Short Comment The Outlaws เถื่อน เหนือกฎหมาย (2017)ดุ เดือด ดิบ มหึมามหามันส์เร้าใจตั้งแต่ต้นจนจบที่สุดสะใจตามสไตล์ "มาดงซอก"ในวงการบันเทิงที่เล่าผ่านภาพเคลื่อนไหวบนจอจะมีนักแสดงประเภทหนึ่งที่ไม่ว่าจะแสดงบทบาทแบบไหนจะยังคงความเป็นตัวเอง แล้วถ้าจำกัดลงมาให้แคบคือถ้าว่ากันที่นักแสดงเกาหลีที่เล่นเรื่องไหนก็เหมือนเป็นตัวเองแต่ก็เหมือนเอาตัวเองไปอยู่ในบทบาทที่ได้รับแบบเนียนๆ เช่นนักแสดงชายอย่างจีซองหรือนัมกุงมินที่เล่นเรื่องไหนบุคลิกท่าทางสำเนียงภาษาแทบไม่ต่างกัน กระนั้นก็สามารถทำให้คนดูเชื่อได้ว่าเป็นตัวละครนั้นๆได้อย่างน่าทึ่งคือการเอาตัวเองไปอยู่ในบทที่ได้รับซึ่งทั้งสองเป็นนักแสดงชายที่ดูไปบ่นไปชื่นชอบ แต่ยังมีอีกหนึ่งคนที่เป็นแบบนั้นและรับบทที่แทบไม่ต่างกันเหมือนเป็นจุดขายมีสไตล์เป็นของตัวเองนั่นคือมาดงซอกที่คนดูบ้านเรารู้จักดีในนามพี่อ้วนแห่ง Train To Busan (2016) ที่ใช้ชื่ออินเตอร์ว่าดอน ลี ซึ่งไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าต่อให้พี่มาดงซอกเล่นเรื่องไหนก็บุคลิกเดิมๆแต่สุดท้ายคนดูจะเชื่อได้อยู่ดีว่าพี่แกคือคนคนนั้นอย่างน่าประหลาด และเป็นอีกคนที่การันตีงานที่เชื่อขนมกินได้ว่าสนุกไม่ว่าอยู่ในบทบาทหนักหรือเบาเช่นเดียวกับเรื่องนี้ที่เป็นจุดเริ่มต้นของไตรภาค Criminal Cityอ้างอิงจากเรื่องจริงในการปราบปรามแก๊งอันธพาลจีน-เกาหลีครั้งใหญ่เมื่อปี 2007 ที่ย่านไชน่าทาวน์ในกรุงโซล เมื่อเริ่มเดิมทีก็มีแก๊งอันธพาลทำมาหารับประทานแบ่งพื้นที่กันกระทบกระทั่งกันก็ยังมีตำรวจสายสืบมาซอกดู (มาดงซอก) ที่เป็นลูกหม้อในพื้นที่และทีมตำรวจของเขาคอยดูแลไม่ให้บานปลายไปได้ จนการมาของจางเฉิน (ยุนคเยซัง) ที่มาทวงหนี้กับลูกกระจ๊อกอันธพาลในพื้นที่จนไปกระทบกระทั่งกับเจ้าถิ่น แต่แล้วจางเฉินก็ไม่หยุดแค่นั้นหลังจากสังหารโหดหัวหน้าแก๊งอสรพิษแล้วลามปามไปยึดพื้นที่ในไชน่าทาวน์ต่อ และจนถึงที่สุดจางเฉินกับลูกน้องที่ใช้วิธีที่โหดเหี้ยมอำมหิตในการจัดการฝ่ายตรงข้ามก็ไปกระทบกับคนที่ไม่ควรไปยุ่งด้วยคือประธานฮวังซุนชิก (โจแจยุน) ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับมาซอกดู ในที่สุดประธานฮวังก็ตามล่าจางเฉินแล้วทางเบื้องบนก็เร่งรัดให้สืบคดีการฆาตกรรมหัวหน้าแก๊งอสรพิษในขณะที่ในพื้นที่ไชน่าทาวน์ก็อยู่ในความหวาดกลัวเพราะความโหดของพวกจางเฉิน ทำให้มาซอกดูต้องเร่งมือและทำทุกวิถีทางที่จะจับจางเฉินให้ได้แม้ว่าจะต้องอัดให้หนักเพื่อพิทักษ์กฎหมายก็ตามตรงๆไม่ซับซ้อนบ่งขั้วชัดบีบอารมณ์ด้วยความโหดอำมหิตมาให้คนดูเลือกข้างอย่างได้ผล