รีเซต

เค้าลางไม่ดี ยอดจองตั๋ว "The Marvels" น้อยกว่าหนังฮีโรเจ๊ง Black Adam หรือ The Flash

เค้าลางไม่ดี ยอดจองตั๋ว "The Marvels" น้อยกว่าหนังฮีโรเจ๊ง Black Adam หรือ The Flash
แบไต๋
7 พฤศจิกายน 2566 ( 11:00 )
184

ในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมานี่ มีเค้าลางให้เชื่อได้ว่าน่าจะมาถึงยุคที่หนังซูเปอร์ฮีโรเสื่อมความนิยมลงแล้ว แต่มาถึงวันนี้สัญญาณก็เริ่มเห็นชัดขึ้น เมื่อมีหลักฐานใหม่ส่อให้เห็นชัดว่ายอดจองตั๋วล่วงหน้าของ ‘The Marvels’ ภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เรื่องล่าสุดของมาร์เวล มียอดจองตั๋วต่ำกว่า ‘Black Adam’ และ ‘The Flash’ หนังเจ๊ง 2 เรื่องของทางฝั่งดีซีเสียอีก

ทางฝั่งดีซีนั้นเผชิญกับการทำหนังเจ๊งมาหลายเรื่องแล้วทั้ง ‘Black Adam’,’The Flash’, Shazam! Fury of the Gods’ และ ‘Green lantern’ แต่สำหรับฝั่งมาร์เวลนั้น การเผชิญกับหนังเจ๊งนี่ยังคงเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ แต่อาจจะเลี่ยงไม่พ้น

The Flah, Shazam! Fury of the Gods, Black Adam – 3 หนังเจ๊งของดีซี

‘The Marvels’ เป็นภาพยนตร์ภาคต่อจาก ‘Captain Marvel’ เมื่อปี 2019 แต่เนื้อหานั้นจะดำเนินต่อจากซีรีส์ ‘WandaVision’ และ ‘Ms.Marvel’ ที่สตรีมมิงทางช่อง Disney+ และการกลับมาครั้งนี้ก็นับเป็นความมั่นใจของทางมาร์เวล ที่นำซูเปอร์ฮีโรหญิง 3 คน มาร่วมจอกัน ซึ่งมาร์เวลก็คาดหวังว่าน่าจะเรียกความสนใจจากแฟน ๆ ได้อย่างมาก แต่มาถึงตอนนี้ก็เริ่มส่อแววแล้วว่า สถานการณ์ไม่ได้เป็นไปตามที่มาร์เวลคาดไว้

Deadline รายงานว่า มาร์เวลคาดหวังไว้ว่า ‘The Marvels’ น่าจะทำรายได้ในสุดสัปดาห์เปิดตัวที่ 70 ล้านเหรียญ ซึ่งก็ไม่ใช่ตัวเลขที่มาร์เวลตั้งไว้สูงเกินไปนัก เพราะแม้แต่ ‘Eternals’ อีกโปรเจกต์ที่น่าผิดหวังของมาร์เวลก็ยังทำรายได้เปิดตัวไปที่ 71 ล้านเหรียญได้เลย แต่สถานการณ์เริ่มส่อแววไม่ดี และอาจจะทำรายได้เปิดตัวไม่ได้ตามที่คาดไว้ เพราะถึงวันนี้ยอดจองตั๋วล่วงหน้าของ ‘The Marvels’ ยังน้อยกว่า ‘Black Adam’ และ ‘The Flash’ หนังเจ๊ง 2 เรื่องของทางฝั่งดีซีเลยด้วยซ้ำ ‘Black Adam’นั้นทำรายได้เปิดตัวไปที่ 67 ล้านเหรียญ ส่วน ‘The Flash’ นั้นทำรายได้เปิดตัวไปที่ 55 ล้านเหรียญ

น่าเป็นห่วงว่าพลังของ 3 สาว จะไม่สามารถเรียกความสนใจผู้ชมได้

หนัง ‘Captain Marvel’ เมื่อปี 2019 นั้นนับเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างเกินคาด เพราะตอนที่เข้าฉายหนังต้องเจอกับกระแสต่อต้านจากแฟนหนังกลุ่มหนึ่งที่ไม่พอใจในตัว บรี ลาร์สัน (Brie Larson) ที่มาร์เวลเลือกให้เธอมารับบท กัปตัน มาร์เวล ด้วยเหตุผลว่าเธอดูหยิ่ง แสดงได้ไม่ดี ดูมั่นอกมั่นใจเกินไป และพากันไปกดให้คะแนนลบในเว็บไซต์รีวิวหนัง แต่หนังก็สามารถผ่านกระแสต่อต้านมาได้อย่างสวยงาม ทำรายได้ทั่วโลกไปถึง 1,131 ล้านเหรียญ จากต้นทุนการสร้างที่ 152 ล้านเหรียญ แต่ดูเหมือนว่าภาคต่ออย่าง ‘The Marvels’ ถ้าจะทำตัวเลขให้ได้ถึงครึ่งหนึ่งของภาคแรกก็ดูจะเป็นไปได้ยากเสียแล้ว และหนังก็แบกภาระต้นทุนอันมหาศาลที่ 220 ล้านเหรียญไว้ด้วยอีก

‘The Marvels’เป็นหนังมาร์เวลเรื่องที่ 3 และเรื่องสุดท้ายของมาร์เวลที่จะออกฉายในปี 2023 นี้ ต่อจาก ‘Ant-Man and the Wasp: Quantumania’ และ ‘Guardians of the Galaxy Vol. 3’ เรื่องที่ว่า ‘The Marvels’ จะทำรายได้เอาชนะ ‘Guardians of the Galaxy Vol. 3’ ที่ทำไว้ได้ถึง 845 ล้านเหรียญนั้นลืมไปได้เลย แต่ก็ยังมีลุ้นว่าหนังคงจะไม่ทำรายได้ไปน้อยกว่า ‘Ant-Man and the Wasp: Quantumania’ ที่ทำไว้ได้แค่ 476 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญ

Ant-Man and the Wasp: Quantumania ครองตำแหน่งคะแนน rottentomatoes ต่ำที่สุด

แม้ว่า ‘Ant-Man and the Wasp: Quantumania’ จะเปิดตัวได้อย่างสวยงามกับตัวเลข 100 ล้านเหรียญในสุดสัปดาห์แรก ซึ่งสูงกว่ารายได้ของ ‘The Marvels’ ที่คาดการณ์ไว้ว่าจะทำได้ แต่รายได้ในสัปดาห์ต่อ ๆ มาของ Ant-Man 3 ก็ดิ่งลงอย่างมาก ส่วนหนึ่งเพราะแฟน ๆ ผิดหวังกับการเปิดตัว Kang the Conqueror ที่ไม่ชวนให้ตื่นเต้นเร้าใจตามที่คาดไว้ ทำให้ Ant-Man 3 ครองตำแหน่งหนังมาร์เวลที่ทำคะแนน Rotten Tomatoes ไว้ต่ำที่สุดที่ 46%

ถ้าหากว่า ‘The Marvels’ จะสามารถทำรายได้เอาชนะ ‘Ant-Man and the Wasp: Quantumania’ หนีตำแหน่งหนังมาร์เวลที่ทำรายได้ต่ำสุดในปีนี้ไปได้ หนังจะต้องเอาชนะใจผู้ชมและนักวิจารณ์ให้ได้ แล้วจะสามารถทำรายได้ในสัปดาห์ต่อ ๆ ไปได้ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับ ‘Elemental’ หนังเรื่องล่าสุดของ Pixar ที่เปิดตัวไม่สวย แต่ได้รับเสียงตอบรับจากผู้ชมและนักวิจารณ์ดี และสามารถทำรายได้ในสัปดาห์ต่อ ๆ มาได้ดี

มาลุ้นเอาใจช่วย ‘The Marvels’ ไปพร้อม ๆ กัน หนังมีกำหนดเข้าฉาย วันพุธที่ 8 พฤศจิกายนนี้แล้ว

ที่มา : movieweb