รีวิว Sweet Home (สวีทโฮม) ซีซัน 2 ภาคต่อที่ดีขึ้นกว่าเดิม ดราม่าเข้มขึ้น ประเด็นน่าสนใจ แต่ก็ยังไปได้ไม่สุดทาง [มีพากย์ไทย] ดูได้ทาง Netflix บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่าเรื่องย่อ Sweet Home (สวีทโฮม) ซีซัน 2สำหรับเรื่องราวในซีซันที่ 2 นี้จะเป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องจากซีซันแรก หลังจากที่ทหารได้เดินทางมาถึงยังอพาร์ทเม้นท์กรีนโฮม ชาฮยอนซู (รับบทโดย ซงคัง) ที่ได้กลายเป็นผู้ติดเชื้อพิเศษก็ได้ยอมเสียสละตัวเองให้ถูกจับไปเพื่อให้ทางการนำไปศึกษาเพื่อผลิตวัคซีน ทว่าเรื่องราวมันไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น เมื่อจู่ๆ พยอนซังอุค (รับบทโดย อีจินอุค) ที่ตอนนี้ได้ถูกผู้ติดเชื้อพิเศษสิงร่างได้เข้ามาชิงตัวฮยอนซูไปเพราะหวังจะตั้งทีมผู้ติดเชื้อพิเศษเพื่อหาทางวิวัฒนาการให้เหนือกว่ามนุษย์ แต่กลับกลายเป็นว่าฮยอนซูไม่ได้เห็นด้วยกับเขา และต้องการที่จะไปเป็นหนูทดลองเพื่อผลิตวัคซีน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง Sweet Home (สวีทโฮม) ซีซัน 2 มีทั้งหมด 8 ตอน สามารถรับชมได้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflixตัวอย่าง Sweet Home (สวีทโฮม) ซีซัน 2รีวิว Sweet Home (สวีทโฮม) ซีซัน 2สำหรับซีซัน 2 นี้ต้องบอกเลยว่าผมค่อนข้างตั้งตารอพอสมควร แม้ว่าในซีซันแรกภาพรวมจะออกมาได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าตัวพล็อตเรื่องและสิ่งที่เขาปูไว้ให้มาต่อในซีซัน 2 นั้นมันน่าสนใจมาก ด้วยเหตุนี้เองก่อนที่จะได้ดูซีซัน 2 ผมจึงไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก คือเข้าไปดูด้วยความอยากรู้อย่างเดียวว่ามันจะไปทางไหนต่อ แต่กลับกลายเป็นว่ามันออกมาสนุกกว่าที่คิด บทอาจไม่ได้เขียนมาดีขึ้นมาก แต่ประเด็นที่เขาชูขึ้นมามันน่าสนใจ ประเด็นในซีซันนี้มันยิ่งใหญ่กว่าซีซันแรกมาก ซีซันแรกคือเราลุ้นว่าใครจะติดเชื้อบ้าง ตัวละครหลักจะรอดออกจากอพาร์ทเม้นท์ได้หรือเปล่า แต่ในซีซันนี้เรื่องมันไปไกลถึงระดับทั้งโลกเลย ส่วนตัวผมชอบ 3 ตอนแรกมากที่สุดแล้ว เขาเปิด 3 ตอนแรกมาได้สนุกและน่าติดตามมากๆ ปูเรื่องราวให้พระเอกอยากไปทดลอง พร้อมเฉลยว่าที่จริงแล้วโดนจับไปก็กลายเป็นแค่สัตว์ทดลอง ก่อนเรื่องราวจะบานปลายจนมีการยิงขีปนาวุทล้างบางมนุษย์ เกิดรัฐประหารเล็กๆ จากเหล่าทหารที่ไปฆ่าพวกผู้นำ มันเกิดจุดแตกหักครั้งใหญ่ แถมยังมีฉากแอ็คชั่นมันๆ ด้วย คือ 3 ตอนแรกทุกอย่างมันกำลังกลมกล่อมพอดีเลย แต่พอไปตอนที่ 4 สคริปต์เวลาไป 1 ปี หลังจากนั้นทุกอย่างก็ช้าและอืดไปหมดพอเข้าตอนที่ 4 ทุกอย่างก็ช้าไปหมด เปลี่ยนโฟกัสไปที่กลุ่มผู้รอดชีวิตจากการล้างบางที่ไปรวมตัวกันในสนามกีฬาแทน แถมยังสคริปต์เวลาไป 1 ปี เราเลยเหมือนต้องมาเริ่มใหม่กันหมดว่าที่ผ่านมาปีนึงเนี่ยเกิดอะไรขึ้นบ้าง มีการปูว่าอีอึนยูกลายเป็นคนที่ทุกคนกลัว และถูกกล่าวหาว่าฆ่าสามีของหัวหน้าผู้ดูแลผู้รอดชีวิต มีการแนะนำตัวละครผู้ติดเชื่อพิเศษใหม่ที่เป็นลูกของซออีคยอง มีประเด็นเรื่องของกลุ่มทหารคุ้มกันที่ต้องออกตามหาลูกน้องที่หายไป ไหนจะมีพระเอกที่หายไปอีก รวมไปถึงประเด็นเก่าๆ ที่ปูไว้แล้วยังไม่เคลียร์อีกมากมาย คือทุกอย่างผสมปนเปกันเยอะไปหมดจนรู้สึกล้นๆ แม้ว่าสุดท้ายมันจะปูทางไปยันตอนท้าย แต่ผมก็ยังมองว่ามันดูสะเปะสะปะเกินไป มันไม่มีโฟกัสที่ชัดเจน ทำให้ความรู้สึกตอนดูคือเหมือนไร้จุดหมาย ไม่รู้มันจะพาเราไปทางไหน