ถ้าว่ากันที่เรื่องบทภาพยนตร์เรื่องนี้มีความชัดเจนที่จะมาอัดความดุเดือดเลือดพล่านอะดรีนาลีนหลั่งสุดๆให้คนดู เพราะบทชัดเจนอย่างซื่อตรงที่จะวางตัวเทาๆจนถึงดำสนิทเพราะชื่อเรื่องก็บอกว่าพวกนอกกฎหมายซึ่งในที่นี้อาจไม่ใช่พวกอันธพาลเสียทั้งหมด ด้วยความที่ตำรวจเองก็ดูไม่ค่อยเป็นสีขาวอีกนัยหนึ่งก็คือชื่อหนังอีกชื่อใช้ว่า Criminal City หรือเมืองอาชญากรรม ซึ่งก็ชัดแล้วว่ามันคือตาต่อตาฟันต่อฟันต่อยมาต่อยกลับไม่โกงแล้วในส่วนของอารมณ์ก็เล่นไม่ยากแต่ยังได้ผลทุกครั้งคือผลักหัวใจคนดูไปสุดทาง ซึ่งในเรื่องนี้ใช้ความโหดอำมหิตที่อาจต้องเบือนหน้าหนีแม้จะไม่เลือดสาดไหลนองพื้นแต่เมื่ออารมณ์มันได้บรรยากาศมันให้ก็ทำให้อึดอัดคับแค้นใจไม่ใช่น้อย สิ่งที่ตามมาคืออารมณ์คนดูไปสุดแล้วก็เข้าทางวัตถุประสงค์ของบทเมื่อคนดูอยากให้จัดการพวกคนร้ายอย่างสาสมโดยไม่สนกฎหมงกฎหมายแล้ว นั่นคือบทภาพยนตร์ทำงานของตัวเองได้ผลจนคนดูคล้อยตามจนเอาใจช่วยตำรวจแม้จะรู้ว่าตำรวจเองก็เทาๆดุดันไม่เกรงใจใครเดือดและดิบแบบสั่งได้จนได้งานที่มหึมามหามันส์ลงท้ายอย่างสะใจ ส่วนที่ดีของเรื่องนี้ส่วนหนึ่งคือไม่มัวมาดราม่าให้เวลาที่ผ่านไปยืดเยื้อคือเมื่อเริ่มต้นก็พัฒนาตัวเองไปสู่จุดที่ยากจะประสานเข้าไปเรื่อยๆ ซึ่งก็คือการพาสถานการณ์ที่หันหลังกลับไม่ได้มาให้แล้วชักจูงไปสู่ความดุดันไม่เกรงใจใครเพราะหนังได้ฉากแอ็กชันคิวบู๊ที่ดุเดือดดุดันแถมยังดิบสับเป็นสับฟันเป็นฟันแทงเป็นแทงจนได้ดีกรีความเร้าใจในระดับมหึมามหามันส์ที่ไม่ต้องระเบิดตูมตาม ร่วมด้วยบรรยากาศในโทนหนังที่หม่นๆปนชื้นแฉะบางเวลาที่เอาแค่มองผ่านๆก็อึดอัดแล้วแล้วยังมีความโหดมาแจมด้วยยิ่งเข้มไปกันใหญ่ ที่สำคัญคือเหมือนจะเป็นสไตล์ของหนังแอ็กชันของมาดงซอกที่ต้องอัดให้หนักใส่ให้แรงตามขนาดของมัดกล้ามทำให้ทุกครั้งที่อัดกันต่อมความตื่นเต้นในใจสะท้านสะเทือน แน่นอนเมื่อหนังบีบอัดหัวใจและอารมณ์คนดูจนแทบบี้แบนกับสิ่งที่กดทับมาตลอดด้วยความโหดของตัวร้ายก็พึงควรให้รางวัลหัวใจกันบ้าง แล้วบทหนังก็ชื่อสัตย์พอที่จะมอบความสะใจมาให้ในตอนท้ายที่ไม่ว่ายังไงคนดูจะสะใจแน่นอนการแสดงที่เอาดีได้ไม่ว่าจะเป็นใครเพราะเกาหลีมีมาตรฐานที่สูงพอ หนังแบบนี้ใครๆก็เล่นได้แต่เมื่อมาเป็นหนังของมาดงซอกก็กลายเป็นสไตล์เฉพาะบุคคล เพราะก็บอกแล้วว่ามาดงซอกจะเล่นเป็นแบบนี้เสมอและคนดูก็ชอบดูเขาแบบนี้คือหมัดลุ่นๆอัดหนักๆเสียงหมัดกระทบเนื้อดังทะลุโสต ทำให้ด้านการแสดงมาดงซอกไม่มีอะไรน่ากังขาแม้ว่าเขาจะเป็นแบบนี้อยู่เรื่อยมาแต่ว่าคนดูจะไม่ปฏิเสธว่าเขามารับบทเป็นใครก็เป็นคนนั้นที่อาจคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน ส่วนที่ต้องยกนิ้วให้อาจเพราะมาตรฐานการแสดงของนักแสดงเกาหลีสูงด้วยประกอบกับการรับบทบาทที่แตกต่างได้ทุกเมื่อก็คือยุนคเยซังที่ดูกี่ครั้งก็เผลอคิดว่าฮาจองอู เพราะนี่ก็คือพระเอกระดับแถวหน้าที่คนดูมักจะคุ้นตาในบทพระเอกแต่เรื่องนี้มารับบทร้ายเป็นหัวหน้าแก๊งอันธพาลโรคจิตโหดอำมหิตได้อย่างไม่เหลือเนื้อที่ให้หัวใจคนดู เพราะเมื่อคนดูเห็นหน้าจะสัมผัสรังสีอำมหิตและคิดหวังว่าเขาจะพบจุดจบที่คู่ควร นับเป็นการพลิกมาเล่นบทร้ายได้อย่างทั้งน่ารังเกียจทั้งกวนหัวใจทำให้เรื่องนี้มีดีไปจนถึงนาทีสุดท้ายที่มันส์สะใจเหลือประมาณเป็นหนังที่สนุกคุ้มค่าทุกนาทีที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนี่คือความมันส์สะใจที่สมใจคนดูโดยไม่ต้องไปสนว่าจะมีอะไรมาให้คิดหรือติดใจเพราะต่อให้คนที่ดูได้อย่างละเอียดอย่างผู้เขียนยังไม่สน เพราะหนังออกมาดูสนุกจนแทบลืมคิดถึงเรื่องอื่นแม้ความจริงเมื่อมาลองตรองดูหลังดูจบบทหนังก็ยังเข้าท่าแม้ว่าจะซื่อตรงแต่รายละเอียดก็ไม่ได้มีอะไรหลุดจนกลายเป็นบาดแผล ถ้าจะมีคือเรื่องของหัวใจที่จับสัมผัสไม่ได้ทั้งที่พยายามใส่มาบ้างแต่ก็นะเจตนาเริ่มต้นก็คือการฟาดปากกันของตำรวจตัวใหญ่กับผู้ร้ายตัวเอ้ไอ้ดราม่าที่ใส่มาคือการพาไปสู่จุดที่ไม่ต้องมีก็ได้กฎหมายในใจขออัดให้สะใจก่อนค่อยว่ากัน ด้วยความที่หนังดูสนุกได้ตั้งแต่ต้นจนจบด้วยการบีบอารมณ์คนดูแบบคั้นๆทำให้นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นและมีภาคต่อตามมาคือ The Roundup (2022) และล่าสุด The Roundup: No Way Out (2023) ที่ชื่ออาจไม่เหมือนแต่ก็เป็นภาคต่อของหนังเรื่องนี้ที่มีตัวละครหลักคือสายสืบมาซอกดูของมาดงซอก จึงการันตีได้ว่าภาคนี้มีดีแน่นอนจนต้องมีภาคต่อตามมาเป็นไตรภาคและสำหรับผู้เขียนแล้วเรื่องนี้ดูได้อย่างคุ้มค่าทุกนาทีจริงๆดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก จาก Facebook Viu Thailandภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5,6 / ภาพที่ 7 Facebook tvN Movies ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/BmJnE31r85lmhttps://entertainment.trueid.net/detail/reJbryD42Dmehttps://entertainment.trueid.net/detail/B1qgGRPZJAzj จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !