รีเซต

“ต้อม รชนีกร” โอดเจอบูลลี่หนักสุด เหตุทำหน้าใหม่ พ้อโดนปลดพรีเซนเตอร์ สูญเงินล้าน

“ต้อม รชนีกร” โอดเจอบูลลี่หนักสุด เหตุทำหน้าใหม่ พ้อโดนปลดพรีเซนเตอร์ สูญเงินล้าน
ดาราเดลี่บันเทิง
17 มกราคม 2567 ( 22:50 )
94

“ต้อม รชนีกร” โอดเจอบูลลี่หนักสุด เหตุทำหน้าใหม่ พ้อโดนปลดพรีเซนเตอร์ สูญเงินล้าน

         ก่อนหน้านี้ต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก นักแสดงมากความสามารถ “ต้อม รชนีกร พันธุ์มณี” หลังตัดสินใจขึ้นเขียงศัลยกรรมหน้าใหม่ในวัย 52 ปี แต่กลับถูกปล่อยรูปตอนหน้ายังไม่เข้าที่ออกมาก่อน จนโดนโซเชียลบูลลี่ทำจิตตก ถึงขั้นร้องไห้เสียใจหนัก

       ล่าสุดนักแสดงสาวได้ออกมาอัปเดตความสวยให้ดูกัน ว่าตอนนี้ก็ยังไม่เข้าที่ดี “คิดว่าอีกนิดหนึ่งเพราะยังบวมอยู่ ช่วงตา ช่วงโหนกแก้ม มันยังไม่เข้าที่ เพิ่งออกจากห้องผ่าตัด มันเข้าที่ไม่ได้หรอก เราทำใจอยู่แล้ว ว่าการทำศัลยกรรมมันต้องรอ 3-6 เดือน ทุกอย่างมันต้องรอเวลา เราก็ไม่ได้เครียดกับตรงนั้น รู้อยู่แล้วว่าศัลยกรรมมันต้องบวม แต่ทุกคนมันต้องมีไทม์มิ่งของตัวเอง

       โดนยกเลิกพรีเซนเตอร์กลางอากาศ ทำสูญเงินก้อนใหญ่ เสียโอกาสในชีวิต ตอนแรกคือยังไม่ได้เครียด ยังไม่ได้เห็น อาทิตย์แรกๆ ยังตาบอดอยู่ในห้อง ยังไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เริ่มมาเครียดตรงที่ว่าเรามีงานที่รอรับอยู่แล้ว เป็นงานพรีเซนเตอร์ เขาบอกว่ามันมีรูปแบบนี้ออกไป มันเสียภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์เขา เขาก็ยกเลิกกลางอากาศ สูญเงินไปก้อนใหญ่อยู่ อย่างที่รู้ว่าพรีเซนเตอร์ถ้าขึ้นบิลบอร์ด มันไม่ได้ราคาหลักหมื่นหลักแสน เพราะฉะนั้นการที่ไม่ได้บอกความจริง ว่ามันจะเป็นยังไง มันค่อนข้างกระทบกับเรา ถ้าบอกเราก่อนว่ามันจะเป็นอย่างนี้ เราก็จะไม่เสียโอกาสใดๆ ในชีวิต ก็ได้อธิบาย แต่เขาไม่ฟัง ถามว่าถามเขาไหม ว่าทำไมปล่อยรูปเร็วจัง… ก็ไม่รู้ ก็ใครๆ เขาก็โปรโมตแบบนี้กัน แต่ใครๆ ในที่นี้คือไม่มีดารานะ คือคนธรรมดา แต่เป็นอินฟลูฯ

     ความสวยแลกมากับการสูญเสียเงินล้าน คำทักเปลี่ยนจนเสียเซลฟ์ เมื่อก่อนเวลาเราไปไหนก็จะโอ้ย คิดถึงจังเลย อยากถ่ายรูปด้วย สวยจังเลย แต่ตอนนี้หน้าใหม่โอเคแล้ว มันคือคำปลอบใจ แต่เราไม่ต้อง การแบบนั้น แล้วแฟนคลับเราก็ไม่ต้องการที่จะเห็นเราเป็นแบบนั้น ถามย้อนกลับไปจะตัดสินใจทำอยู่ไหม เอาจริงๆ ก่อนหน้านั้นไม่ได้คิดที่จะทำ ตื๊อนานมาก จนทำก็ได้ จริงๆ แล้วถ้าเรากลับมาสู่จอเหมือนเดิม แฟนคลับเราก็ยังตามแหละ ไม่ว่าเป็นหน้าไหนเขาก็ตามอยู่แล้ว เพราะเขาชอบดูละครเรา อย่างเวลาไปข้างนอก เขารู้อยู่ว่าเจอรชนีกรแหละ แต่คำทักทายมันเปลี่ยนไป เลยทำให้เรามีความรู้สึกว่า เฮ้ย การทักทายแบบเดิมๆ มันดีกว่า คือถ้ามีคนมาถามว่าหน้าโอเคแล้วนะ ไม่แก่แล้ว คุณจะโอเคไหม มันไม่โอเค ศัลยกรรมครั้งแรก ที่โดนวิจารณ์หนักขนาดนี้ มันเหมือนเป็นอะไรที่แบบ บางคนก็เอามาล้อ ซึ่งก็แล้วแต่ ก็เข้าใจในยุคสมัยแหละ แต่ก็ไม่มีใครเขาเคยทำกัน

        แฮปปี้คนมองว่าหน้าเด็กลง แฮปปี้แต่ถามว่าชินกับหน้าใหม่หรือยัง ก็ยังไม่ชิน กับการที่เราจะต้องแต่งงานทำผม แต่งตัวใหม่ แต่เดี๋ยวสักพักมันก็จะปรับตัวได้เอง คนข้างกายนางก็คงพยายามชิน ไม่รู้ปลอบใจหรือเปล่า ทั้งลูกทั้งแฟนเลย ตื่นมาตอนเช้าก็ อุ้ย ใครเนี่ย ก็ไม่รู้ว่าใครเนี่ยของเขาคือสวยหรือไม่สวย แต่แฟนเราเขาไม่เคยห้าม บอกว่าโอเค อะไรที่ทำแล้วสบายใจก็ทำ กลัวทุกครั้งที่ขึ้นเขียงกลัวทุกครั้งที่ทำศัลยกรรม การดมยาคือคิดนะว่าจะตื่นไหม ยังมีสองหน่อต้องดูแลอยู่ นางกำลังจะเป็นสาวด้วย ส่วนอีกคนก็ยังไปไม่ถึงฝั่งเลย”