ซึ่งหากใครทนไม่ได้ก็อาจเลิกดูไปเลย โดยส่วนตัวผมที่นั่งทนดูจนจบก็ต้องยอมรับว่าบทสรุปในซีซันนี้มันยังไปได้ไม่สุดจริงๆ คือเป็นสรุปที่ไม่สรุป เข้าใจว่าต้องปูไปซีซันต่อไปอีก แต่มันก็ควรมีบทสรุปเล็กๆ อะไรเกิดขึ้นบ้าง อันนี้คือจบแบบทุกอย่างยังค้างๆ คาๆ ไปหมดอย่างไรก็ตาม ถึงตัวบทและการดำเนินเรื่องช่วงหลังจะไม่ค่อยถูกจริตผมเท่าไหร่ แต่ส่วนอื่นๆ นั้นกลับทำออกมาได้ดี ทั้งการแสดงของนักแสดงในเรื่องที่เล่นได้ดีงามทุกคน ประเด็นต่างๆ ที่ซ่อนไว้ในเรื่องที่น่าสนใจและมีความเฉียบคม ไปจนถึงงานภาพและงานโปรดักชั่นที่อลังการจัดเต็มมากกว่าซีซันแรกมากๆ ถึงซีจีในบางฉากอาจจะดูลอยๆ ไปบ้าง แต่ภาพรวมคือมันดีงามจริงๆ เรียกได้ว่าแค่เข้าไปดูงานภาพและความอลังการอย่างเดียวก็คุ้มแล้ว สุดท้ายนี้ถึงผมจะบอกว่าซีซันนี้ไปได้ไม่สุดทาง แต่ผมก็มั่นใจว่าใครที่เคยดูซีซันแรกมาแล้วชอบก็น่าจะชอบซีซันนี้ด้วยเช่นกัน รวมไปถึงเองก็ชอบเหมือนกัน ไม่ได้ชอบเพราะมันสนุกหรือสมบูรณ์ แต่ชอบประเด็นต่างๆ และพล็อตเรื่องที่ปูไว้ มันน่าสนใจและน่าติดตามมากจริงๆ ถือเป็นอีกหนึ่งในซีรีส์ไซไฟเอาชีวิตรอดที่อยากแนะนำให้ทุกคนไปดู เพราะมันไม่ใช่ซอมบี้ทั่วไปแบบที่เราเคยเห็น การติดเชื้อในเรื่องนี้มันมาจากอาการทางจิต คือแพร่เชื้อไม่ได้ (ยกเว้นมีทักษะพิเศษ) คนจะกลายร่างก็ต่อเมื่อมีปมในใจหรือเกิดความเครียด อันนี้แหละที่ผมโคตรชอบและโคตรซื้อเลย เอาเป็นว่าไปลองดูกันเองดีกว่าครับ จะได้รู้ว่าคุณชอบหรือไม่ชอบสุดท้ายนี้ ฝากกดแชร์ และกดติดตามด้วยนะครับช่องทางอื่นๆ ในการติดตาม ละเลงหนังFacebook Fanpage : ละเลงหนังกลุ่มสำหรับพูดคุยเรื่องหนัง : พูดคุยเรื่องหนังทุกเรื่องบนโลก By ละเลงหนังบทความอื่นๆของ ละเลงหนัง :รีวิว Scott Pilgrim Takes Off (สก็อตต์ พิลกริมออกสตาร์ท) อนิเมะจากหนังที่ยังคงความฮาและสนุกเหมือนเคย [มีพากย์ไทย] ดูได้ทาง Netflixรีวิว Leo (ลีโอ) แอนิเมชั่นสุดเพลินที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี เรื่องราวฟีลกู๊ดของกิ้งก่าแก่พูดได้ที่คอยดูแลเด็กประถม [มีพากย์ไทย] ดูได้ทาง Netflixรีวิว Believer 2 (2023) ภาคต่อที่อาจไม่ดีเท่าภาคแรกแต่ก็ดุเดือดสนุกดูเพลิน พร้อมกับบทสรุปอันแสนขมขื่น [มีพากย์ไทย] ดูได้ทาง Netflixรีวิว The Marvels (เดอะ มาร์เวลส์) หนังสูตรสำเร็จที่พอดูสนุกเพลินๆ แต่อาจไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคนรีวิว Attack on Titan: The Final Season Part 3.2 (ครึ่งหลัง) บทสรุปของการเดินทาง 10 ปีที่อาจไม่สวยงามแต่แสนตรารึง ยกให้เป็นหนึ่งในอนิเมะที่ควรดูซักครั้งก่อนตาย!รีวิว Onimusha (โอนิมูฉะ) อนิเมะแนวซารูไรดัดแปลงจากเกมชื่อดัง ภาพสวยสนุกดูเพลิน [มีพากย์ไทย] ดูได้ทาง Netflixรีวิว The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes (เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม) ภาคแยกที่ดีงามในทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงรีวิว The Killer (นักฆ่า) หนังนักฆ่าสุดเลือดเย็นที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร [มีพากย์ไทย] ดูได้ทาง Netflixแหล่งที่มาทั้งหมดจาก Netflix Japan, Netflix THภาพปก: ภาพที่ 1ภาพประกอบ: ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4วิดีโอ: สวีทโฮม (Sweet Home) 2 | ตัวอย่างซีรีส์อย่างเป็นทางการ จาก Youtube: Netflix Thailandเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !