66 หลังจากติดต่อไป แล้วหักกันยังไง?
ปูนา : อ่องมันปูให้เขา 100 เขาจะขายเท่าไหร่ก็แล้วแต่ ปูดองเราให้เขา 80 บาทเขาจะไปขายเท่าไหร่ก็แล้วแต่ แต่เขาเอาไปขาย 180 ทั้งสองรายการ ซึ่งอันนั้นเป็นสิทธิ์ของเขา เพราะเราไม่ได้ร่วมทุนกัน เราผลิตให้เขา เขาเอาไปขายเอาเอง
มีสัญญามั้ย?
ปูนา : ไม่มีค่ะ มีการพูดคุยกันในเฟซกับไลน์ และมือถือ หลังจากนั้นวันที่ 17 ธ.ค. 66 เขาขอเอามาลองล็อตแรกก่อน ปูดองอย่างเดียว 100 กระปุก เป็นเงิน 8 พันบาท
เขาโอนกลับคืนมาให้มั้ย?
ปูนา : ไม่ค่ะ
เขาขายได้หรือยัง?
ปูนา : เขาขายได้แล้วค่ะ เพราะปูดองเป็นของสด ถ้าขายไม่ได้เขาต้องตีคืนมาที่เรา ซึ่งเขาขายหมด เรามีวิธีการส่ง 2 แบบ คือเราส่งไปให้เขา เขาขายเอง กับเขารับเงินจากลูกค้า ส่งรายชื่อลูกค้า รับเงินจากลูกค้าส่งมาให้เรา
ค่าส่งใครจ่าย?
ปูนา : เราจ่ายให้เขาทั้งหมด
รวมหรือแยก?
ปูนา : จริง ๆ เรารวมอยู่ในนั้น แต่เขาให้เหตุผลว่าเขาไม่เข้าใจ แม่ไม่อธิบายให้ โอเค เราหยวน งั้นเริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค.เป็นต้นไป พี่ต้องเก็บลูกค้านะ ค่าส่งเป็นรถห้องเย็น ซึ่งราคาค่อนข้างสูง 150 บาท
หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น?
ปูนา : ม.ค.เริ่มมีการทวงยอด เราบอกว่าทยอยเคลียร์เงินได้แล้วนะ เพราะแม่ต้องเอาไปทำบุญ ตอนนั้นอยู่หลักหมื่น เขาก็บอกว่าอย่าเพิ่ง ของอันนี้หนูก็ไปฝากคนโน้นคนนี้ ชื่อผู้ใหญ่ที่เขานับถือนั่นแหละ เขาบอกยังไม่มีตังค์นะแม่
ฝากอะไร?
ปูนา : ไม่รู้ฝากขายหรือฝากให้กินเพื่อโปรโมตสินค้าเขาหรือเปล่า เราก็ไม่เข้าใจหรอก เราก็ไม่ได้ถามเยอะ เขาก็บอกว่าแม่ทำให้หนูอีกนะ เดี๋ยวหนูค่อยเคลียร์เงิน แล้วเราบอกว่าตั้งแต่ 1 ม.ค.เป็นต้นไป ค่าส่งเก็บให้แม่นะ เพราะแม่สำรองจ่ายไปเยอะแล้ว เราเห็นว่าเขามีปัญหาเรื่องเงินเราก็ให้ พอเราทวงตังค์ก็ไม่มี เดี๋ยวค่อยรวมให้ พอไม่มีแล้วจะเอาที่ไหนเป็นทุน ถ้าแม่ไม่ให้ของผม แล้วผมจะเอาของที่ไหนไปขาย แล้วจะเอาเงินมาใช้หนี้แม่ได้ไง แม่ต้องทำให้ผม ก็ทำไป ทุกครั้งที่มีการพูดคุยเปิดปากปุ๊บก็จะต้องเริ่มเรื่องเงินก่อน เพราะเราต้องใช้ทุน เขาก็บอกว่าเดี๋ยวสิ้นเดือนนี้ชีวิตจะโฟลว์มาก จะจ่ายโน่นนี่ เป็นแบบนี้ทุกรอบ พอเราไม่ให้ก็มีท่าทีแบบ ไม่มีของขายก็ไม่มีตังค์มาใช้หนี้แม่นะ เราก็ให้อีก เดี๋ยวหนูจะทยอยแม่ เขาไปเจอสถานที่ตรงนี้ ก็มาบิวต์ว่าจะมีตังค์จ่ายนะ ที่นี่ ขายได้จันทร์-อาทิตย์เลย เป็นวัด เขาจะประมาณนี้ ทุกการพูดคุยทางโทรศัพท์ก็จะเป็นการทวงเงิน แล้วการแชตก็เป็นเรื่องเงินเขาก็ไม่เคยให้ เราก็ให้ของอีก เพราะกลัวเขาไม่มีขายแล้วเราไม่ได้ตังค์ ป้อนมาเรื่อยๆ จนก.พ. เราเริ่มสะดุดแล้ว มันหนักขึ้น
ยอดม.ค. ปิดยอดอยู่ที่เท่าไหร่?
ปูนา : ประมาณแสนกว่าค่ะ
ไม่เคยได้เงินจากเขาเลย?
ปูนา : ไม่เคยได้เงินเลยค่ะ
แม้แต่สลึงเดียว?
ปูนา : มีเปรียบเทียบน้อยกว่าสลึงอีกมั้ยคะ ไม่เคยได้เลย ค่าปูนะคะ ไม่เคยเลย
ตั้งแต่ 17 ธ.ค. 66 ยัน ม.ค. ยอดแสนกว่า ก.พ.ก็ส่งให้เขาอีก?
ปูนา : ส่งให้อีกแต่เริ่มไม่เต็มที่แล้ว เราเริ่มหมดทุนแล้ว เวลาเขาสั่งมา 100 ก็บอกว่ามีแค่ 80 นะ กระปุกไม่พอ ก็จะให้น้อยลง แต่ยังป้อนตลอด โดยเฉพาะออนไลน์เขาก็ส่งมาตลอด เราก็ส่งให้ตลอดไม่มีปัญหาอะไร จนปลายก.พ. เราไปออกบูธที่ชลบุรี ก็ถามว่ามีตังค์ให้สักหน่อยมั้ย จะได้กลับไปทำของให้ ตอนนี้มาออกบูธที่ชลบุรี เขาบอกไม่มี เขาอ้างมีงานกลางคืนเอาไปขายที่ร้องเพลง พี่ไปร้องเพลงล่ะพี่ เขาบอกได้คืนละ 600 เจียดมาสักหน่อยไม่มีเลยเหรอพี่ จะได้กลับไปทำ เขาบอกไม่มี เราก็บอกว่างั้นแม่ก็ไม่มีส่งให้แล้วนะ ก็ไม่ส่งจริงๆ เพราะเราไม่มีจริงๆ เขาก็หายไปจากชีวิตเราเลย โทรไปก็ไม่รับ จนเราพิมพ์ไปว่าพี่บุ๋มแม่จะกลับจากชลบุรีวันนี้แล้ว พี่อยู่ไหน ถ้าอยู่กระเพราควาย ร้านเขา เดี๋ยวแวะไปหา เขาก็ตอบกลับมาว่าอยู่ร้าน ไม่มีลงท้ายครับด้วย พี่ไม่ไปขายของเหรอ ไม่มีของขาย อ้าว แล้วยังไงต่อ ไม่ขายแล้ว เราก็เริ่มกังวล ตังค์เราอยู่ที่นั่น แล้วทำไงถึงจะได้ พี่บุ๋มแล้วยังไง ก็คุยกันว่าพี่เอาของไปขายเพื่อให้ได้กำไรใหม่มั้ย
จั๊กกะบุ๋ม : ผมมีครับทุกคำนะครับ ไม่เคยตอบแบบห้วน ๆ
ปูนา : พอเรากลับมา เข้ามี.ค. ก็เริ่มไม่ป้อน แต่ก็พอมีบ้าง แต่ห่าง ๆ มาแล้ว จนมี.ค. เขาบอกขอเลขบัญชีแม่ด้วย วันที่ 18 มี.ค. จะได้ตังค์แล้ว แต่ก็ไม่โอนมาให้เลยค่ะ ต่อมาก็คุยกันว่าเอางี้นะแม่ หนูจะขายของงานที่เซ็นทรัลเวสเกต วันที่ 27 มี.ค. - 2 เม.ย. แม่ทำของให้หนูนะ เป็นงานใหญ่มาก เป็นงานพ่อหม่ำ เราก็บอกว่าได้ค่ะ แม่ทำให้ แล้วจะลงช่วยขายเลย แต่เราจะเอาทุนที่ไหนไปทำของล่ะ งานใหญ่ขนาดนั้น เขาบอกให้ทำของมาให้หนูหน่อยนะ เพื่อให้ได้ผลกำไร แม่จะได้เอากำไรมาทำของเพื่อลงวันที่ 27
สรุปแม่ทำให้ แต่หลังจากนั้น แม่เองมีการถือป้ายในงานนั้นเลย ล่าสุดที่เป็นข่าวขึ้นมา แสดงว่าเงินไม่ได้แล้ว?
