รีเซต

รีวิวหนัง "No One Will Save You" ดูแล้วอาการมันลุ้นวูบวาบ แบบอยากให้คะแนนเต็ม

รีวิวหนัง "No One Will Save You" ดูแล้วอาการมันลุ้นวูบวาบ แบบอยากให้คะแนนเต็ม
Jeaneration
22 กันยายน 2566 ( 18:00 )
7K

หากใครที่ชื่นชอบหนังแนวระทึกขวัญปนไซไฟแบบคาดเดาอะไรไม่ได้ น่าจะต้องเหลียวหันมาดูเรื่องนี้ "No One Will Save You" ที่จะมาทำหน้าที่กระตุกขวัญและบีบคั้นเร้าอารมณ์ให้กับทุกคนได้ดีตลอด 90 นาทีของหนังเรื่องนี้ ที่การันตีว่าอาจคาดเดาและคิดอะไรล่วงหน้ากับหนังเรื่องนี้ไปก่อน เพราะมันอาจจะไม่ใช่อย่างที่คุณคิดไว้

No One Will Save You เล่าเรื่องราวของ ไบรน์ อดัมส์ หญิงสาวที่พักอาศัยอยู่ในบ้านที่เธอคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก ๆ อย่างสันโดษ แต่สถานการณ์ของเธอต้องพลิกผันไปเพียงชั่วข้ามคืน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการบุกรุกบ้านของผู้มาเยือนที่ไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่ามันคือตัวอะไร รู้แค่เพียงมันตัวแปลกประหลาด และมิอาจรู้ถึงจุดมุ่งหมายการมาของมัน

นี่คือผลงานล่าสุดของ "ไบรอัน ดัฟฟิลด์" นักสร้างหนังดาวรุ่งที่น่าจับตามองอีกคนในยุคนี้ โดยนี่ถือว่าเป็นผลงานกำกับหนังยาวเรื่องที่ 2 ในอาชีพของเขา หลังจากที่เคยเดบิวต์จากหนังตลกสยองขวัญ Spontaneous มาเมื่อช่วงก่อนโควิด-19 โดยครั้งนี้เขายังคงรับหน้าที่กำกับและเขียนบทหนังเองอีกเช่นเคย

ไบรอัน ดัฟฟิลด์ เคยเป็นนักเขียนบทหนังมาก่อน เขาเคยเขียนโครงเรื่องให้กับหนังดัง ๆ อย่าง The Babysitter, Divergent: Insurgent และล่าสุดกับ Love and Monsters ที่ดูจากประสบการณ์ที่ผ่านมา เขาค่อนข้างช่ำชองกับงานเขียนหนังสยองขวัญ-ระทึกขวัญเป็นทุนเดิมอยู่ไม่น้อย แต่ครั้งนี้กลับมาในแนวสยองขวัญเช่นเคย แต่เพิ่มเติมด้วยความเป็นไซไฟลี้ลับ ซึ่งดูเหมือนว่าจะยังเข้ามือเขาได้เป็นอย่างดี

การเล่าเรื่องของ No One Will Save You ถือว่าวับไวกำลังดี เปิดเรื่องมาก็แทบจะไม่ต้องเสียเวลาปูเรื่องอะไรทั้งนั้น เริ่มมายังไม่ถึงสิบนาทีก็(กระตุกขวัญ)รู้เรื่องเลย กลิ่นอายของหนังก็อาจจะคล้าย ๆ กับเอาตัวรอดท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แบบ A Quiet Place หรือ Nope ที่พาคนดูเกาะติดชีวิตของตัวละครหลักไปเรื่อย ๆ เก็บข้อมูลและรายละเอียดแบบรู้เท่ากัน นับว่าเป็นกิมมิกในการเล่าเรื่องที่ชวนคนดูติดตามได้เป็นอย่างดี

No One Will Save You แทบจะไม่เสียเวลาปล่อยให้เยิ่นเย้อใด ๆ การเล่าเรื่องสไตล์ฉับ ๆ ปุบปับกับอารมณ์ตัวละครก็ถือว่าทำออกมาได้ดี การสร้างบรรยากาศในหนังก็นับว่าทำออกมาได้ดีเช่นเดียวกัน เป็นสิ่งที่ชวนคนดูเฝ้าติดตามดูสถานการณ์ต่อ ๆ ไปได้อย่างแบบเกาะจอ แม้ว่ามันจะมีกลิ่นอายความเป็นสูตรสำเร็จปะปนอยู่ แต่สูตรนี้ก็ค่อนข้างเวิร์กกับความหฤหรรษ์ที่หนังใส่เข้ามา

