ลูก ๆ ของ คริสโตเฟอร์ รีฟส์ ไม่รู้เรื่องการปรากฏตัวของ Superman ใน "The Flash"
ก่อนหน้านี้ นิโคลัส เคจ (Nicolas Cage) หนึ่งใน Cameo ที่ปรากฏใน ‘The Flash’ (2023) หนังซูเปอร์ฮีโรของ DC เคยออกมาเปิดเผยว่า ตอนถ่ายทำซีนที่ The Flash ใช้ Speed Force ไปพบกับฮีโรในอดีต ตัวเขาเองแทบไม่ได้รู้เรื่องราวของตัวเองเลยด้วยซ้ำ กว่าจะได้เห็นเขาปล่อยแสงต่อสู้กับแมงมุมยักษ์ก็คือตอนฉายในโรงแล้ว แถมมาในรูปลักษณ์ CGI งานหยาบด้วย ส่วนผู้กำกับเจ้าของวิสัยทัศน์หนัง ‘Superman Lives’ หรือซูเปอร์แมนฉบับ นิก เคจ ที่ไม่เกิดขึ้นจริงอย่าง ทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) ก็ออกมาแสดงความไม่พอใจที่ DC และ Warner Bros. Pictures ถือวิสาสะเอาคาแรกเตอร์ที่อยู่ในกรุเอากลับมาใช้แบบพละการ
และดูเหมือนว่าจะมีการใช้แบบ ‘พละการ’ เกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้อีกแล้ว ล่าสุด ในเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ (2024 Sundance Film Festival) ประจำปีนี้ ได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์สารคดี ‘Super/Man: The Christopher Reeve Story’ ที่เล่าเรื่องของ คริสโตเฟอร์ รีฟส์ (Christopher Reeves) นักแสดงเจ้าของบทบาทซูเปอร์แมนใน ‘Superman’ (1978) ที่แจ้งเกิดให้เขาเป็นที่รู้จักและติดภาพซูเปอร์แมนไปตลอดกาล ส่วนนักแสดงที่ปรากฏตัวในร่างของซูเปอร์เกิร์ล (Supergirl) ก็คือ เฮเลน สเลเตอร์ (Helen Slater) จากหนัง ‘Supergirl’ (1984) นั่นเอง
ในการสัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Variety วิล (Will), แมตธิว (Matthew), และ อเล็กซานดรา (Alexandra) ลูกชายและลูกสาวของนักแสดงผู้ล่วงลับ ได้รับเชิญมายังเทศกาล เพื่อร่วมชมภาพยนตร์สารคดีที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อของเขาด้วย ซึ่งอเล็กซานดราได้พูดถึงเกี่ยวกับสารคดีเรื่องนี้ “มันเป็นเหมือนกับของขวัญที่สวยงามค่ะ เพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นชีวิตพ่อและแม่ของคุณถูกบอกเล่าไว้อย่างครบถ้วน การได้เห็นชีวิตทั้งด้านที่ดีและซับซ้อนบนหน้าจอ ซึ่งเราอยากให้ผู้คนได้เห็นจังหวะการขึ้น ๆ ลง ๆ เหล่านั้น ทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านและภายนอกบ้าน”
“เราโชคดีมาก เราไม่เพียงแต่มีหนังของเขาให้ได้ดูเท่านั้น แต่ยังมีคอลเล็กชันโฮมวิดีโอจากที่บ้านให้ได้ดูด้วย การได้เห็นสิ่งที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ได้เปลี่ยนการรับรู้ของผมเกี่ยวกับเขา แต่มันทำให้ทุกอย่างดีขึ้น รวมทั้งสัมภาษณ์ที่หายากของคนออสเตรเลียที่ทำขึ้นในปี 1977 ซึ่งถูกอัปโหลดใน YouTube และผมก็ไม่รู้ว่ามันมีอยู่ มันเจ๋งมากที่ได้เห็นและค้นพบเนื้อหามากมายเกินกว่าที่เราเคยรู้” แมตธิวกล่าวเสริม
นอกจากนี้ ลูก ๆ ทั้ง 3 ของเขายังถูกถามเกี่ยวกับการปรากฏตัวของพ่อ ที่มาในรูปลักษณ์ CGI ที่ปรากฏอยู่ในหนัง ‘The Flash’ ด้วย ซึ่งทั้ง 3 คนพูดตรงกันว่า พวกเขายังไม่มีใครเคยดู ‘The Flash’ เลยสักครั้ง และพวกเขาเองก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับการปรากฏตัวของรีฟส์ในหนังด้วย
คริสโตเฟอร์ รีฟส์ เป็นนักแสดงหนุ่มที่เริ่มต้นจากการแสดงละครเวที ก่อนจะได้เข้ามาเป็นพระเอกละครโทรทัศน์ และก้าวเข้ามาสู่จอเงินด้วยการรับบทบาทสมทบเล็ก ๆ จนกระทั่งรีฟส์ ในวัย 24 ปีได้รับการคัดเลือกจากนักแสดงกว่า 200 คนเพื่อรับบทเป็นซูเปอร์แมน เนื่องจากได้เปรียบด้านความสูงกว่า 193 เซนติเมตร และมีรูปร่างกำยำล่ำสันเพราะชอบเล่นกีฬา โดยเฉพาะกีฬาแข่งม้าที่เขาชื่นชอบและมีทักษะ ทำให้เขาโด่งดังและแจ้งเกิดจากบทบาทนี้อย่างรวดเร็วและได้ปรากฏตัวในบทบาท คาล-เอล (Kal-El) หรือ คลาร์ก เคนต์ (Clark Kent) ต่ออีก 3 ภาค ในหนัง ‘Superman II’ (1980), ‘Superman III’ (1983) และ ‘Superman IV: The Quest for Peace’ (1987)
แต่สุดท้ายเขาก็ต้องพบกับชะตากรรมน่าเศร้า ในปี 1995 ระหว่างการแข่งขันบังคับม้าข้ามเครื่องกีดขวาง รีฟส์ตกจากม้าอย่างกะทันหัน ทำให้เส้นประสาทที่เชื่อมกับกระดูกสันหลังฉีกขาด และกลายเป็นอัมพาตช่วงลำตัว ต้องนั่งอยู่บนวีลแชร์ และใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา รีฟส์ค่อย ๆ รักษาตัวจนสามารถกลับไปรับงานแสดงเป็นคนพิการนั่งรถวีลแชร์ในหนังทริลเลอร์ ‘Rear Window’ (1998) ฉบับรีเมก ส่วนหนังเรื่องสุดท้ายที่รีฟส์ร่วมแสดงก็คือ หนังไซไฟเขย่าขวัญ ‘Village of the Damned’ (1995) จนกระทั่งเสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเมื่อปี 2005 ในวัย 52 ปี
Variety ยังได้ถามคำถามน่าสนใจกับทายาทของนักแสดงในตำนานว่า บทบาทใดของรีฟส์หลังจากยุค Superman ที่ Underrated หรือบทบาทของเขาที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงมากที่สุด วิล ลูกชายคนเล็กให้คำตอบที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะมันคือหนังดราม่าเรื่อง ‘The Remains of the Day’ (1993) ที่ได้รับคำชม แต่ไม่ค่อยดัง
“ไม่กี่ปีก่อน บ้านเกิดของเราที่เมืองเบดฟอร์ด นิวยอร์ก โรงภาพยนตร์ท้องถิ่นที่ต้องการจะรีแบรนด์ คนที่รับผิดชอบติดต่อมาหาผมและบอกว่า พวกเขาอยากให้ผมจัดฉายหนังที่พ่อเป็นคนเลือก ผมเลยบอกว่า ‘แน่นอนว่าต้องไม่ใช่ซูเปอร์แมน’ ผมอยากฉาย ‘The Remains of the Day’ ครับ มันเป็นบทบาทเล็ก ๆ แต่พ่อภูมิใจกับบทบาทของเขาในหนังเรื่องนี้มาก ๆ “
“เขาได้รับบทบาทสำคัญในหนังเรื่องนี้ ทำให้พ่อต้องแสดงด้านที่แตกต่างจากตัวเขาไปอย่างสิ้นเชิง ผมรู้ว่าพ่อภูมิใจขนาดไหน ไม่ใช่ว่าเขาไม่ภูมิใจกับซูเปอร์แมนนะ… แต่ถ้ายังอยู่ เขาคงไม่เลือกซูเปอร์แมน เขาจะเลือก ‘The Remains of the Day’ แทน”
ที่มา: Variety