ปูนา : งานวันที่ 27 วันที่ 21 เขาบอกมาก่อนว่าแม่ เราต้องขายของก่อนเพื่อให้ได้กำไร เอามาขายวันที่ 27 อ่องมันปู 100 นะแม่ ปูดองเท่านี้นะแม่ เราเลยเขียนไปว่ายอดล่าสุดบวกกับวันนี้ เป็น 12,600 บาท พี่จะให้แม่ได้รับเงินวันไหนคะ วันอาทิตย์ครับ เราก็เขียนอีกว่าจ่ายยอดนี้วันอาทิตย์ที่ 24 ถูกต้องมั้ยพี่ เขาก็จ้า 24 เขาจะเอาของตีสี่ครึ่ง เราทำของให้เขาตั้งแต่ตีสอง ทำส่งให้ ปรากฏว่าเราได้ของไม่ครบ ขวดเราไม่พอ เขาก็บอกว่าอ่องมา 50 ยอดก็รวมกันเป็น 8,600 ซึ่งเขาบอกว่าจะจ่ายวันอาทิตย์ เพื่อเอากำไรมาขายวันที่ 27 พอ 26 เราก็ถามว่ารบกวนขอยอด 8,600 บาท พี่เลื่อนมาสองวัน เขามาเก็บค่ากระปุกที่บ้านค่ะพี่ เขาบอกว่าขอหลังงานพี่หม่ำ เนื่องจากเก็บยอดไม่ได้ เพราะของมาไม่ตามเป้า มีความคลาดเคลื่อนหลายอย่าง สรุปแล้วไม่ได้ พอไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราก็ไม่ป้อนของให้เขา เราก็ปล่อยให้เขาขายของที่เวสเกต 27-28 วันที่ 29 เราเข้าไป ก็เจอตัว แต่ไม่ได้คุยเรื่องตังค์ด้วย ยืนดูเขาขายของด้วย เรายืนดูตั้งแต่เที่ยงวัน ซื้อเก้าอี้ตรงท็อปมานั่งดูที่ร้านเขาด้วย คุยกันดีนี่แหละ เราเคยออกบูธเรารู้ว่าต้องอยู่ยังไง
ไปเพราะเจตนาอยากไปดูว่าที่เขาบอกขายติดขัดมันตรงไหน?
ปูนา : ใช่ค่ะ 4 ชม.เขามียอดเข้า เท่าที่นับรวม ๆ มีประมาณหมื่นกว่าบาท เราก็เข้าชิดตัวว่าพี่บุ๋ม แม่ขอเงินสัก 3 พันเอาไปเป็นทุน
ที่ขายเฉพาะของเรามั้ย?
ปูนา : ไม่มี เขาขายสินค้าตัวใหม่แล้ว เพราะเราไม่ได้ส่งของให้เขาแล้ว แม่ขอเงินจะเอาไปทำของ เขาบอกว่าไม่มี ไม่มีได้ไง ขายได้หมื่นกว่าบาท ขอแค่ 3 พัน เขาบอกไม่ให้ แม่กลับไปเลย ถ้าเงินเหลือเดี๋ยวโอนให้ เราบอกว่าไม่ คำว่าโอนให้ไม่มีอยู่จริง ขอเงินสด เพราะแม่จะเอากลับบ้าน ไม่ให้ ถ้าเหลือจะโอนให้ แม่กลับไปเลย
ถ้าวันนั้นให้ 3 พันก็จบ เงินที่เหลือมาทยอยคืน แต่เขาไม่ให้ กลับไปด้วยความช้ำใจ?
ปูนา : ยังค่ะ เขาบอกว่าผมพูดไป 4 ครั้งแล้วนะว่าไม่มี ไม่ให้ แม่ยังไม่ไปอีกเหรอ พรุ่งนี้ไม่ต้องมาที่บูธผม ก็บอกว่าไม่มาอยู่แล้ว เพราะไม่มีของมาขาย แต่วันนี้แม่จะเดินไปหน้าบูธพี่บุ๋มนะ เวลาลูกค้าซื้อของแม่จะรับตังค์ แม่จะทำเพื่ออะไร เพื่อ 4 ชีวิตที่รอกินเงินจากผลกำไรที่จะเอาทุนจากพี่ไปทำไง แม่กลับไปเลย เขาเสียงแข็ง เราถอยแล้วกลับออกมา พอกลับออกมาปุ๊บ มีข้อความเด้งขึ้นมา
ว่าไม่โอเคกับแม่เท่าไหร่ แม่ตั้งใจมาทำให้อับอาย ปั่นป่วน จงใจให้ผมเสียหน้า คุกคาม จะมาเค้นเงินจากผม ทั้งที่ผมบอกว่าขอจบงานนี้ แต่แม่เลือกไม่ฟังผม ไม่เป็นไร ผมถือว่าผมพูดแล้ว แต่แม่เลือกไม่ฟังผม แม่มีหลักฐาน ผมก็มีหลักฐานในการพูดคุยทั้งหมด แอบอัดเสียงทั้งหมดนั่นคือคำสารภาพของแม่นะ เอาเป็นว่าผมรับทราบแบบนี้นะ?
ปูนา : ค่ะ สามเดือนตังค์ค่าปูไม่ได้สักบาท พอเขาส่งมาแบบนี้ เอาแบบนี้แล้วกัน ผู้ใหญ่ที่เขานับถือน่าจะเป็นตัวกลางให้ได้ เราก็เลยไปบ้านพ่อหม่ำเลย ไปจนเจอด้วย ไปยากมาก บ้านพ่อหม่ำยอมรับ แต่คืนนั้นพ่อหม่ำไม่อยู่ เจอผู้จัดการ ไม่เจอเราก็กลับ เช้ามาเราไปใหม่ ไปเป็นทางการ เขียนหนังสือไปบอกว่าขอความเมตตาพ่อหม่ำหน่อย ช่วยไกล่เกลี่ย โชคดีเจอพ่อหม่ำ ก็บอกว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ พ่อเรียกพี่จั๊กกะบุ๋มหรือคุยกับเขาหน่อยว่าเกิดเหตุการณ์นี้จริงมั้ย พ่อหม่ำก็บอกว่าซื้อขายไม่จ่ายตังค์เป็นฉ้อโกงมั้ยล่ะ ไปแจ้งความเลย ก็ยังไม่ไปแจ้งความ เราก็ขับรถออกมา ถ้าแจ้งความ ลักษณะนี้ต้องเป็นคดีแพ่ง เราต้องมีทนายมั้ย ไม่เอาดีกว่า ก็จอดรถอยู่ตรงหน้าบ้านพ่อหม่ำจะเอายังไงดี ตังค์ก็ไม่ได้ วันนี้ไปอีกก็ไม่ได้ ฉันต้องทำอะไรสักอย่างมั้ย ก็ทำป้าย เราไม่มีตังค์ทำป้าย (ร้องไห้) เราอยู่นนทบุรีตรงนั้น ปัจจุบันก็ยังไม่ได้จ่ายตังค์เขานะ
ทั้งหมดเท่าไหร่?