สิ่งหนึ่งที่ชอบในหนัง No One Will Save You ก็คงจะเป็นการใส่เต็มและจัดเต็มของหนัง หนังไม่มีการประนีประนอมอ้อมค้อมใด ๆ เพราะเหมือนพวกเขาทำการบ้านมาดีว่าคนดูอยากเห็นอะไรและดูอะไร สิ่งที่คุณอยากเห็นก็น่าจะได้เห็น ขณะที่องค์ประกอบศิลป์และองค์ประกอบภาพของหนังก็สร้างบรรยากาศออกมาชวนสยองดี แม้จะต้องเพ่งจออยู่บ้างเล็กน้อย เพราะบางฉากมันก็มืดไปสักหน่อย แต่ยังมีเพลงประกอบของ "โจเซฟ ทราปาเนเซ" มาช่วยบิวท์อารมณ์ได้ค่อนข้างดีตลอดทั้งเรื่อง

"แคทลิน เดเวอร์" ถือว่าแบกหนังทั้งเรื่องนี้เอาไว้ตัวเล็ก ๆ ของเธอ นับว่าเป็นหนังที่เธอต้องเล่นและแสดงกับตัวเองเกือบทั้งเรื่อง ไดอะล็อกและบทพูดสื่อสารกับตัวละครอื่น ๆ ก็แทบจะนับคำได้ ดังนั้นท่าทางภาษากายเป็นสิ่งที่เธอทำออกมาได้โดดเด่น ภายใต้ความซับซ้อนของคาแรกเตอร์นี้ ที่ถือว่าดีไซน์ออกมาได้ด้วยมิติเยอะแยะมากมายให้คนดูเฝ้าคนดูและไขคำตอบ

โดยนี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งผลงานที่อาจจะเป็นมาสเตอร์พีชให้กับแคทลินเลยก็ว่าได้ เพราะทุก ๆ องค์ประกอบเปิดช่องให้เธอได้ปล่อยพลังทางการแสดง ถึงว่ามันอาจจะเป็นหนังระทึกขวัญเ แต่ก็ยังมีมุมดรามาที่เธอได้มีโอกาสได้โชว์ศักยภาพทางการแสดงได้อย่างเต็มที่ด้วย ต้องบอกเลยว่า...เหมือนหนังเกิดมาเพื่อเธอจริง ๆ

No One Will Save You ถือว่าเป็นหนังที่มีความโดดเด่นในจังหวะการเล่าเรื่องและยังมีลูกเล่นที่เล่นกับคนดูได้อย่างเหนือความคาดหมาย สิ่งที่คนดูคิดว่าน่าจะใช่ กลับไม่ใช่ในท้ายที่สุด นับว่าเป็นหนังที่ให้ผลลัพธ์ได้บียอนด์กว่าที่คิด ทำออกมาได้สุดทาง ระทึกได้สุด กลัวได้สุด และหายใจได้ไม่ทั่วท้องตามตัวละครหลักสุด ๆ อีกด้วย

ดังนั้นโดยสรุปแล้ว No One Will Save You ถือว่าเป็นหนังไซไฟเขย่าขวัญที่ตอบโจทย์ในสิ่งที่คนดูอยากจะดูเป็นแน่แท้ ตลอด 90 นาทีของหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยอะไรที่คาดไม่ถึง อาการคล้ายกับนั่งเล่นเกมที่เดิมหมากไปตามตัวละครที่รับบท โดยที่ผู้เล่นไม่รู้เลยว่าจะพานพบกับอะไรข้างหน้า รู้แค่เพียงว่ามันสับสันและคาดเดาไม่ได้ และนั่นกลายเป็นเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ที่อย่างน้อย ๆ ทีมสร้างหนังก็ทำออกมาได้ถึงจุดที่น่าพอใจดี ถึงจะเสียดายเหลือเกิน...ที่อะไรแบบนี้มันควรได้จะมีประสบการณ์ดูในโรงหนังจริง ๆ นะ

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง: No One Will Save You

  • ประเภท: ไซไฟ / ระทึกขวัญ
  • ผู้กำกับ: ไบรอัน ดัฟฟิลด์
  • นำแสดงโดย: แคทลิน เดเวอร์
  • ความยาว: 93 นาที
  • กำหนดฉายในไทย: 22 กันยายน 2023 (ที่ Disney+ Hotstar)

Movie.TrueID METRIC: No One Will Save You

  • ภาพรวม
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰ (9/10)
  • การเล่าเรื่อง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰ (9/10)
  • การแสดง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰ (9/10)
  • เทคนิคงานสร้าง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10)
  • บทภาพยนตร์
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa