รีวิวหนัง “a beautiful day in the neighborhood” เรื่องเล่าวันฟ้าสวย ก่อนที่เราจะไปส่วนเนื้อหาของหนังกันผมต้องขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมก่อนนะครับว่าหนังเรื่องนี้ถูกสร้างมาจากเรื่องจริง โดยตัวละครในเรื่องก็มีตัวตนจริงอยู่บนโลกใบนี้นะครับ ผมอยากจะให้เพื่อน ๆ ได้รับชมตัวหนังเต็มเพราะหนังเรื่องนี้ทำให้เรานึกได้ในบางสิ่งที่ในขณะนี้เราลืมมันไป การมองโลกในแง่ดี การจัดการกับอารมณ์ความรู้สึก การรู้จักให้อภัย เชื่อใจและช่วยเหลือเกื้อกูลกัน นอกจากนี้หนังเรื่องนี้ยังสะท้อนหลายแง่มุมเช่น ไม่ใช่ว่าผู้ใหญ่ก็ทำทุก ๆ สิ่งถูกต้องเสมอ ผมเชื่อว่าถ้าเพื่อน ๆ ได้รับชมหนังเรื่องนี้เพื่อน ๆ จะต้องรู้สึกว่า “เราเกือบลืมไปความรู้สึกนี้แล้ว” เหมือนผมแน่นอนครับเฟร็ด โรเจอร์สทอม แฮงส์ ผู้รับบทเป็น เฟร็ด โรเจอร์สแมตทิว รายส์ ผู้รับบทเป็น ลอยด์โกเวล ส่วนเนื้อหาของหนัง a beautiful day in the neighborhood เป็นหนังที่ถูกสร้างจากความประทับของลอยด์(รับบทโดยแมทธิว รีส) ชายอมทุกข์ผู้มีทัศนคติต่อโลกใบนี้ค่อนข้างลบตรงไปและตรงมาที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้ประสบพบเจอกับเฟร็ด โรเจอร์ส(รับบทโดยทอม แฮงส์) ชายเเห่งรอยยิ้มผู้ที่มีทัศนคติต่อโลกในแง่บวกและมีแนวคิดว่าโลกใบนี้นั้นดำรงอยู่ได้ด้วยการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ส่วนตัวผมรู้สึกว่าลอยด์เป็นตัวละครที่สื่อถึงอารมณ์ต่าง ๆ ของเขาออกมาโดยตรง หรือเรียกได้ว่าเป็นคนซื่อ ๆ ได้เลยก็ว่าได้ครับ คิดอะไรก็แสดงออกอย่างนั้น โกรธ ดีใจ เสียใจ ก็เปิดเผยเหมือนกับเด็ก ซึ่งมันแตกต่างกับโรเจอร์สอย่างสิ้นเชิงเลย เพราะโรเจอร์สนั้นดูเป็นคนที่นุ่มลึกเป็นคนที่มีอะไรในใจหลายอย่างมากแต่เค้าสามารถควบคุมความรู้สึกต่าง ๆ และปล่อยออกมาให้มันพอเหมาะเรียกได้ว่าเขาคือคนที่อยู่กับตัวเองและเข้าใจตัวเองมากพอที่จะควบคุมและอยู่กับมันได้อย่างมีความสุข เรียกได้ว่าเขานี่แหละคือคนที่สามารถเรียกได้อย่างเต็มปากว่าผู้ใหญ่ ในตัวหนังมีหลายช่วงเลยครับที่ทำให้เรารู้สึกว่า “อยากให้พ่อแม่เราเป็นแบบโรเจอร์ส” เพราะตัวละครตัวนี้ดูเป็นคนที่เข้าใจโลกและเข้าใจจิตใจคนทุกคนจริง ๆ ผมจะขอยกตัวอย่างสักนิดสักหน่อยแต่ไม่มากไปเพื่อให้ไม่เสียอรรถรสในการชมนะครับ มีอยู่ฉากหนึ่งการถ่ายทำรายการของโรเจอร์ในฉากนั้นเขาต้องกางเต็นท์ และมันเหมือนดูจะง่ายนะครับแต่มันไม่ได้ง่ายเหมือนที่คิดไว้ เต็นท์ที่เขากางนั้นมันช่างกางยากเสียเหลือเกินจนทีมงานถ่ายทำได้เอ่ยปากถามเลยว่าต้องการให้เตรียมไว้ในลักษณะพร้อมที่จะกางได้ง่ายกว่านี้ไหม ถ้าเป็นคนทั่วไปก็คงจะตอบตกลงครับ เพราะมันดูจะกางยากจริง ๆ แต่โรเจอร์สเลือกที่จะปฏิเสธและให้เหตุผลว่า “มันจะทำให้เด็ก ๆ รู้ว่าผู้ใหญ่ก็ไม่ได้ทำอะไรสำเร็จไปหมดทุกอย่าง” ฉากนี้เป็นฉากที่ทำให้ผมเคารพและหลงรักในตัวโรเจอร์สมากจริง ๆ ครับ มันทำให้รู้เลยว่าชายคนนี้เข้าใจและใส่ใจจิตใจคนอื่น ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาจึงเป็นบุคคลที่ภรรยาของลอยด์นับถือ มันยังมีอีกหลายฉากประทับใจนะครับ แต่ผมจะขอเล่าเป็นน้ำจิ้มอีกสักฉากหนึ่งนะครับ ในตอนท้ายของเรื่องนั้นเราจะได้เห็นการเล่นเปียโนของโรเจอร์ส ซึ่งเพื่อน ๆ จะเห็นว่าเขาได้ทำการกดลงไปเหมือนการบ่งบอกถึงความไม่สบายใจของเขา มันทำให้เราเห็นได้ว่าแม้ชายคนนี้จะดูเหมือนพ่อพระหรือดีไปหมดจนเหมือนพระเจ้ามาโปรดแต่เขาก็ยังมอารมณ์ความรู้สึกกับคนทั่วไป ที่สำคัญคือเขาสามารถระงับมันไว้ให้อยู่ข้างใน ไม่ปล่อยมันออกมาทำร้ายคนอื่น เพราะเราคงเห็นตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วว่าการควบคุมตัวเองไม่ได้เหมือนกับลอยด์นั้นผลเสียมันย่อมจบด้วยความรุนแรง ส่วนความสำเร็จของหนัง ถึงแม้ตัวหนังนั้นจะไม่ได้รับรางวัลออสการ์ในปี 2020 แต่นั่นก็ไม่ใช่ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ติดชื่อในเวทีใหญ่แบบนี้เลย เพราะความสามารถของทอม แฮงส์ ผู้รับบทเฟร็ด โรเจอร์ส ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม แต่ถึงแม้เขาจะไม่ได้ชนะเลิศ หนังเรื่องนี้ก็ได้รับรางวัลชนะเลิศจาก Movieguide Awards สาขา Best Movie for Mature Audiencesหรือภาพยนต์ที่ดีที่สุดสำรับผู้ใหญ่อีกด้วย ผมว่ามันก็เพียงพอแล้วกับที่เพื่อน ๆ จะนำหนังเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในรายชื่อหนังที่ควรจะดูนะครับ เพราะโดยตัวหนังเองนั้นได้รับคะแนนจากเว็ป IMDb ไปถึง 7.3/10 คะแนน และยังทำรายได้ไปถึง 67.8ล้านเหรียญ อีกด้วยสุดท้ายนี้ผมจะขอปิดท้ายไว้ด้วยหนึ่งความจริงของมนุษย์ที่จะทำให้เพื่อน ๆ จะพบเจอมันได้จากหนังเรื่องนี้นะครับสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องการ นั่นคือใครสักคนที่เข้าใจ และยอมรับ(ฟัง)ในสิ่งที่เขาเป็น ขอขอบคุณรูปภาพจาก IMDbรูปประกอบที่ 1 / รูปภาพประกอบที่ 2 / รูปภาพประกอบที่ 3 / รูปภาพประกอบที่ 4 / รูปภาพประกอบที่ 5 / รูปภาพประกอบที่ 6