ปูนา : ทั้งหมดแค่ 800 ไม่มีเงินแต่ก็จะทำ ร้านป้ายก็ทำให้ เราก็มาเอาที่พระราม 2 กลับไปที่เซ็นทรัลเวสต์เกตอีก ไปที่บูธเขาประมาณเกือบทุ่ม เขาไม่มีของสักอย่างแล้ว ก็เลยถามล็อกข้างเคียงว่าพี่จั๊กกะบุ๋มไปไหน เขาก็บอกว่าเขาขายดี สัก 5 โมงของเขาหมดแล้ว เขาก็กลับ เราก็ขึ้นป้ายตรงนั้นเลย ที่ใส่โลโก้เขา ใส่เบอร์โทรเขา เราเพื่อให้คนถ่ายรูปแล้วไปให้ถึงตัวเขา ถ้าไม่มีรูปเขาคนก็ไม่รู้ว่าพูดถึงใคร เพื่อให้เขามาเจรจากับเราดีๆ ตอนแรกขึ้นในห้างก่อน แต่ทางห้างเขาไม่ให้ เขาบอกว่าเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล อย่ามาทำแบบนี้ ให้ไปทำข้างนอก เราออกมาข้างนอกก็เลือกกลับบ้าน เราคาดหวังว่าเช้ามาพี่จั๊กกะบุ๋มต้องเห็นข่าวและต้องแมสเสจมาหาเราว่าเรามีความจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ ปรากฏว่าตื่นเช้าขึ้นมาปุ๊บ เขาไปแจ้งความ เขาโพสต์ว่าตื่นเช้ามาต้องไปแจ้งความหรือนี่
มีคู่กรณีคุณจั๊กกะบุ๋มส่งข้อความมาหลายคน?
จั๊กกะบุ๋ม : ผมยินดีชี้แจงทุกประเด็น และพร้อมตอบคำถามให้ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวผม ก่อนอื่นต้องขอบคุณพี่หนุ่มและทีมงานด้วย ที่เปิดโอกาสให้ผมมีพื้นที่ในการชี้แจง ยืนยันว่าสิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงทุกประการ ผมแมนๆ พอที่จะยืดอกรับความผิดที่ตัวเองได้กระทำขึ้นทุกอย่าง และจะไม่ให้ใครมาฉวยโอกาสในความผิดพลาด และจุดอ่อนของผม เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับตัวเอง ต้องขอโทษทีมงานพ่อหม่ำ จ๊กมก ทีมงานสตาฟห้างเซ็นทรัลเวสเกต ขอโทษพี่นุ้ย เชิญยิ้ม ขอโทษน้องบาส พี่มี่ พ่อเป็ด เชิญยิ้ม และขอโทษพี่วุฒิ ขนมหน้างา ทุกคนล้วนแต่มีบุญคุณและเป็นเจ้าหนี้ผมทุกคน เรื่องราวเกิดจากผมทำธุรกิจกับเพื่อน แล้วอยู่ดีๆ วันนึงผมโดนเพื่อนของผมหักหลังธุรกิจ เงินที่มีอยู่ของผม หายไปชั่วข้ามคืน ผมกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัวชั่วข้ามคืน ก่อนที่ผมจะรู้จักแม่ปูนา ผมก็ตัดพ้อชีวิตผมมาตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผมไม่มีเงิน ผมทำธุรกิจแล้วโดนหักหลัก ผมมีโพสต์เฟซบุ๊กอยู่ เพื่อบ่งบอกสถานะของผมมาตลอดว่าผมไม่มีเงิน แต่ระหว่างที่ผมไม่มีเงิน ผมก็ไปออกบูธขายปลาร้าทอด มันเป็นธุรกิจที่ผมขายมานาน ตั้งแต่ปี 53 ตั้งแต่ตลาดนัดช่อง 3 ที่พี่ปู ปริศนาเป็นคนจัด จนได้เจอกับแม่ปูนา ที่ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ผมก็ขายปลาร้าทอด โดยแม่ปูนามีบูธอยู่ข้างๆ ผม ก็มีการคุยกัน พี่บุ๋มเป็นยังไง ก็บอกว่าเคยเลี้ยง แต่ถามว่าผมสนใจมั้ย ตอนนั้นผมไม่ได้สนใจ เพราะเขาผลิตแบรนด์นี้ให้พ่อเป็ด เชิญยิ้มอยู่ เขาผลิตปูนาดองน้ำปลา กับอ่องมันปูให้พ่อเป็ด เชิญยิ้ม ถามว่าผมสนใจมั้ย ผมไม่ได้สนใจ เพราะผมขายปลาร้าของผมดีอยู่แล้ว ตอนนั้นผมก็ยังสามารถ แม้ไม่มีเงิน แต่มีเงินที่สามารถส่งหนี้สินที่ผมสร้างมัน ผมสามารถทำด้วยตัวเองอยู่ จนมีแมสเซนเจอร์เฟซุบุ๊กเด้งขึ้นมา เขาทักทายผมมาตลอด เขาบอกว่าสนใจเรื่องปูนาดองน้ำปลามั้ย ผมก็นึกนิดนึง ขออนุญาตโทรสอบถาม ก็โทรหากันว่าแม่ มันคืออะไรที่แม่จะผลิตให้ผม เขาก็บอกว่าผลิตไง พี่บุ๋มก็เอาไปไลฟ์ขายออนไลน์ กำไรเอามาแบ่งกัน ก็ถามว่าแม่ผลิตให้พ่อเป็ดอยู่ไม่ใช่เหรอ ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ผมก็ต้องไปขายงานพ่อเป็ด ผมขายปลาร้าทอดที่งานเชิญยิ้ม เอาสินค้าแม่มาวาง โดยมีสินค้าพ่อเป็ดด้วย ผมทำไม่ได้ แม่บอกว่าไม่ได้ทำให้พ่อเป็ดแล้ว เพราะจบกันไม่สวย
คุณพูดงี้มั้ย?
ปูนา : ไม่ใช่ค่ะ เขาถามว่าโปรดักส์ที่แม่ทำให้พ่อเป็ดคืออะไร อ่องมันปูค่ะ ปูดองแม่ได้ทำมั้ย ก็บอกว่าไม่ได้ทำ โอเค งั้นเอาปูดอง
จั๊กกะบุ่ม : วันที่เจอเขา เขายังเอาปูดองมาให้ผมชิมกับข้าวสวยอยู่เลย เขาก็ถามรสชาติเป็นไง ก็บอกว่าอร่อยนะ ก็อยู่บูธเจอกัน จนหลังโทรคุยกันเรียบร้อย แม่ไม่ได้ผลิตให้พ่อเป็ดแล้วใช่มั้ย เดี๋ยวผมจะมีงานออกบูธเชิญยิ้มที่อยุธยา แม่เอามาให้สัก 100 กระปุก ผมหาลูกค้าทางออนไลน์ได้แล้ว ผมมีความหวังว่าดีจังเลย แม่คนนี้เข้ามาซัพปพอร์ตเรา ทั้งที่เราไม่มีเงิน เขาบอกว่าเป็นทุนให้ ทำให้โลโก้แบรนด์พี่บุ๋ม มาเคลียร์ยอดรอบต่อรอบ ล็อตแรกส่งมาให้ อ่องเขาขายไม่ได้ แต่ปลาร้าผมหมดแล้ว เหลือของๆ เขา ซึ่งเหลือเยอะมาก ผมขายไม่ได้ เลยต้องเดินไปตามบูธต่างๆ เพื่อหาออเดอร์ เพื่อระบายของเซ็ตนี้ให้หมด เพราะผมไม่อยากเอามาค้างไว้ที่ผม จนปรากฏว่าของก็เหลือ ผมก็ขนของกลับบ้าน ขนปูนา 100 กระปุกกลับบ้านก็มานั่งคิดว่ามีของค้างสต็อกอยู่กับผมจะทำยังไงต่อ ก็โทรหาเขา เขาถามตลอดว่าให้อัปเดตหน่อย ว่าเป็นยังไงบ้าง ผมก็บอกว่ามันหนืดหน่อยนะแม่ ช่วงแรกผมยังขายไม่ได้เดี๋ยวมาหาทางปรับแก้ไขโน่นนี่นั่นนะ ผมเริ่มทดลองขายของเขา ไม่มีช่องทางให้ผมทำการตลาดหรือไปทางไหนต่อ สุดท้ายได้บารมีหลวงพ่อช้าง ที่แปดริ้ว ได้มีโอกาสไปขายที่นั่นวันเสาร์-อาทิตย์ ผมก็เอาของไปขายเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ แต่ก่อนหน้าที่ผมจะขายของ ออกบูธ ผมได้โทรศัพท์พูดคุยบอกแม่ตลอดเวลา ว่าตอนนี้ผมมีหนี้สินที่ต้องส่งรายวันอยู่นะ ผมไม่มีทุนเลย ถ้าผมเอาเงินให้แม่หมด ผมไม่มีเงินต้องส่งรายวันนะแม่ เอาทุนให้แม่ไปผมไม่มีส่ง เป็นการพูดเปิดอกกัน ระหว่างผมกับแม่ ตอนนี้ผมมีหนี้สินล้นพ้นตัวอยู่แม่
มีคนติดต่อมาในเพจโหนกระแสเยอะมาก คุณบาสบอกว่าโดนเอาค่าของเหมือนกัน เป็นพี่ๆ น้องๆ กันทำไมทำแบบนี้ มีบางคนบอกว่าเขาโดนบิดค่าดนตรี ค่าต่างๆ นานา ที่สำคัญสิ่งที่คนอยากรู้คือทำไมคุณบุ๋มไม่พูดสักทีว่าค้างเงินเขาจริงมั้ย เอาเงินไปไหน?
จั๊กกะบุ๋ม : ผมพูดเปิดอกกับเขาว่าผมมีปัญหาเรื่องหนี้สินการเงินอยู่ ต้องส่งเงินรายวัน ปัจจุบันผมส่งรายวัน วันละ 4 หมื่น ส่งหนี้นอกระบบ ช่วงที่เขาเข้ามา จะชี้แจงเป็นข้อๆ ว่าทำไมขายของแล้วเงินไม่เหลือ ผมแจ้งเขาว่าผมต้องหาเงินส่งรายวัน วันละ 4 หมื่น ตอนนั้นผมพอหยิบตรงนั้นมาโป๊ะตรงนี้ เป็นการหมุนเงินของผม เงินก้อนนี้ยืมไปใช้จ่ายตอนผมทำธุรกิจเจ๊ง เอาเงินตรงนี้ไปกู้รายวัน เพื่อปิด จนผมต้องมาเป็นหนี้รายวัน ผมแจ้งว่าถ้าขายช่วงแรก ผมไม่มีเงินให้แม่นะ เอาเลยพี่บุ๋ม พี่บุ๋มเอาเงินที่ขายไปปิดหนี้รายวันพี่บุ๋มก่อน เอาไปส่งรายวันก่อน ให้มันโฟลว์ก่อน แล้วเดี๋ยวยอดแม่จะจดไว้ให้
จริงมั้ย?
ปูนา : ไม่จริงค่ะ ไม่เคยพูดค่ะ
จั๊กกะบุ๋ม : ย้อนกลับไปประมาณปลายธ.ค. ทีเริ่มเอาของคุณแม่มาขาย มียอดนิดหน่อย เพราะเพิ่งเริ่มต้น ผมมีการสื่อสารกับแม่โดยตลอดเวลาว่าผมมีหนี้สินอะไรบ้างต้องชำระ สุดท้ายที่แม่ส่งของให้ผม เป็นไทม์ไลน์ช่วงปีใหม่ 31 ธ.ค. - 1 ม.ค. ผมทำงานจังหวัดนึง แล้วแวะเอาของจากแม่ เพื่อเดินทางไปอีกจังหวัดนึง เขาก็อัปเดตกับผมตลอดว่าขายดีมั้ย ผมขายที่หัวหิน ถนนคนเดิน ตลาดโต้รุ่ง ผมก็แจ้งว่าขายไม่ได้เลย ฝรั่งเยอะ ปรากฏว่าของขายไม่ได้ ของเหลือ แล้ว 3 ม.ค. ผมโดนอายัดบัญชี
ทำไมไม่บริหารจัดการเงิน เขาโอนของไปให้เราหมื่นนึง เราขายได้หมื่นแปด เราเก็บไว้แปดพัน เอาไปใช้หนี้ทำอะไรก็ได้ อีกหมื่นนึงคืนเขาไป ทำไมไม่บริหารแบบนี้?
จั๊กกะบุ๋ม : อันนี้หลังแล้ว ตั้งแต่วันแรกที่คุยกับแม่ ผมบอกแม่แล้วว่าผมมีหนี้สินอยู่ ถ้าแม่จะช่วยผม ผมขออนุญาตเอาเงินขายของจ่ายหนี้ที่ผมมีอยู่หน่อยได้มั้ย
เขาพูดมั้ย?
ปูนา : ไม่ค่ะ
เขาบอกว่าให้เอาหนึ่งหมื่นมาย้อนเป็นทุนเพื่อให้นำไปทำกำไรต่อในวันถัดไป แต่ทำแบบนี้ดึงจมไปเรื่อยๆ แล้วจะไปต่อได้อย่างไร ที่ผ่านมาแม่พยายามช่วยเต็มที่แล้ว แม่เข้าใจว่าถ้าปิดหนี้ยอดรายวันแล้วทุกอย่างจะคล่องขึ้น แม่ไปสืบมารายวันเขาตัดแค่ 24 วัน แต่ของพี่เรื้อรังมา 24 วันแล้ว?
ปูนา : ถูกค่ะ
จั๊กกะบุ๋ม : ก็อย่างที่บอก ก่อนหน้านี้ อันนั้นมันม.ค.
พอเรื่องเกิด เริ่มทวงเงิน ทำไมไม่เอายอดถัดไปคืนเขา?
จั๊กกะบุ๋ม : ยอดเดือนธ.ค. มันยอดเล็กน้อย เป็นยอดที่ผมบอกแม่ว่าผมขออนุญาตก่อนนะ ผมทำงานมาได้เงินจากการเอาของของแม่มา ผมให้แน่นอน ไม่เคยคิดจะเบี้ยวแม่ หรือไม่ให้เงินแม่เลยแม้แต่บาทเดียว เพราะแม่มีพระคุณกับผม นั่นคือเดือนธ.ค. ขอแล้ว เขาบอกมีหนี้เท่าไหร่เอาไปส่งรายวัน เขาเข้าใจผมแล้วว่าส่งรายวัน มัน 24 วันไม่ใช่เหรอ วันที่ 3 ม.ค. ผมถูกอายัดบัญชี ผมก็บอกแม่
เขาบอกมั้ย?
ปูนา : แล้วทำไงต่อ
จั๊กกะบุ๋ม : ผมก็บอกว่าผมไม่มีเงินเลย ขอเงินติดชีวิตหน่อยได้มั้ย ขอยืมแม่ 1 หมื่นบาท
ปูนา : แล้วให้มั้ย
จั๊กกะบุ๋ม : ให้
ปูนา : ไม่เคยออกข่าวที่ไหนนะ เพราะไว้หน้าเขา
จั๊กกะบุ๋ม : ผมยินดีที่จะพูด ตลอดระยะเวลาที่พูดคุย มันเป็นการช่วยเหลือผมมาตลอด ซึ่งผมก็รู้สึกดีที่มีคนช่วยผม แล้วเวลาผมเกิดปัญหา ผมก็ยินดีเล่าให้เขาฟังว่าเกิดจากอะไร
แต่ตอนนี้เขาเดือดร้อนไง?
จั๊กกะบุ๋ม : วันที่ 3 ม.ค. ผมโดนอายัดบัญชี เหลือติดตัวไม่กี่ร้อย ขอยืมแม่ เขาก็โอนมาช่วยผม โห แม่ดีกับเราจังเลย แต่ระหว่างทาง กว่าจะถึง 28 ม.ค. ผมไม่มีเงินเลย ผมขายของที่วัดแค่เสาร์อาทิตย์ จันทร์-พฤหัส ปรึกษาแม่ ว่ามีที่ไหนให้ผมได้มีโอกาสไปลงตามตลาดนัดบ้างมั้ย จะได้หาเงินมาคืนแม่ ระหว่างนี้ก็ช่วยกันหาตลาด พี่บุ๋มลองติดต่อที่นี่สิ ผมยังมาขายข้างๆ ตลาดช่อง 3 อยู่เลย ระหว่างทางไปเสาร์อาทิตย์ ผมไม่มีรายได้เพราะวันจันทร์-ศุกร์ผมต้องส่งรายวัน ผมต้องหาเงินส่งรายวัน
ตอนนี้บุ๋มจะเอื้อแต่รายวัน แต่เจ้าหนี้ที่เขาไม่รู้เรื่องอะไร ก็ไม่เป็นธรรมกับเขา?
จั๊กกะบุ๋ม : ผมเข้าใจพี่หนุ่ม ที่ผมจะอธิบายคือถ้าเรื่องนี้ผมไม่ได้บอกแม่ เอาเงินขายของไปใช้โดยพลการ ผมผิด ผมยอมรับ
จะบอกว่าแม่รู้อยู่แล้วว่าใช้หนี้รายวันอยู่ บัญชีโดนอายัด แล้วทำไมวันนี้แม่ไปยื่นป้ายแบบนั้น ทำให้เสียหาย แต่แม่บอกว่าเข้าใจว่าติดหนี้รายวัน แต่ของที่ให้ไป ขายได้กำไรเอาไป แต่ทุนต้องโอนกลับมาหาเขา แต่คุณเอาทุนเขาไปด้วย?
จั๊กกะบุ๋ม : นั่นคือสิ่งที่แม่มอง
ปูนา : ไม่ใช่มองค่ะ พยายามให้พี่เรียงลำดับความสำคัญ พี่ไม่ให้ความสำคัญอะไรเลย
จั๊กกะบุ๋ม : แต่สิ่งที่ผมได้ยินจากแม่เวลาคุยโทรศัพท์ ไม่งั้นผมจะกล้าเอาเงินที่ขายของ ที่เป็นทุนของแม่ กำไรของผม ในการบริหารจัดการที่บอกว่าให้เรียงลำดับ ถ้าไม่ได้ยินจากแม่ ผมจะกล้าเอาไปใช้ได้ไง ผมขออนุญาตให้แม่ช่วยผมหน่อยนะช่วงนี้
กรณีเขาตามไปถึงร้าน ขอเงิน 3 พันบาท ทำไมไม่ให้เขา ทั้งที่ขายได้เป็นหมื่น?
จั๊กกะบุ๋ม : ระหว่างทางมีการพูดคุยกันตลอด มีการเล่าปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้น ผมไม่ได้ขายของที่นี่แล้วนะ ต้องย้ายที่ใหม่ ผมต้องหาเงินไปเรื่อยๆ ผมทำงานหามรุ่งหามค่ำ ไม่ได้ทำงานเพื่อซื้อความสุขสบายให้ตัวเอง ผมทำงานใช้หนี้ของตัวเอง แบะปัญหาที่ผมก่อขึ้นมา ผมทำงานที่ได้เงินมาทุกบาททุกสตางค์ ต้องการนำมาคืนแม่และใช้หนี้ แต่ในแต่ละงานที่ผมคาดหวัง อย่างที่ส่งให้แม่ดู จะมีงานนี้งานใหญ่ จะมีโอกาสช่องทางหาเงินคืนแม่แล้วนะ ผมมีงานนี้จะมีเงินให้แม่แล้ว ผมได้ที่ขายของใหม่แล้ว จะมีเงินให้แม่แล้ว แต่ระหว่างที่บอกแม่ เป็นวันที่ผมไม่มีเงินเหลือเลยสักบาทเดียว
แล้วที่คุณขอเลขบัญชีแม่ล่ะ?
จั๊กกะบุ๋ม : อันนั้นมี.ค. ตั้งแต่ปลายก.พ ผมแทบไม่ได้รับของแม่มาขาย ผมขายแต่ปลาร้าทอด ผมรู้ว่าผมไม่มีเงินให้แม่ ผมก็ไม่ได้เอาของแม่มาขาย ก็ขายปลาร้าประทังชีวิต ส่งรายวันของผมไป คิดว่าเดี๋ยวมีงานใหญ่ คืองานพ่อใหญ่หม่ำ ปลายมี.ค.ถึง 2 เม.ย. ที่เวสเกต ก่อนถึงงานพี่หม่ำ ผมก็บอกแม่ช่วยส่งของให้ผมหน่อยได้มั้ย ผมจะเอาไปขายที่ที่ขายอยู่ปัจจุบัน เอามาทำทุน ตอนนี้ยอดพี่บุ๋มเป็นแสนแล้ว พี่บุ๋มรู้มั้ย ผมก็บอกว่าผมรู้ครับ รู้ว่ายอดเยอะมากแล้ว งั้นโฮลยอดเป็นแสนไว้ก่อนนะ เดี๋ยวจะส่งล็อตใหม่ แล้วเริ่มเอายอดใหม่ที่แม่ส่ง เอามาให้แม่ แล้วยอดเก่าค่อยทยอยให้กัน พี่บุ๋มไปขายก็เอามาให้แม่
เคยพูดมั้ย?
ปูนา : หึ ไม่เคยค่ะ
แชตอันนี้บอกว่าผมจะทยอยหาเงินให้นะแม่ 28 ม.ค. แสดงว่าคุณต้องรู้อยู่แล้วว่าเป็นหนี้?
จั๊กกะบุ๋ม : ผมรู้มาตลอดว่าผมเป็นหนี้เขา เขาถามผมมาตลอด
ปูนา : ใช้คำว่าทวงสิพี่
เขามีหลักฐานว่าทวง ถ้าตามหลักมีการทวงหนี้มาก่อนแล้ว บุ๋มถึงบอกว่าจะทยอยคืนให้ พอบุ๋มบอกว่าแม่รู้อยู่แล้ว แม่รับทราบทุกอย่าง แม่ให้ผมเอง มันเลยไปหักล้างตรงนี้?
จั๊กกะบุ๋ม : ระหว่างต้นม.ค. หลังผมบอกแม่ว่าผมโดนอายัดบัญชีแล้ว ผมไม่มีเงินแล้ว แม่ก็ถามว่าจะไปต่อยังไงกันดี ผมก็บอกว่าต้องช่วยกันนะ เอางี้ แม่มีลูกค้าอยู่เจ้านึงแม่เก็บเงินเขาไม่ได้ ให้แม่เอาปืนเขาไปขาย พี่บุ๋มไปขายปืนให้แม่หน่อย เราจะได้เอาเงินมาทำทุนกัน ดอกที่หนึ่งให้ผมขายปืนให้ ปืนลูกหนี้ของแม่ ที่แม่อ้างว่าเก็บเงินลูกหนี้คนนี้ไม่ได้ ตั้งแต่ม.ค. ก่อนถึง 28 ม.ค. ผมก็ไม่มีเงินแม่ก็ไม่ได้เงินจากผม แต่ผมพูดคุยกับแม่เสมอ แม่ให้ผมเอาปืนไปขาย ผมโพสต์ขายในเฟซบุ๊กจนผมโดนปิดกั้น ดอกที่หนึ่ง ดอกที่สองให้ผมขายบ้าน เขาบอกว่าเป็นบ้านเพื่อนแม่
ณ วันนี้ทางนี้เขาไปขึ้นป้ายทวงเงินแล้ว จะคืนเงินเขาเมื่อไหร่?
จั๊กกะบุ๋ม : วันที่เขาไปที่บูท 28 มีการคุยกับแม่อยู่ ลูกค้าตามของออนไลน์ พูดคุยกันดิบดี พรุ่งนี้พี่บุ๋มไปขายของมั้ย วันที่ 29 แม่จะไป ก็บอกว่าแม่มาได้เลย วันที่ 29 แม่มาจริงๆ แม่หิ้วปูนาไป 3 กระปุก กระปุกใหญ่ 1 กระปุก กระปุกเล็ก 1 กระปุก อ่องมันปู 1 กระปุก ก็ถามว่าเอามาทำไม ก็บอกว่าเอามาให้พ่อหม่ำ เดี๋ยวจะให้พ่อหม่ำช่วย ผมก็บอกว่าจะให้พ่อหม่ำจะคุยลักษณะไหน จะมาคุยอะไร ก็บอกว่าจะมาคุยเรื่องยอด ผมก็เก็ตแล้ว แสดงว่าแม่จะมาทวงถามเงินจากผมใช่มั้ย แม่ไปคุยกับพ่อหม่ำ แล้วพ่อหม่ำจะช่วยอะไรแม่ ผมเป็นหนี้แม่ ก็คุยกันสองคนสิ แม่ต้องบอกผมสิ แล้วผมบอกแม่ไปแล้วว่าจบงานพ่อหม่ำจะทยอยให้ ไม่ได้หมายความว่าจะทยอยให้แค่ 8,600 ที่แม่เขาคิดยอดมานะ ผมรู้อยู่แล้วว่าเงินผมจะโฟลว์แล้ว เริ่มจะดีขึ้น ผมบอกแม่ตลอดเวลาว่าผมเริ่มหายใจได้คล่องขึ้นแล้วนะครับ ผมเริ่มมีเงินทยอยให้แม่แล้วนะครับ หลังจบงานพ่อหม่ำ ผมคืนแม่แน่นอน
พูดมั้ย?
ปูนา : ใช้คำประมาณนี้ แต่เปลี่ยนชื่อบุคคลเฉยๆ ตั้งแต่ม.ค. พยายามใช้คำประดิดประดอย เราก็ดีใจที่เขาจะจ่าย จะมีมาเรื่อยๆ บอกทุกครั้ง
จั๊กกะบุ๋ม : แม่พยายามสื่อสารว่าผมขายของดี วันที่แม่ไปยืนดูขายได้เป็นหมื่น ทำไมแม่ไม่ไปยืนดูวันที่ผมขายของไม่ได้ ไม่ดีบ้างล่ะครับ
บุ๋มจะบอกว่าบุ๋มมีภาระ แต่ภาระของบุ๋มกลายเป็นภาระของคนอื่นด้วย ตรงนี้มันเป็นประเด็น ที่พยายามบอกสังคมว่าตอนนี้ลำบาก โดนเพื่อนโกงไป ล้มละลายเลย สองเป็นหนี้นอกระบบ จ่ายเขาวันละ 4 หมื่น ตอนนี้เรื่องนี้มันเลยไปแล้ว ประเด็นวันนี้เกิดกับผู้หญิงคนนี้ เขาแค่อยากถามว่าจะคืนเงินเขาเมื่อไหร่ แล้วสองไปแจ้งความเขาทำไม เขาเป็นเจ้าของเงินแต่กลับถูกแจ้งความ?
ไพศาล : รีบเล่าให้จบนะ ไม้ตายคุณเลย ด้วยความเป็นห่วง
จั๊กกะบุ๋ม : เขามาที่บูธก็บอกให้คุยกับผม จะไปหาพ่อหม่ำเพื่ออะไร เขาบอกว่าไม่รู้แหละ จะคุยกับพ่อหม่ำให้รู้เรื่องผม จนพ่อหม่ำมาแล้วตำส้มตำ ตำเสร็จพ่อหม่ำก็กลับ เขาก็วี้ดกับผมเลย ทำไมไม่ได้คุยกับเขา แจ้งผู้จัดการไปแล้ว เอาเบอร์เขามาเลย จะไปหาเขาให้ได้เลยตอนนี้ มายืนโวยวายอยู่ข้างหลัง ก็บอกให้ใจเย็นๆ แม่จะไปหาพ่อหม่ำที่ไหน แม่บอกบ้านอยู่ตรงไหน บอกมาเลย ผมก็บอกว่าผมบอกละเอียดไม่ได้ แม่ไปไม่ถูกหรอก มันหลง ผมก็โทรถามผู้จัดการพ่อหม่ำ บอกว่าเขาจะเข้าไปหา ผมก็โทรให้เขาได้ยินด้วยนะ แม่ยืนอยู่ข้างๆ เขาจะไปหาพ่อหม่ำเดี๋ยวนี้ ถ้าพี่บุ๋มไม่ให้แม่ไปหาพ่อหม่ำ ให้เอาเงินมา 2 พันบาท ผมก็เลยบอกว่าแม่กลับไปก่อนเดี๋ยวผมโอนให้นะ แม่ไม่กลับ ครั้งที่หนึ่ง พี่บุ๋มพูดอะไรก็พูดมา แม่อัดเสียงอยู่ แม่ครับกลับไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวเหลือเงินจากที่ผมส่งรายวันเสร็จแล้วผมจะโอนให้แม่นะครับ แม่ไม่กลับ หรือพี่บุ๋มจะให้แม่ยืนเก็บเงินกับลูกค้าหน้าร้านตอนนี้เลย คนที่อยู่ข้างๆ บูธผมและลูกค้าผมเริ่มได้ยินเสียงแม่ที่กำลังขึ้น และเริ่มโวยวาย ผมยืนฮึบอยู่ เพราะเห็นว่าเริ่มไม่ชอบมาพากลแล้ว เริ่มโวยวาย ผมก็ตัดใจยกโทรศัพท์ขึ้นมา ในบัญชีมีเงิน 5 พันบาท กดโอนให้แม่ 2 พันบาท ผมไม่รู้แม่เห็นหรือเปล่าว่าผมโอนหรือไม่โอน
ปูนา : ด้วยความเราขายของออนไลน์ เราจะไม่รู้ยอด ถ้าไม่ส่งสลิปมา คุณส่งให้เรามั้ย
จั๊กกะบุ๋ม : ผมมีสลิปครับ ผมโอนให้เขา 2 พันเสร็จเขาก็เดินไปเลย ผมก็คิดว่าเขาเห็นแล้วและกลับไป คิดว่าเขาคงเชื่อใจเราแล้ว คงไม่มีเหตุการณ์อะไรแล้ว เขามายืนต้องเอาเงินยอดนี้ให้ได้ ผมก็ฮึบโอนไปให้ 2 พันบาท ทั้งที่อธิบายว่าผมมีรายวันที่ต้องส่งอยู่นะ ผมส่งรายวัน วันละ 10 กว่าคน ทุกวัน คนจะได้หายและคลายสงสัยสักทีว่าเงินมันหายไปไหน ผมบอกเรื่องนี้กับแม่ตลอด วันสุดท้ายที่แม่มา วันที่ 29 ผมก็บอกว่าเอางี้แล้วกันถ้าแม่อยากได้ เดี๋ยวขอส่งรายวัน เงินเหลือจากการส่งรายวัน ผมจะโอนให้แม่ แม่ไม่เชื่อ ผมรู้อยู่แล้วว่าผมติดหนี้อะไรใครบ้าง ผมส่งไปบอกพวกรายวันว่าผมส่งไม่ไหวแล้วนะ ผมขอเหลือแค่วันเท่านี้ๆ พอมั้ย ผมทำได้เท่าที่ผมทำได้
เป็นสิบรายเลยนะคุณไปติดหนี้ทำไมเยอะแยะ?
จั๊กกะบุ๋ม : ผมบอกแม่แล้ว แม่รับรู้นะไม่ใช่ไม่รับรู้
ตอนนี้บุ๋มมองมุมบุ๋มเอง?
จั๊กกะบุ๋ม : ปัจจุบันผมส่งรายวันโดยไม่มีปัญหาอะไร พอมางานพ่อหม่ำ เงินผมเริ่มโฟลว์แล้ว ก็มีคำพูดออกมาว่ารอจบงานพ่อหม่ำก่อน เดี๋ยวจะทยอยส่งให้แม่ได้แล้วนะครับ เงินแม่ขอหลังงานพ่อหม่ำนะครับ ระหว่างทางแม่บอกว่าผมพูดมาตลอดว่าคาดหวังจากงานนี้ แต่งานที่ผมมีความคาดหวัง ผมผิดหวังทุกงานพี่
วันนี้บุ๋มกำลังจะบอกว่าภาระของบุ๋มมีเยอะ แต่ทางนี้มองว่าสิ่งที่บุ๋มกำลังพูด ข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อน เขาส่งให้บุ๋ม 100 กระปุกคือ 1 หมื่น บุ๋มขายได้ 1.8 หมื่น แต่บุ๋มเอาหมื่นนึงของเขาไปด้วย แล้วเขาจะเอาเงินที่ไหนผลิตของให้บุ๋มอีก เรื่องเลยเป็นประเด็นขึ้นมา ภาระของบุ๋มตอนนี้กลายเป็นภาระของเขาด้วย ถ้าเป็นพี่ อยู่ดีๆ บุ๋มไม่คืนพี่เลย พี่ต้องมารับภาระจ่ายของพี่เอง พี่ก็ไม่ไหว?
จั๊กกะบุ๋ม : แต่ผมขออนุญาตว่าเงินขายได้ช่วงแรก ขออนุญาตเอาเงินนี้และได้รับอนุญาตแล้ว ไม่งั้นผมจะกล้าได้ไง ผมถึงบอกว่าผมดีใจจังเลย ที่แม่มาช่วยผม
เป็นอย่างนั้นมั้ย?
ปูนา : (ร้องไห้) ไม่ได้เป็นอย่างนั้น
จั๊กกะบุ๋ม : ถ้าเป็นพี่หนุ่มจะยังทำของให้ผมอีกเหรอ ถ้าผมไม่มีจ่ายเงินพี่หนุ่ม
ตอบได้เลย เหมือนลักษณะคอลเซ็นเตอร์ เราหลวมตัวเอาเงินใส่บัญชีนี้แล้วนะ พอเราจะขอเงินคืน คอลเซ็นเตอร์บอกว่าเอาเงินคืนได้นะ แต่ต้องเอาเงินใส่บัญชีนี้ก่อนนะ เดี๋ยวค่อยถอนออกมา มันไม่ต่างกันเลย เป็นพี่ก็ต้องใส่ เพราะต้องการเงินพี่กลับคืนมา ไม่ต่างจากเขา เขาทำส่งเพื่อหวังเงินกลับคืน ต้องเข้าใจมุมนี้ด้วยนะ?
