เกิดอะไรขึ้น! “ปุ้มปุ้ย” โพสต์ขอขอบคุณคุณครูชาวเน็ตทุกท่านนะคะ สอนเก่งมาก
เกิดอะไรขึ้น! “ปุ้มปุ้ย” โพสต์ขอขอบคุณคุณครูชาวเน็ตทุกท่านนะคะ สอนเก่งมาก
เพิ่งจะผ่านความสูญเสียในครอบครัวไปหมาดๆ สำหรับ “ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา” หลังได้สูญเสียคุณพ่อ “วิชัย อรุณวัฒนชัย” จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ซึ่งเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมาทางครอบครัวได้ทำพิธีฌาปณกิจ
โดย “ปุ้มปุ้ย” ได้กล่าวคำอาลัยถึงคุณพ่อทั้งน้ำตาประมาณว่า “ถึงปาป๊าผู้ชายที่ลูกเคยเกลียด ไม่รู้ว่าเกลียดตั้งแต่ตอนไหน แต่ที่รู้ๆ ผู้ชายคนนี้คือฝันร้ายที่ปุ้ยไม่อยากเจอ เกลียดที่พ่อรู้ทัน เกลียดที่พ่อชอบตี เกลียดที่พ่อเข้มงวด เกลียดที่พ่อไม่ให้ดูละครการ์ตูนเหมือนบ้านอื่น เกลียดกฎที่ต้องกลับบ้านก่อนสี่โมงทุกวัน เกลียดพ่อคำนี้ที่ปุ้ยมักจะบอกตัวเองเสมอตั้งแต่จำความได้ จนกระทั่งวันนึงเราเติบโตขึ้นและได้เจอกับบททดสอบที่แสนเจ็บปวดในชีวิต ทำให้ลูกคนนี้รู้ว่าทุกกระทำของปะป๊าในวันนั้นมีนัยยะและเป็นจริงมาตลอด”
แต่งานนี้ดูเหมือนว่าจะมีชาวเน็ตบางคนวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ ล่าสุด ปุ้มปุ้ย ได้ลุกขึ้นมาโพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า “ขอขอบคุณคุณครูชาวเน็ตทุกท่านนะคะ สอนเก่งมาก” แล้วเข้ามาคอมเมนต์ต่อจากใต้โพสต์ดังกล่าวว่า “วันครูไม่รู้จะไหว้ใครก่อนดี”
ส่วนผู้จัดการส่วนตัวของ “ปุ้มปุ้ย” ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ชี้แจงและอธิบายถึงประเด็นนี้แบบยาวเหยียดว่า...
“กับดราม่าหรือข่าวที่ผ่านๆมา อันนี้พอจะยอมรับแล้วเข้าใจได้นะคะ แต่ครั้งนี้ขอออกมาพูดนิดนึงในฐานะผู้จัดการ ที่ใกล้ชิดและเห็นการปฏิบัติและการดูแลเอาใจใส่ต่อคนในครอบครัวมาโดยตลอด
ประเด็นแรกคือ ทุกคนมีการแสดงออกไม่เหมือนกัน แต่เชื่อว่าทุกคนต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้คนที่เรารักและคนที่รักเรา ครอบครัวอาจจะไม่ใช่ Safe Zone สำหรับทุกคน แต่ในเมื่อครั้งสุดท้ายมาถึง เรื่องราวและความทรงจำที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นสุขหรือทุกข์ล้วนแต่เป็นเรื่องทีน่ายินดี และควรค่าแก่จดจำทั้งสิ้น เพราะเราต่างก็อยากจดจำภาพของคนที่จากไปแล้วในแบบที่สวยงามมากกว่า
สิ่งที่พูดหรือกล่าวออกไป ล้วนแต่มาจากความรู้สึก เพียงแต่ถูกเรียบเรียงขึ้นมาเพื่อให้สวยงามเหมาะสมสำหรับกาละเทศะ (สำหรับประเด็นที่อ่านสคริปต์ถ้าใครที่ใส่ใจในขั้นตอนของงานจะรู้ดีว่า การอ่านประวัติหรือความเป็นมาของบุคคล จะต้องถูกเรียบเรียงขึ้น เพราะไม่มีใครสามารถจำรายละเอียดได้มากขนาดนั่นค่ะ)
สุดท้ายการที่เราสูญเสียคนที่เรารักในชีวิตไป ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ และสมควรเห็นอกเห็นใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นช่วงที่สภาพจิตใจของเขากำลังอ่อนแอ และต้องการกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป การเคารพคนอื่น แค่ลองนึกย้อนไปนั่งอยู่ในสถานะของ
“ผู้ถูกกระทำ” แล้วก็จะเข้าใจค่ะว่า “ความตาย หรือการสูญเสีย” ไม่ใช่เรื่องตลก
ขอบคุณคุณครูชาวเน็ต”