หนัง และซีรีส์ Coming of Age ถือว่าเป็นคอนเทนต์ที่ไม่ได้ใหม่มากนักสำหรับช่องสตรีมอย่าง Netflix ก็ว่าได้ เพราะที่ผ่านมาช่องสตรีมดังกล่าว ได้ผลิตคอนเทนต์ ยอดนิยมที่ว่าด้วยเรื่องราวเติบโตผ่านวัยของวัยรุ่นมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Stranger Things ,Sex Education หรือ The End of the F***king World สำหรับ I Am Not Okay With This ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์แนวเดียวกันนี้ แต่ความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้คือ มันเป็น Coming of Age ที่ผสมผสานเรื่องราวพลังจิตแบบ Carrie ของสตีเวน คิง สอดแทรกเอาไว้ด้วยซีรีส์จะเล่าเรื่องราวของ ซิดนี่ย์(โซเฟีย ลิลลิส) หญิงสาวที่อาศัยอยู่กับแม่ และน้องชาย หลังจากที่พ่อของเธอได้ฆ่าตัวตายในห้องใต้ดินของบ้าน ซิดนี่ย์ เป็นเด็กผู้หญิงธรรมดา ที่แสนจะธรรมดา เพราะเธอเป็นคนที่แสดงออกไม่เก่ง และมีเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวคือ ดีน่า(โซเฟีย ไบรอันท์) ซึ่งด้วยวัยที่เติบโตขึ้น วันหนึ่ง ดีน่าได้ไปคบหากับหนุ่มนักกีฬาสุดฮอตของโรงเรียน และในช่วงที่เธอรู้สึกโดดเดี่ยวนี้เอง ซิดนี่ย์ก็ได้พบกับ สแตนลี่ย์(ไวแอต โอเลฟ) เด็กหนุ่มที่อาศัยอยู่ข้างบ้านของเธอ ซึ่งเมื่อเธอได้ทำความรู้จัก สนิทสนมกับ สแตนลี่ย์นี่เอง ก็ทำให้เธอค่อย ๆ ได้เรียนรู้ถึงสิ่งที่เรียกว่าความรัก และมิตรภาพ ในขณะเดียวกันเธอก็พบว่าร่างกายของเธอเองนั้น มีสิ่งแปลกประหลาด สุดน่าสะพรึงซ่อนอยู่สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ เป็นผลงานการสร้างสรรค์ร่วมกันระหว่าง คริสตี้ ฮอลล์ มือเขียนบทซีรีส์หน้าใหม และโจนาธาน เอนต์วิสเทิล ผู้สร้างสรรค์ และกำกับจาก The End of the F***king World ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือชื่อเดียวกันของ ชาร์ล ฟอร์สแมน นอกจากนี้ยังได้ ชอว์น เลวี่ ผู้อำนวยการสร้างจาก Stranger Things มาร่วมงานอีกด้วย ทำให้การันตีได้เลยว่า ซีรีส์เรื่องนี้จะเปี่ยมไปด้วยความเป็นวัยรุ่น ผสมเรื่องราวแฟนตาซี ที่ชวนพิศวง อย่างแน่นอน ตัวซีรีส์ ยังเต็มไปด้วยเอกลักษณ์การกำกับของ เอนต์วิสเทิล ที่เน้นไปที่การถ่ายทอดอารมณ์นิ่ง ๆ ตลกร้าย และการสร้างสรรค์คาแรคเตอร์ของตัวละครที่โดดเด่นชัดเจน ซีรีส์จะดำเนินเรื่องราวทั้งหมดผ่านคำบรรยายของ ซิดนี่ย์ที่สอดแทรกมาเป็นระยะ ๆ ให้เหมือนกับว่าคนดูกำลังเข้ามาอ่านเรื่องราวในไดอารี่ของเธอ ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่ผู้สร้างเคยใช้ใน The End of the F***king World แต่สิ่งที่ทำให้ I Am Not Okay With This ค่อนข้างต่างจากซีรีส์เรื่องก่อนหน้าของผู้กำกับท่านนี้คือ การพูดถึงชีวิตวัยรุ่นในสังคมในโรงเรียน และเพื่อนฝูง ซึ่งใน I Am Not Okay With This ซีรีส์ได้พาเราไปสำรวจจิตใจของวัยรุ่นแบบที่ลึกซึ้งกว่าเดิม โดยเนื้อหาจะเล่าผ่านชีวิตของเด็กสาว ที่กำลังเติบโต ในขณะเดียวกันเธอก็ต้องต่อสู้กับการไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม และก้าวผ่านความเจ็บปวดของตัวเอง ได้อย่างละเอียดลออ ในขณะเดียวกันซีรีส์ก็ได้สะท้อนสังคมไฮสคูล ผ่านตัวละครแต่ละตัวออกมาได้อย่างสมจริงอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ว่าซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างมีความคล้ายกับ Carrie นิยายสยองขวัญของ สตีเวน คิง ที่ถูกสร้างเป็นหนังมาแล้วถึงสองครั้ง ที่ว่าด้วยเรื่องราวของแครี่ ไวท์เด็กสาวที่ถูกเพื่อน ๆ ในโรงเรียนรุมกลั่นแกล้ง จนกระทั่งหลังจากที่ประจำเดือนของ แครี่ มาในครั้งแรก ซึ่งสิ่งที่ตามมาก็คือพลังจิตสุดน่าสะพรึง ซึ่งใน I Am Not OK With This เป็นเสมือนการหยิบนำเรื่องความสามารถของเด็กสาวพลังจิต แบบใน Carrie มาถ่ายทอดในรูปแบบที่เบาสมอง และเพิ่มหัวจิตหัวใจเข้าไปมากกว่าเดิม แต่กระนั้น ซีรีส์ก็ยังไม่ทิ้งอารมณ์สยองขวัญ ระทึกขวัญ ที่สอดแทรกเอาไว้ตลอดทั้งเรื่อง พอหอมปากหอมคอ ทำให้ซีรีส์มีรสชาติที่หลากหลายกว่าการเป็นหนังวัยรุ่นทั่ว ๆ ไปแต่กระนั้น แม้ว่าหนังจะเต็มไปด้วยความบันเทิง ความสนุกตามแบบหนังวัยรุ่นที่หลายคนน่าจะประทับใจ แต่ I Am Not OK With This กลับแทบจะไม่ต่างจากคอนเทนท์เรื่องอื่น ๆ ของ Netflix ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ของแต่ละตัวที่พยายามออกมาคลุมเครือ ซับซ้อน การเล่นกับประเด็น LGBT ที่หลายคนน่าจะเดาทิศทางของเรื่องได้ไม่ยาก ทำให้ซีรีส์กลายเป็นความบันเทิงที่ค่อนข้างจำเจ และขาดความแปลกใหม่ ทั้ง ๆ ที่ตัวละครในเรื่อง น่าจะสามารถนำมาเล่นกับประเด็นที่หลากหลายได้มากกว่านี้อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่ซีรีส์เรื่องนี้ ลงเอยแบบเดียวกับคอนเทนต์มากมายบน Netflix คือการบริหารเวลาใน 1 ซีซั่นของเรื่องได้ไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร โดยซีรีส์มีความยาวเพียงแค่ 7 Ep. Ep. ละ 20 นาที แต่ทว่าเนื้อหาของซีรีส์นั้น กลับวนเวียนอยู่กับที่ และแทบไม่มีความคืบหน้าให้คนดูได้ลุ้นเท่าไหร่นัก ก่อนที่ท้ายที่สุดซีรีส์ก็ได้ฉวยโอกาสด้วยการตัดจบเรื่องราวในซีซั้น 1 โดยทิ้งปมใหญ่ ๆ เอาไว้ให้คนดูไปรอชมในซีซั่น 2 ซึ่งเป็นวิธีที่ค่ายสตรีมมิ่งนี้ทำกับคอนเทนต์หลาย ๆ เรื่องเพื่อสร้างความน่าสนใจและชวนติดตามของคอนเทนต์ภายในค่ายโดยรวม I Am Not Okay With This ถือว่าเป็นอีกซีรีส์จาก Netflix ที่ทำออกมาได้สนุก บันเทิง ตามมาตรฐานซีรีส์วัยรุ่น ที่หลาย ๆ คนน่าจะชื่นชอบ และอินไปกับความสัมพันธ์ต่าง ๆ ของตัวละคร ซีรีส์สามารถหยิบเอาเรื่องพลังจิต มาผสมผสานกับเรื่องราวการก้าวข้ามว้ย ออกมาได้ลงตัว เหมือนได้ดู Carrie ฉบับที่เบาสมอง และน่ารักสดใสมากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคอนเทนต์ของ Netflix ที่ไม่ถึงกับโดดเด่น แต่ก็ดีงามตามมาตรฐานอีกเรื่อง สามารถรับชม I Am Not Okay with This บน Netflix ผ่านทางกล่อง True-id ได้แล้ววันนี้ ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/title/80244781