จั๊กกะบุ๋ม : ผมเข้าใจทุกเรื่องเกี่ยวกับปัญหา สิ่งที่ผมกำลังจะบอกทุกคน ถ้าผมไม่มีการพูดคุย ผมพยายามจะสื่อสารว่า ผมมีการพูดคุย และบอกทุกอย่างเกี่ยวกับปัญหาให้ได้รับทราบ มุมผมผมคิดว่าแม่เขาเข้ามาช่วยเหลือซัปพอร์ตผม
ถ้าแม่รับทราบ เขาจะทยอยทวงหนี้ทำไมตั้งแต่เดือนม.ค. มันก็ยืนยันว่าไม่ได้ตกลงกับบุ๋มแบบนั้นนะ?
ปูนา : (ร้องไห้) ใช่ค่ะ
จั๊กกะบุ๋ม : อันนั้นเป็นลายลักษณ์อักษร แต่คุยโทรศัพท์เป็นอีกเรื่องนึง ผมคิดว่าเขาเป็นแม่ผม ช่วยลูก ผมดีใจที่เขาช่วยลงทุนให้ผม เพื่อให้ผมไปชำระหนี้ให้ก่อน ไม่งั้นจะมีได้ไงว่าแม่ไปเช็กมาแล้ว แสดงว่าผมบอกเขาแล้วไงว่าผมต้องชำระหนี้
ตอนนี้จะจ่ายหนี้เขายังไง เขาต้องการเงินคืน?
จั๊กกะบุ๋ม : ถ้าวันนี้ไม่เกิดเรื่อง ไม่เกิดการเอาป้ายไปแขวน ผมลูกผู้ชายพอ ตามนี้เลยครับ หลังงานพ่อหม่ำ
ไพศาล : จะบอกว่าพอเขาแขวนป้ายแล้วคุณเสื่อมเสีย เขาขึ้นป้ายใช้คำว่าขอคืนค่าสินค้า เป็นการตัดพ้อ อาจเข้าข่ายความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา แต่เขามีข้อสู้ ตามถ้อยคำเขาไม่ได้ใส่ความ เขาใช้คำว่าโปรดเมตตาคืนค่าสินค้าด้วยเถิด ถ้าสืบเจตนาเขาบริสุทธิ์ ตัดจบเรื่องหมิ่นประมาท เขามาตามค่าสินค้า คุณไม่เคยชำระเขาเลย คุณบอกว่าขายไม่ได้แต่คุณสั่งเพิ่มมั้ย
จั๊กกะบุ๋ม : สั่งตลอดครับ
ไพศาล : แล้วเงินไปไหน
จั๊กกะบุ๋ม : ใช้หนี้ครับ
ไพศาล : คุณรู้จักเขา 3 เดือนเขาไม่ใช่แม่คุณ ถ้าเขาจะช่วยคุณไม่มีใครช่วยคนอื่นในขณะที่คนอื่นจะจมน้ำ ถ้าเขาบอกเห็นใจคุณมากเป็นหนี้รายวัน 4 หมื่นแต่เขากำลังจะตาย ไม่มีใครช่วยคนอื่นทั้งที่กำลังจะตาย แต่ช่วยให้คนอื่นรอด ยกเว้นแม่ลูกกันจริงๆ คุณเข้าข่ายฉ้อโกงนะ ถ้าเขาสืบเส้นเงินขายของ คุณไม่มีวัตถุประสงค์จะจ่ายหนี้แม้แต่บาทเดียว มันเข้าข่ายฉ้อโกง ต่างกรรมต่างวาระ โทษจำคุก 3 ปีปรับ 6 หมื่น กี่ครั้ง นี่พูดว่าเข้าข่ายนะ การขึ้นป้ายผิดพรบ.ทวงหนี้ เขาไม่ให้เปิดเผยในที่สาธารณะ แต่เขาจะหลุดทันทีถ้าหนี้ไม่ใช่หนี้ เพราะโทษนี้จำคุก 1 ปี ปรับ 1 ถ้าสืบว่าเป็นค่าสินค้า เขาก็ไม่ผิดแล้ว คุณไม่จ่าย คุณจะเข้าข่ายฉ้อโกง ไม้ตายอยู่ตรงนี้ คุณยืมเงินเขา ยืมส่วนยืม อ้างแม่ใจดี มุมผมมันฟังไม่ขึ้น แล้วคุณโดนอายัดบัญชีเพราะอะไร
จั๊กกะบุ๋ม : อายัดไปตรวจสอบ
ไพศาล : บัญชีนั้นมีเงินเท่าไหร่
จั๊กกะบุ๋ม : มีประมาณหมื่นกว่าบาท
ไพศาล : ผมแนะนำด้วยความหวังดีคุณเคลียร์เขาเหอะ เพราะหนี้นี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามวัตถุประสงค์ มันฟังไม่ขึ้น ว่าคุณโดนอายัด คุณจะบอกว่าขึ้นป้ายเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ไม่จ่าย 2 แสนกว่าบาท ทำไม่ได้ แล้วคำว่าเรื่องส่วนตัว เหมือนคุณเดินแก้ผ้าในบ้าน แล้วไปโพสต์คือเรื่องส่วนตัว เรื่องไม่ใช่ส่วนตัวคือเรื่องคุณเรื่องเขา เขาจะมีข้อสู้ยก มุมมองผม พรบ.ทวงหนี้ 1 ปี 1 แสน มันไม่ใช่หนี้ ถ้าสืบได้ว่าคุณมีเจตนาฉ้อโกง ก็ยกอีก แต่ของคุณกี่ครั้งที่ไม่โอนให้เขา คุณโอนวันสุดท้าย 2 พันเขารู้มั้ย ความผิดแต่ละกรรมมันสำเร็จไปแล้ว คนถ้าไม่สุดจริงๆ ไม่มาหรอก ถ้าวันนั้นคุณจ่ายเงินเขา เขาไม่ออกมาหรอก ผมนั่งดูอยู่ถ้าสืบสู้กันในศาล ถ้ามีเจตนาส่ออย่างนี้ คุณจะสู้ยังไง โจทก์คุณมาเพียบเลย บัญชีที่ถูกอายัดต่อไม่ให้ถูกอายัดคุณก็จ่ายเขาไม่ได้ แล้วถ้าสั่งของไปแล้วขายไม่ได้ แต่คุณสั่งใหม่ มันย้อนแย้ง เงินที่ขายได้ไปไหน คุณจะบอกว่าเขาช่วยชีวิตคุณ เขามี 4 ชีวิต ไม่มีใครช่วยใครจนตาย แล้ว 3 เดือนเอง เตือนด้วยความหวังดี คุณเคลียร์เหอะ
มุมพี่ บุ๋มไม่ต้องจ่ายหนี้นอกระบบสัก 10 วันแล้วจ่ายหนี้เขาได้มั้ย เป็นประเด็นที่เขาเดือดร้อน?
ไพศาล : นอกระบบผิดกฎหมาย ไม่จ่ายก็ไม่ผิดนะ แต่นี่ถ้าไม่ข่ายฉ้อโกง
ปูนา : พี่รู้มั้ย 25 มี.ค. หาขายบ้าน ไม่มีอะไรแล้ว เงินอยู่ที่พี่เกือบจะ 3 แสน เราไม่มีอะไรแล้ว สุดท้ายเราขายบ้าน (ร้องไห้) มีคนรับซื้อแล้ว ยอมขายราคาถูกกว่าราคาประเมินเพื่อมาเป็นทุน ให้ทุกคนได้กิน (ร้องไห้) ให้ทุกคนได้ใช้ พี่รู้มั้ยเราต้องขายบ้าน พี่อ่านออกมั้ยคะ (ร้องไห้) เราเดือดร้อนขนาดนี้ เราช่วยเหลือคนอื่นจนเราเดือดร้อนขนาดนี้
พี่ว่าสิ่งที่บุ๋มพูดออกมา มันฟังไม่ขึ้นเลย การที่ออกมาบอกว่าฝั่งนี้ยอมรับเอง แต่มียืนยันเป็นหลักฐาน เป็นการพิมพ์คุยกันว่าต้องทยอยจ่ายเขา ตรงนี้มันมัดตัวอยู่แล้วว่าเขาไม่ได้ยินยอมให้ติดหนี้เขา?
ไพศาล : ในศาลคุณอ้างลอย ๆ ว่าโทรคุยไม่ได้ ต้องเอาหลักฐานพิสูจน์ คำพูดลอยๆ เกมนะ ไม่ใช่เขาขึ้นป้ายแล้วคุณจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ถามคำเดียวเป็นหนี้ไปแจ้งความทำไม คุณไปแจ้งไม่ได้ ไปคุยกัน นี่ไม่ใช่หนี้ เป็นค่าสินค้า
จั๊กกะบุ๋ม : ผมไม่คิดว่าจะแจ้งความอยู่แล้ว แต่คิดว่าระหว่างทาง ผมคุยกับแม่เขาทุกวัน ผมแสดงความบริสุทธิ์ใจตลอด 3 เดือนกว่าๆ คือการพูดคุย ส่งอะไรมาทุกวัน
ตอนนี้ทุกคนด่าบุ๋มหมดเลยนะ ไอ้เฮีย หน้าฮี อยากถีบหน้า ไม่มีใครชมบุ๋มเลย วันนี้ต้องกลับมามองตัวเองว่าพูดคนเดียวกับคนเป็นแสน ไม่มีใครเข้าใจบุ๋มเลยนะ ต้องกลับมามองมุมเราหรือเปล่าว่าเราผิดตรงไหนหรือเปล่า?
ไพศาล : คุณยังไปดีลขอเลขบัญชี แล้วคุณหายไป เท่ากับคุณค้าขาย คุณมีแต่กำไร ไม่มีทุน ทุนอยู่ที่เขา ยังทันสังคมยังมองอยู่ๆ แฟร์ๆ ลูกผู้ชาย คุณเคลียร์เขาไป เพราะคดีที่คุณจะโดนจะเข้าข่ายฉ้อโกง
กัน จอมพลังด่าคุณหน้าฮี ไม่ได้ปั่นนะ?
ไพศาล : แล้วถ้าตร.สืบเส้นเงินคุณขายของโดนอายัดไม่มีจริง ต่างกรรมนะ ถ้านับกรรมจะเหมือนแชร์แม่ชม้อย ฟอเร็กซ์มันเยอะ เคลียร์เขาเหอะ แมนๆ ลูกผู้ชายคุยกัน คุณปรึกษาทนายที่ไหนก็ได้
มีคนติดต่อเข้ามาเยอะมาก รู้จักหมูหยองมั้ย?
จั๊กกะบุ๋ม : รู้จัก เป็นน้องที่ไปเล่นดนตรี ผมประสบปัญหาด้านการเงิน ได้เงินมาก็เอาไปปิดหนี้ ผมก็คาดหวังว่าขายของมีรายได้จะคืนทุกคน ผมขอยืนยันตรงนี้ก่อนเงินที่ผมคั่งค้างทุกคน ยินดีชำระทุกบาททุกสตางค์
แต่ตอนนี้เข้าข่ายไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย?
จั๊กกะบุ๋ม : ก็มันเป็นแบรนด์โลโก้ผมไปแล้ว ผมไม่มีจริงๆ
ไพศาล : แต่อันนี้เข้าข่ายฉ้อโกง ไม่ใช่เรื่องหนี้ เข้าข่ายไม่ชำระค่าสินค้าไง
จั๊กกะบุ๋ม : วันนั้นน่าจะเป็นจังหวะที่ผมกดโอนเงิน ที่แม่ไปขอเงินผม ผมกดโอนเงินโดยมีความรู้สึกว่าผมโอนเงินไปแล้ว แม่ถึงเดินกลับไป แต่แม่บอกว่าแม่ไม่เห็น
ไพศาล : คุณทำเหตุจำเป็น เพราะเขาจะพูดกับพี่หม่ำใช่มั้ย
จั๊กกะบุ๋ม : ไม่ใช่ครับ ก่อนผมจะโอน ผมบอกก่อนแล้วแม่ครับ แม่กลับไปก่อน วันนี้โอนให้แม่แน่นอน แม่กลับไปก่อนนะ ผมโอนให้แม่แน่นอนตอนเย็นนี้
“หมูหยอง”ต่อสายเข้ามา มีปัญหาอะไรกับจั๊กกะบุ๋ม?
หมูหยอง : ไม่ได้มีปัญหา แต่อยากเรียนถามว่าทำไมอ่านไลน์คุณป้า ไม่เห็นอ่านไลน์หยองเลยครับ
มีกรณีอะไรกัน?
หมูหยอง : เบื้องต้นเราไปทำการแสดงด้วยกัน โดยจั๊กกะบุ๋มติดต่อผ่านหยอง ให้หยองไปทั้งวง ทั้งทีมเรามี 6 คน พ.ย.ปีที่แล้ว ตกลงค่าตัวพี่น้องช่วยกัน อยู่ที่ 39500 บาท สองฝ่ายรับทราบ ส่งหลักฐานให้ทางแชตไลน์ รับรู้โดยทั่วกัน หลังจากเล่นเสร็จเราไม่ได้รับค่าตัว ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ เรามีการทวงถามกัน คุณจั๊กกะบุ๋มบอกร้านไม่ได้โอน ผมก็ไม่ติดใจอะไร หลังจากนั้นยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 39500 บาท ผมได้รับแค่ 3 พันบาท ผมก็ติดต่อทวงถามตลอด ได้รับคำตอบว่ากำลังหาอยู่นะ หยิบยืมทางโน้นทางนี้ จนทุกวันนี้เป็นเวลา 4 เดือนแล้ว ล่าสุดมีการอ่านข้อความแต่ไม่ตอบ ผมทักไปอีก ทีนี้ก็ไม่อ่านไลน์ผมแล้ว เห็นรายการพี่หนุ่มพอดี ก็เลยโฟนอินเข้ามาเลย อยากได้ยินคำตอบเหมือนกัน เขาบอกว่าผมเป็นน้องหรือเป็นเพื่อน ก็ควรมีคำตอบดีๆ ให้ผมเหมือนกัน เพราะผมไม่เคยโพสต์ประจานหรือทวงหนี้ให้เขาเสื่อมเสีย แล้วหลักฐานที่พูด มีแต่คำพูดดีๆ ไม่เคยข่มขู่ทวงหนี้ ผมถามว่าจะเคลียร์ให้ผมเมื่อไหร่ เพราะทุกคนในทีมก็ 6 คน เขาก็รอจากผมอยู่คนเดียว ทำไมถึงเงียบไม่ตอบผม
คุณอยากได้เงินคืน?
หมูหยอง : ณ ตอนนี้ขอเป็นตัวแทนวงทั้งวง เห็นเขาบอกผ่านรายการว่าชีวิตเขามีปัญหา แต่ผมไม่เคยถามว่าเขาไปก่อปัญหาอะไร ผมอยากให้เขามองว่าไม่ใช่แค่ชีวิตคุณคนเดียวมีปัญหา ชีวิตคนอื่นมีปัญหาหมด แต่คุณเอาปัญหาคุณเองมาทำให้คนอื่นมีปัญหาด้วย เขาไปเพราะคิดว่าเป็นพี่น้องเพื่อนฝูง เขาไปเพราะช่วย มันไม่ใช่สิ่งที่เขาควรได้รับ ถ้าคุณบอกเขาเป็นเพื่อนพี่น้องคุณ
อยากบอกอะไรเขามั้ย?
จั๊กกะบุ๋ม : ก่อนอื่นต้องขอโทษหมูหยองและทีมงานที่ผิดคำพูดในทุกเรื่องที่ผ่านมา ผมมีปัญหาเรื่องสภาวะการเงินของผมก่อนเจอแม่ปูนา มันเป็นมรสุมของผมพอดี ผมไม่สามารถหาเงินจากไหนได้เลยแม้แต่บาทเดียว เงินติดตัวก็ไม่มีในช่วงนั้น
เชื่อพี่อย่าง อย่าพูดอย่างนี้ต่อไปเลย ยิ่งพูดคนยิ่งด่า ถ้าเป็นคนที่รู้จักกัน สนิทสนม ก็จะพูดว่ามันเรื่องของมึง ไม่ใช่เรื่องของเขา วันนี้เรื่องที่เกิดขึ้น บุ๋มกำลังยกแม่น้ำทั้งห้า มันคือปัญหาของบุ๋ม แล้วปัญหาคนอื่นจะทำยังไง?
จั๊กกะบุ๋ม : ในระหว่างนี้ ที่ผมทำงาน ที่ผมขายของ ที่ทำโน่นทำนี่ทำนั่นเพื่อหาเงินมาคืนทุกคนนี่แหละ
ทุกวันนี้บุ๋มกำลังหาเงินเพื่อเอาตัวรอดใช้หนี้นอกระบบของบุ๋ม โดยคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเดือดร้อนไปด้วย?