ผู้เขียนได้ดูซีรี่ย์ Juvenile Justice หญิงเหล็กศาลเยาวชน ฉายบน Netflix เมื่อซักช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังดูไม่จบตอนแรก เพราะรู้สึกสะเทือนใน เนื่องด้วยมีลูกในวัยใกล้ๆนี้พอดี แล้วคิดว่าต้องเป็นหนังที่ค่อนข้างสะเทือนใจมากแน่ๆ แต่ในช่วงนี้ที่กำลังมีเหตุการณ์ระทึกขวัญ สะเทือนใน และน่าสลดหดหู่ที่สุดในช่วงไม่กี่วันมานี้ กับข่าวที่มีเยาวชนที่เข้ามาเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ ก็เลยมีคนมาพูดถึงซีรี่ย์เรื่องนี้กันอีกครั้งคำพูดเด็ดๆ ของผู้พิพากษา "อย่าเชื่อคำพูดของพวกเด็ก ๆ ให้มากนัก เพราะครึ่งหนึ่งคือคำโกหก"สำหรับคำพูดนี้ส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องจริง เด็กๆ กำลังเข้าสู่กระบวนการสร้างตัวตน สร้างคำพูดบิดเบือน หาวิธีเอาตัวรอด การพูดโกหกหรือปิดบังความจริงไว้ ซึ่งพวกเค้าเชื่อว่าจะเอาตัวรอดได้ แต่ผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์มากกว่า ก็มักจะจับผิดได้ แต่ก็ต้องดูว่าพวกเค้าจะทำได้ไปถึงขนาดไหน ต้องคอบฟังเค้าแล้ววิเคราะห์ เพราะในคำพูดนั้นจะมีเรื่องจริงและเรื่องไม่จริงอยู่ หลายครั้ง ที่ผู้ปกครองอย่างเรามักจะฟังความข้างเดียวจากลูกเสมอ ฉะนั้นก่อนตัดสินใดๆ ต้องสืบข้อมูลให้รอบด้านจริงๆ"ฉันเกลียดผู้ต้องหาเยาวชน กล้าดียังไงถึงมาทำความผิดทั้งที่อายุยังน้อย" ด้วยความที่หนังเกาหลีทำได้ดีมากๆ กับหนังแนวสืบสวน คดีความ ทำให้ได้รู้จักอาชีพที่เกี่ยวข้องกับความยุติธรรมมากขึ้น และได้ความรู้จากหนังเกาหลีมากมายจริงๆ ผู้เขียนก็จึงค่อนข้างชอบที่จะดูหนังที่เกี่ยวกับในศาล ทนายความ การสืบสวนต่าง และโดยเฉพาะซีรี่ย์เรื่องนี้ที่เป็นการทำออกมาเกี่ยวข้องกับคดีที่มีเยาวชนเข้ามาเกี่ยวข้อง และการกลับมาดูซึ่ง แค่ใน EP1 มันก็คือมีความเชื่อมโยงอย่างมากเกี่ยวกับคดีล่าสุดไม่มากก็น้อย ด้วยอายุของตัวละครในซีรี่ย์และในเหตุการณ์ครั้งนี้ ในซีรี่ย์จะนำพาเราไปรู้จักเด็กผู้กระทำผิดคนหนึ่งที่ได้ทำคดีร้ายแรงในคดีฆาตกรรมเด็กประถมคนหนึ่ง หนังจะนำพาเราไปดูความตึงเครียดของการทำคดีที่เกี่ยวกับเยาวชน ซึ่งไม่ค่อยมีใครอยากเข้าไปเกี่ยวข้องมากนัก เพราะค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่ผู้พิพากษา ชิมอึนซอก ที่มีบุคลิกที่ดูเย็นชา และเกลียดชังผู้ต้องหาเยาวชนเป็นอย่างมาก จากหลายๆ คำพูดหลายๆครั้งและสีหน้า แต่จริงๆ แล้วอาจะมีเบื้องลึกอะไรบางอย่าง ที่ผู้พิพากษา จำเป็นต้องเข้ามาคลี่คลายคดีเยาวชน เพราะในหลายๆครั้งเราอาจจะเคยได้ยิน การที่เยาวชน ไม่ได้ถูกลงโทษอย่างเด็ดขาด หรือไม่ได้รับการลงโทษเพื่อให้มีจิตสำนึก แต่ ชิมอึนซอก ก็ได้พยายามเปิดโปงคดีนี้หาความจริงที่สุดเพื่อให้เยาวชนที่กระทำความผิด ควรได้รับการลงโทษจริงหรือควรได้รับการลดโทษ ใน EP1 นี้ ผู้เขียนก็ดูอย่างลุ้นระทึก ไม่ติดใจอะไรกับการตัดสินครั้งนี้ แต่มุมที่สะเทือนใจที่สุด จะเป็นมุมของครอบครัวผู้เสียชีวิต เรียกได้ว่า น้ำตาแตกกันเลยทีเดียว ยิ่งคนมีลูกได้เห็นฉาก ระเบิกอารมณ์ในชั้นศาล ระหว่าง จำเลย 2 คน ที่กำลังโยนความผิด แล้วครอบครัวผู้เสียชีวิตต้องอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เป็นมุมที่ผู้กระทำผิด หรือใครที่คิดจะทำความผิด ถ้าได้เห็นแล้วน่าจะได้มีจิตสำนึกกันบ้างทั้งนี้นี่ดูผ่านไปแค่ EP เดียว ก็ตึงเครียดมากแล้ว คาดว่าดูต่อไปมีตึงมากกว่านี้แน่นอน อาจจะต้องทยอยดู เพราะแค่มาเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดแล้ว ภาพมันยิ่งชัดเจนมากขึ้น ใครที่คิดว่าจะดูเรื่องนี้ดีมั้ยบอกเลยว่า ให้มาดูเถอะ ได้เห็นหลายมุมมอง ทั้งมุมผู้ตัดสิน มุมผู้กระทำความผิด และผู้ที่ถูกกระทำ มันเป็นเหตุการณ์ที่มันมีอยู่จริงในโลกของเราจริงๆ มีคำถามมากมายว่า อายุเท่าไหร่จึงจะเรียกได้ว่า ไม่มีจิตสำนึกจริงๆ ตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ?การกระทำที่ร้ายแรงจากเด็กคนหนึ่งมาจากการเลี้ยงดูมากน้อยขนาดไหน?สังคมยอมรับบทลงโทษมากน้อยแค่ไหน?ถ้าเกิดกับบุคคลในครอบครัวของเรา ไม่ว่าจะเป็นผู้กระทำผิดหรือผู้ถูกกระทำจะยอมรับคำตัดสินได้ขนาดไหน?แล้วหลังจากนี้เค้าผู้กระทำผิดจะเติบโตมามีจิตสำนึกที่ดีกลับมาได้หรือไม่?ผู้ปกครองคือผู้ที่ต้องได้รับบทลงโทษนี้ไปด้วยใช่หรือไม่?และยังมีคำถามอีกมากมายกับคดีที่สะเทือนใจขนาดนี้ต้องลองมองย้อนกลับมาดูสถาบันครอบครัวของเราว่าได้ให้การดูแลลูกได้ดีพอหรือยังที่ลูกจะได้ออกไปเติบโตอย่างมีคุณภาพ และเชื่อว่าอีกหลายครอบครัวควรได้ดู ซีรีย์เรื่องนี้ เพื่อจะได้แง่คิดอีกหลายมุมกับการเลี้ยงดูลูกกันเลย ลองมาดูตัวอย่างซีรี่กันถ้าใครยังตัดสินใจอยู่ ดูเถอะ อาจจะทำให้ไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลยทีเดียว แล้วกีวี่ดู EP อื่นๆ จนจบแล้วได้แง่คิดหรืออะไรเพิ่มเติม จะมาเล่าให้ฟังกันใหม่นะคะ https://youtu.be/9IbR4Fm-oMs?si=9l7bbB1rV5uGfbwn คลิปตัวอย่างหนังจาก Youtube Netflix Thailand ภาพประกอบ 1 ภาพประกอบ 2 ภาพประกอบ 3 ภาพประกอบ 4 /ภาพปก จาก Facebook Netflix เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !