Movie ReviewSide by Side ที่ตรงนั้นยังคิดถึง (2023)สุนทรียภาพแห่งสายตา สุนทรียภาพแห่งหัวใจ สุนทรียภาพแห่งอารมณ์อาจเพราะหนังหรือภาพยนตร์คือศาสตร์และศิลป์ที่มาเพื่อความบันเทิงเป็นปฐมให้กับมนุษย์ผู้ชื่นชอบในความเป็นมัน แต่มนุษย์ก็มีความหลากหลายทางอารมณ์ความชื่นชอบหรือรสนิยมก็ต่างกันไปที่อาจเหมือนหรือต่างกันและนั่นก็คือมนุษย์ ความบันเทิงผ่านภาพเคลื่อนไหวที่เรียกว่าภาพยนตร์จึงอาจไม่สามารถตอบโจทย์ความบันเทิงให้กับทุกคนเพราะหนังบางเรื่องก็เหมาะกับคนบางคนแต่ก็ไม่เหมาะกับคนบางคน เพราะหนังที่ดีจะมีจุดประสงค์ที่ชัดเพื่อที่จะบอกอะไรบางอย่างกับคนดูแค่ว่าคนดูจะจับสัมผัสสิ่งนั้นได้จากภาพที่เห็นบนจอหรือไม่เท่านั้น และแน่นอนว่าเมื่อย้อนกลับมาหาคำว่ารสนิยมสิ่งนี้ก็คือปัจจัยกำหนดให้คนดูแต่ละคนจะสัมผัสและเสพซึ้งถึงสิ่งที่หนังตั้งใจจะเป็นหรือไม่ หากรสนิยมของคนดูตรงกับสิ่งที่หนังต้องการสื่อภาพที่เห็นเพลงที่ได้ยินบนจอก็จะสามารถซึมซับเข้าสู่หัวใจผ่านสายตาเพื่อมีผลกับอารมณ์ได้ เช่นเดียวกับหนังญี่ปุ่นเรื่องนี้ที่มีความเป็นญี่ปุ่นเต็มที่ที่อาจไม่เร้าอารมณ์แบบรุนแรงแต่หากได้ผ่านสายตาคนที่เข้าใจหรือคนที่รสนิยมต้องกันกับหนังนี่ก็คือหนังที่สร้างความบันเทิงได้อย่างสุนทรีย์มิยามะ (เคนทาโร่ ซาคาคุจิ) ชายหนุ่มที่มีความสามารถพิเศษที่ลึกลับในการสัมผัสความคิดและจิตของคนอื่นได้หากว่าใครสักคนคิดถึงใครสักคนอย่างมากพอ ด้วยพลังของเขาทำให้เขาสามารถรักษาเยียวยาหัวใจคนได้ให้หายจากความกังวลหรือความเจ็บปวดทางใจ มิยามะอาศัยอยู่อย่างสงบกับชิโอริ (มิคาโกะ อิชิคาวะ) แฟนสาวกับลูกของเธอมิมิ (อเมริ อิโซมูระ) ในชนบทเล็กๆและที่นี่เองที่มิยามะใช้ความสามารถพิเศษของเขาในการช่วยเหลือผู้คนจนกลายเป็นที่รัก กระนั้นแทบทุกย่างก้าวของเขากลับมีชายหนุ่มหนึ่งคนที่ตามติดเหมือนเป็นเงาทำให้เขาสงสัยจนเมื่อลองค้นหาดูก็พบว่านี่คือจิตของคุซากะ (โคได อาซากะ) อดีตรุ่นน้องโรงเรียนมัธยมของเขา แล้วด้วยความสงสัยว่าทำไมจิตของคุซากะจึงตามติดไม่ห่างมิยามะจึงตัดสินใจไปพบกับคุซากะเพื่อพบว่าความคิดถึงของคุซากะเกี่ยวข้องกับริโกะ (อาสึกะ ไซโตะ) อดีตแฟนสาวของมิยามะเองที่เขาทอดทิ้งมาที่อยู่กินแบบไม่มีหัวใจกับคุซากะ แล้วด้วยบาดแผลที่มีในใจมิยามะจึงตัดสินใจพาริโกะกลับมายังที่ที่เขาอยู่แต่กับชิโอริล่ะจะเป็นยังไงเหมือนลึกลับแต่ไม่ซับซ้อนเล่าเรื่องตรงๆด้วยความสงสัยและเฉลยทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา ถ้าว่ากันที่บทหนังจะเห็นชัดว่าถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนโดยที่ส่วนแรกคือความลึกลับปนสงสัยอาจมีหลอนนิดๆเมื่อเห็นว่ามีใครตามติดมิยามะเป็นเงาตามตัว แต่ก็เห็นเจตนาชัดที่จะตามติดชีวิตมิยามะไปเรื่อยๆว่าทำไมเพราะอะไรแต่สิ่งที่ชัดอีกอย่างคือบทหนังไม่ได้ซับซ้อนแม้จะดูเหมือนมีความลึกลับเหนือธรรมชาติในตัว แล้วเมื่อถึงเวลาส่วนที่สองก็ปล่อยคำตอบที่คลายความสงสัยออกมาว่าทุกอย่างมันมาจากความคิดถึงที่มีใครสักคนคิดถึงใครสักคนอย่างแรงกล้า และสุดท้ายในส่วนที่สามก็คือการจัดการความคิดถึงอย่างเรียบง่ายสวยงามก่อนที่จะกลายเป็นความคิดถึงเสียเองของมิยามะที่ยอมรับว่าสามส่วนนี้เนียนตาถ้าไม่ใช้หัวใจดูก็อาจไม่รู้ว่าความรู้สึกถูกแบ่งออกมาแบบนี้ บทหนังยังซ้อนเรื่องของความคิดถึงและไม่คิดถึงไม่สิการไม่พยายามคิดถึงหรือการพยายามลบบางอย่างออกจากใจของมิยายะที่เมื่อเปิดออกมาทุกอย่างก็ไม่เหนือกว่าจินตนาการ ความเยี่ยมคือการไม่ซับซ้อนที่เหมือนจะซับซ้อนเหมือนจะดูง่ายแต่ก็มีความหมายโดยนัยเจตนาชัดเจนในความคิดถึงที่ไม่เร่งเร้าไม่ฟูมฟายไม่ขยี้ดราม่าเพราะความคิดถึงอาจไม่ใช่มาจากเหตุผลเดียว หนังยังมีเจตนาชัดในการจะสื่อกับคนดูว่าการคิดถึงใครสักคนอย่างแรงกล้าอาจเป็นความทรมานเพราะบางครั้งความคิดถึงที่ส่งไปอาจไม่มีใครรับรู้ ความเยี่ยมอีกอย่างคือการไม่พยายามบีบคั้นจนฟูมฟายแม้ว่าเรื่องความคิดถึงอาจสามารถเร่งได้เร้าได้ให้เป็นงานโศกซึ้งเศร้าเคล้าน้ำตาเพราะในชีวิตที่ผ่านมาไม่ว่าใครก็คงมีบ้างที่คิดถึงจนหลั่งน้ำตา กระนั้นในความคิดถึงมันคือสิ่งที่คู่กับมนุษย์และความคิดถึงไม่จำเพาะแค่ว่ามาจากคนรักจากความรักของหนุ่มสาวแต่มาจากความรักในทุกเรื่องราวที่สามารถร้อยใจของคนหนึ่งให้คิดถึงสุดหัวใจ ทั้งยังมีบางครั้งที่ความคิดถึงพาดทับความผูกพันระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยงหรือคนกับสิ่งของดังนั้นความคิดถึงจึงมาจากเหตุผลมากมายที่ยากจะสาธยายได้หมด ซึ่งถ้าเข้าถึงความคิดถึงในเรื่องนี้ก็จะรู้ว่าความคิดถึงมีพลานุภาพที่ยิ่งใหญ่แต่ที่เจ๋งคือไม่ได้มาจากการขยี้ ตัวอย่างง่ายๆในซีนท้ายที่ชิโอรินอนนิ่งๆแล้วน้ำตาคลอไหลก็อธิบายได้แล้วว่าความคิดถึงมันส่งผลต่อหัวใจขนาดไหนยังคงเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่นด้วยความเงียบงันบทสนทนาที่คมคายภาพสวยเพลงดึงดูดโสตจนเป็นความสุนทรีย์ เพราะหนังญี่ปุ่นมักจะเป็นแบบนี้คือเรียบเรื่อยเก็บเกี่ยวอารมณ์ความรู้สึกบางครั้งเงียบนิ่งบทสนทนาที่ไม่มีอะไรมาประกอบนอกจากสรรพเสียงรอบข้าง บางครั้งบทสนทนาก็เป็นความคมคายที่ไม่รู้สึกว่าจงใจคืออาจมีความหมายแต่ก็เหมือนคำพูดที่แสนธรรมดา อีกอย่างคือหนังญี่ปุ่นจะโดดเด่นเรื่องภาพและเพลงที่พอเหมาะลงตัวคือเพลงส่งภาพหรือภาพสร้างอารมณ์ให้เพลงและเรื่องนี้ถ้าว่ากันที่ตรงนี้นี่คืองานที่ลงตัวอย่างที่สุด เพราะตลอดเวลาที่ตามติดชีวิตมิยามะที่ผู้เขียนคิดเอาเองว่าเขาพยายามไม่คิดถึงหรือพยายามทำให้สมองและหัวใจว่างด้วยการเสพซึ้งกับความงดงามของธรรมชาติเก็บเกี่ยวความละมุนของทุกสรรพเสียงและความงดงามทางสายตา สิ่งที่ตามมาคือคนดูจะรู้สึกผ่อนคลายไปกับภาพที่เห็นตรงหน้าบนจอพร้อมกับการพยายามปล่อยเรื่องราวข้างหลังให้เลือนหายไประยะหนึ่ง และทุกอย่างมาพร้อมกับภาพที่งดงามเพลงเพราะที่กระตุ้นโสตสัมผัสประกอบกับภาพสวยๆสะกดสายตาจนกลายเป็นสุนทรียภาพเหมือนเป็นหนังของ "เคนทาโร่ ซาคาคุจิ" แต่ก็ถูกห้อมล้อมด้วยองค์ประกอบชั้นดีที่ไม่ควรมองข้าม แน่นอนเมื่อเป็นการตามติดชีวิตมิยามะในการเสพซึ้งทุกสรรพสิ่งของธรรมชาติเพื่อลบบางอย่างจากหัวใจไม่ให้คิดถึงหนังเรื่องนี้จึงไม่ต่างจากหนังของเคนทาโร่ ซาคาคุจิ ซึ่งก็ใช้ประโยชน์จากเคนทาโร่ ซาคาคุจิได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเพราะทุกครั้งที่ขึ้นจอหรือทุกนาทีที่ขึ้นจอคนดูจะรูสึกว่าเขามีอะไรติดค้างอยู่ข้างในชวนให้สงสัยอยู่ตลอดมา นั่นหมายความว่าในความพยายามไม่คิดถึงเขากลับคิดถึงอยู่ทุกนาทีเพราะความคิดถึงบางครั้งก็ยากจะลบเลือนยิ่งการอยู่ลำพังหรือยิ่งสมองว่างก็ยิ่งคิดถึง หนังจึงเดินหน้าไปด้วยพลังการแสดงของเคนทาโร่ ซาคาคุจิที่เอาตัวเองไปอยู่ในความงดงามและความเสนาะหูของธรรมชาติ กระนั้นหากจะมองข้ามองค์ประกอบรอบข้างนอกจากภาพและเพลงก็คงไม่ได้เพราะนักแสดงรอบกายอย่างมิคาโกะ อิชิคาวะก็เป็นบทสรุปส่งท้ายที่อธิบายความหมายของความคิดถึงได้อย่างลงลึก และต้องรวมถึงอาสึกะ ไซโตะและหนูน้อยอเมริ อิโซมูระที่กลายเป็นความน่าจดจำของหนังได้เลยอาจไม่ใช่ความบันเทิงสำหรับทุกคนเพราะหนังไปทางเรียบๆเรื่อยๆไม่มีจุดพลิกผันไม่มีจุดสูงสุด หรือเรียกได้ว่าอาจต้องทำความเข้าใจในตัวตนของหนังก่อนจึงจะสามารถเดินไปกับหนังที่เหมือนเรียบเรื่อยปานน้ำในบึงได้ เพราะเอาจริงหนังเดินไปเงียบๆเรียบๆให้ภาพมาดึงดูดสายตาให้การแสดงมาดึงดูดหัวใจแล้วให้ความสงสัยมาดึงดูดอารมณ์ ซึ่งจะว่าเป็นหนังเชิงลึกก็ไม่ใช่เพราะไม่ได้มีความหมายให้ตีความหรือคิดตามอย่างเข้มข้นปานนั้นนั่นคือหนังออกจะดูง่ายด้วยซ้ำเพราะสิ่งที่เห็นก็บอกความหมายในตัวเองแม้จะเป็นโดยนัยก็ตาม แต่ความที่หนังไม่มีจุดพลิกผันไม่มีดราม่ามาเร่งเร้าแม้ว่าจะมีช่องให้เล่นมากมายหรือจะว่าไปตอนสุดท้ายก็อาจเรียกไม่ได้ว่าเป็นไคลแม็กซ์ด้วยซ้ำ นั่นหมายความว่าหนังไม่ได้มาเพื่อเร้าอารมณ์ไม่บีบคั้นให้โศกเศร้าเคล้าน้ำตาทั้งที่โทนหนังออกมาแบบนั้น แต่สิ่งที่เป็นคือความผ่อนคลายกับความงดงามของภาพที่เห็นกับความรู้สึกคิดถึงใครสักคนเมื่อเวลาของหนังเดินไป แต่สิ่งเหล่านี้ที่เป็นก็คือความบันเทิงสำหรับคนบางกลุ่มที่อาจไม่บันเทิงกับคนบางกลุ่มที่ต้องการอะไรมากกว่าที่หนังเรื่องนี้มีให้ดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก จาก Instagram netflixjpภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 จาก X 映画『サイド バイ サイド 隣にいる人』Blu-ray&DVD発売決定! ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้ https://entertainment.trueid.net/detail/Y6Jl5GkxOxmy https://entertainment.trueid.net/detail/45vb3XWyGVZ5 https://entertainment.trueid.net/detail/OzP9wq6b7B02เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !