อนิเมชั่นฟอร์มยักษ์จากจีน ที่ใช้เวลาในการสร้างถึง 5 ปี แถมยังเป็นผลงานเรื่องแรกของจีน ที่ลงฉายบนจอ IMAX 3D ในไทย แต่สิ่งที่ให้ "นาจา" ดูน่าสนใจ และโดดเด่นกว่าหนังจีนเรื่องอื่นๆ ในปีนี้ คือการที่หนังเป็นการตีความใหม่ ที่อิงมาจากตำนานเทพเจ้าจีน ที่มีชื่อเดียวกับชื่อเรื่อง แต่เป็นการใส่ประเด็นใหม่ ที่ชวนน่าติดตาม และน่าจะถูกใจคนรุ่นใหม่ อย่างเรื่อง "การฉีกกฏเกณฑ์ของโชคชะตา เพื่อกำหนดชีวิตของตัวเอง""นาจา" จะเล่าเรื่องราวของ ไข่มุกพลังวัตร ที่มีพลังมหาศาล ที่ยากเกินจะต่อกร จนกระทั่งเทพเจ้าสูงสุดของสวรรค์ ได้แบ่งไข่มุกพลัง ออกเป็น ไข่มุกสวรรค์ และโอสถปีศาจ ที่ได้แบ่งเป็นพลังด้านดี และพลังด้านความชั่วร้าย อย่างชัดเจน โดยเทพเจ้าสูงสุด ได้มอบหน้าที่ให้กับเทพไท่อี้ ให้นำไข่มุกสวรรค์ ไปจุติอยู่ในร่างของเด็กที่กำลังจะเกิดในครอบครับของแม่ทัพผู้หนึ่ง โดยให้มีชื่อว่า "นาจา" แต่ทว่าไข่มุกสวรรค์ได้ถูกพญามังกร สลับกับ โอสถปีศาจ ทำให้เด็กชายที่เกิดมา ได้พลังโอสถปีศาจ มาแทน ซึ่งนั้นทำให้ "นาจา" ที่ถูกลิขิตให้เป็นมารร้าย ทำลายโลกในอนาคต กลายเป็นที่หวาดกลัวของผู้คนในหมู่บ้าน เด็กน้อยจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ตัวเอง ว่าเขานั้นไม่ใช่ปีศาจ และปราบปีศาจร้ายที่จะมาบุกเมืองให้ได้ การต่อสู้ของเด็กน้อย ต่อชะตาชีวิตของเขาก็เริ่มต้นขึ้นหากให้พูดถึงภาพรวมของหนัง "นาจา" เหมือนว่าจะเป็นงานที่ได้รับอิทธิพลมาจาก มังงะญี่ปุ่นค่อนข้างสูงไม่น้อย ด้วยการวางพลอต และเล่นประเด็นที่ว่าด้วยการพิสูจน์ตัวเองของเด็กชาย ที่โดนผู้คนเกลียด ซึ่งทำให้เรานึกถึงคาแรคเตอร์ของ อุซึมากิ นารุโตะจากการ์ตูน Naruto ที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองจากชาวหมู่บ้านโคโนฮะ และถูกลิขิตให้เป็นปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง อีกด้วย นอกจากนี้หนังยังมีฉากแอคชั่น และการต่อสู้แบบปล่อยพลัง ที่ชวนให้นึกถึง Dragon Ball หรือ One Piece ไม่น้อย แต่ถึงกระนั้น "นาจา" ก็ไม่ถือว่าเป็นงานที่ "ก้อป" ตัวเนื้อหาจากมังงะดังในญี่ปุ่นทั้งหมดซะทีเดียว แม้ว่าหนังจะเต็มไปด้วยส่วนที่ดูแล้วคล้ายครึง แต่หนังก็หยิบสิ่งต่างๆ เหล่านั้น มาใส่ในความเป็นจีน ในหนังจนกลายเป็นเนื้อหาใหม่ ที่ลงตัวไปอีกแบบ เราสามารถสัมผัสได้ถึงความสร้างสรรค์ และพลังในการเล่าเรื่องของ "เจี่ยวจือ" ผู้กำกับที่ประเดิมผลงานฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ เป็นเรื่องแรก ไม่ว่าจะเป็นการตีความตำนานเทพ "นาจา" ในรูปแบบของเขาเอง พร้อมทั้งการเล่าเรื่องที่เปี่ยมไปด้วยพลังของความคิดสร้างสรรค์ องก์แรกหนังมีการเซตอัพเนื้อหาที่กระชับ รวดเร็ว เพื่อให้คนดูเข้าใจที่มาที่ไปของตัวละคร และเงื่อนไขต่างๆ ที่ตัวละครจะต้องพบเจอ ก่อนที่องก์สอง จะเป็นการพูดถึงตัวละคร "นาจา" ที่นอกจากจะเป็นเด็กชายต้องสาปแล้ว เขายังมีพลังมหาศาลซ่อนอยู่ ซึ่งเขาจะต้องฝึกฝนพลัง พร้อมทั้งพิสูจน์ตัวเอง และองก์สามคือบทสรุปของเรื่องราว ที่จัดเต็มด้วยฉากแอคชั่นที่ยาวนานเกือบครึ่งชั่วโมง หนังออกแบบตัวละครออกมาได้น่าสนใจ และมีความโดดเด่นเฉพาะของแต่ละตัวอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น "นาจา" ที่เต็มไปด้วยความซุกซน ความเลือดร้อน แต่ก็แอบซ่อนความเศร้าในแบบของเด็กอยู่ ส่วนตัวละครที่น่าจะเรียกเสียงฮาได้ดีคือ เทพไท่อี้ ที่นอกจากจะมาพร้อมหุ่นจ้ำม้ำ แล้ว ความเกรียนยากที่จะเชื่อว่าเป็นเทพ ก็ทำให้คาแรคเตอร์นี้ โดดเด่น น่าจดจำมากขึ้นไม่น้อย นอกจากนี้บรรดาตัวละครสมทบอื่นๆ ก็ยังมีคาแรคเตอร์ ที่ชัดเจนต่างกันไป ทำให้เมื่อดูหนังจนจบ เราจะหลงรัก และขื่นชอบหลายตัวละครในเรืองนี้ ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอนส่วนที่เป็นตัวชูสำคัญของ "นาจา" คงไม่พ้นฉากแอคชั่น และความตลกของหนัง ซึ่งในด้านฉากแอคชั่น หนังสามารถทำออกมาได้น่าตื่นตาตื่นใจ จัดเต็มจนสมกับคำว่าหนังฟอร์มยักษ์จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้ชมบนจอ IMAX ที่ทำให้ฉาก 3มิติ ต่างๆ ของหนัง ทำงานได้อย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น ราวกับว่าเราได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ของตัวละคร ในขณะที่ด้านความเป็นคอเมดี้ หนังก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม มุกส่วนใหญ่ของหนังเรื่องนี้ดูไม่เด็กน้อยเกินไป หลายมุกสามารถเรียกเสียงหัวเราะได้ทั้งจากเด็ก และผู้ใหญ่ ได้ตลอดทั้งเรื่องข้อเสียของหนังเรื่องนี้ คือความเป็นสูตรสำเร็จของหนัง โดยเฉพาะอุดมการณ์ของตัวร้าย ที่หนังยังทำออกมาได้ขาดเสน่ห์ และแรงจูงใจ จนทำให้เราไม่ค่อยอิน กับเนื้อหาส่วนนี้เท่าไหร่นัก นอกจากนี้บางช่วง หนังยังเล่าเรื่องกระชับ รวดเร็วจนเกินไป จนทำให้เหตุ และผลการกระทำบางส่วนของตัวละครดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าไม่ทำให้หนังสูญเสียประเด็นที่ต้องการจะเล่าแต่อย่างใด"นาจา" ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานของคนจีน ที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง หนังเต็มไปด้วยคำว่าเกินคาด ไม่ว่าจะเป็น ดราม่าที่ทำได้ดีเกินคาด แอคชั่นที่ยิ่งใหญ่เกินคาด และตลกเกินคาด จนทำให้เราสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า งานอนิเมชั่นของจีน นั้น ไปไกลเทียบเท่า Hollywood ได้แล้วจริงๆ ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://www.imdb.com/สามารถเข้าไปติดตามอ่านรีวิวหนัง และข่าวสารวงการหนังเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/IWatchmoviesalot/