เนื้อเพลงท่อนหนึ่งในเพลง River ของ BNK48 มีอยู่ว่า “จงอย่าบอกตัวเองว่าเราคงจะทำไม่ได้ ถ้าไม่ลองไม่รู้ว่าทำได้ มีแต่เดินก้าวไปให้ถึงที่สุด! ที่สุด! ที่สุด! ที่สุด! จงก้าวเดินต่อไปบนหนทางที่เลือกไว้” การก้าวเข้ามายืนอยู่ในจุดที่ใครต่อใครมองว่าเป็นไอดอล นับเป็นอีกหนึ่งความใฝ่ฝันและความปรารถนาของเด็กสาวหลายต่อหลายคนในยุคปัจจุบัน บางคนฝึกร้องและเต้นตั้งแต่อยู่ชั้นประถมศึกษาอิสราภา ธวัชภักดีหรือตาหวาน BNK48 เด็กสาวที่ความสามารถครบครัน ไม่ว่าจะร้อง เต้นหรือ MC ความสามารถที่เป็นที่ยอมรับดังกล่าว ส่งผลให้ในปัจจุบัน ตาหวานได้รับหน้าที่เป็นกัปตันทีม NV แม้จะได้รับคำชื่นชมจากเหล่าโอตะและผู้ชื่นชอบวง BNK48 อย่างมาก แต่ก็ไม่พ้นคำว่าร้ายในเรื่องรูปร่างและน้ำหนัก มีบางคนตั้งคำถามว่าทำไมเธอถึงปล่อยปละละเลย ไม่ดูแลตัวเองจนหุ่นพัง แท้จริงแล้วตาหวานพยายามมาโดยตลอด ทั้งออกกําลังกาย ลดอาหารต่าง ๆ สิ่งที่คนเหล่านั้นอาจไม่ทันได้คิด คือ คำพูดดังกล่าวทำให้เธอจิตตกและเครียดอยู่แทบจะตลอดเวลา อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ตะวันขอย้ำเตือนให้เพื่อน ๆ ผู้อ่านชาว True ID คิดก่อนพูดเยอะ ๆ นะคะ เพราะเราเองไม่อาจทราบได้เลยว่าคำพูดที่เราคิดว่ามันธรรมดา อาจไปทำร้ายจิตใจใครเข้า จนก่อให้เกิดความเครียดแบบน้องตาหวานก็เป็นได้ย้อนกลับไปในวัยเด็ก ตาหวานเป็นเด็กผู้หญิงที่ชื่นชอบการร้อง การเต้นมาโดยตลอด หากมีใครชักชวนให้ไปขึ้นเวที เธอก็แทบจะไม่ปฏิเสธ จนได้ฉายาว่าตาหวานร้อยเวที เมื่อโตขึ้นความชอบของเธอก็ไม่ได้เปลี่ยนไป หากแต่หน้าที่ความรับผิดชอบที่มีมากขึ้นอาจทำให้เธอต้องเบนเข็มจากความชอบไปเล็กน้อย เมื่อถึงช่วงวัยที่ต้องเข้ามหาวิทยาลัย ตาหวานเลือกที่จะเข้าเรียนคณะอักษรศาสตร์ สาขาภาษาเกาหลี มหาวิทยาลัยศิลปากร การเข้าเรียนคณะนี้ยังคงเกี่ยวเนื่องกับความฝันและความชอบด้านการร้อง การเต้นอยู่ เธอเลือกเรียนภาษาต่างประเทศเพราะหวังว่ามันจะต่อยอดไปได้อีกหลายทาง รวมถึงด้านการร้อง การเต้นที่เธอมองว่าสามารถเอาไปต่อยอดจากสิ่งที่เรียนมาได้อีกด้วยแม้ความฝันมันอาจจะจางลงเล็กน้อย แต่เมื่อถึงเวลาและโอกาสที่ประจวบเหมาะ ตาหวานก็ได้ทราบข่าวจากเพื่อนว่ามีการรับสมัครออดิชั่น เพื่อเข้ามาเป็นสมาชิกวง BNK48 ในวันสุดท้ายของการรับสมัครแม้อาจมีความลังเลอยู่บ้าง แต่เธอก็เลือกที่จะส่งใบสมัครนั้น เพื่อเป็นตั๋วในการได้เข้าไปทำในสิ่งที่เธอรัก เมื่อการออดิชั่นสิ้นสุดลง ผลปรากฏว่าตาหวานได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ BNK48ความดีใจมักมาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลง เมื่อการซ้อมของ BNK48 เป็นไปอย่างหนัก หลังเลิกเรียนเมมเบอร์ทุกคนต้องมาซ้อมเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง ในช่วงเวลานี้การปรับตัวและการให้กำลังใจตัวเองคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด การซ้อมร้อง ซ้อมเต้น การออกกำลังกายที่เป็นไปอย่างหนักหน่วง บางครั้งมันคงทำให้ตาหวานเหนื่อยกายและเหนื่อยใจอยู่ไม่น้อย แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นเมมเบอร์ที่มีทักษะดีในทุก ๆ ด้าน ไม่เพียงทักษะเท่านั้นที่จะต้องมีการถูกยอมรับจากแฟนคลับ การได้รับความนิยมยังเป็นเสมือนสิ่งหล่อเลี้ยงความฝันของเมมเบอร์ให้ได้มีพื้นที่ในการปล่อยของ สำหรับตาหวานแล้ว ในช่วงแรก ๆ มันไม่ง่ายนัก งานจับมือที่เปิดโอกาสให้โอตะได้เข้ามาจับมือส่งต่อกำลังใจระหว่างกันกับเมมเบอร์นั้น คิวรอจับมือของเมมเบอร์คนอื่นอาจยาวไปจนถึงไหนต่อไหน แต่เแถวรอจับมือของตาหวานก็ไม่ได้ยาวเหมือนเมมเบอร์คนอื่น ๆ สิ่งนี้คงทำให้เธอเสียกำลังใจอยู่บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอพิสูจน์แล้วว่ายังคงรักษาระดับทักษะการร้อง การเต้นไว้ได้เป็นอย่างดี รวมถึงทักษะด้านพิธีกรหรือ MC ก็มีพัฒนาการมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่งให้ตาหวานเป็นเมมเบอร์ที่เปล่งประกายออกมามากที่สุดคนหนึ่งจากดาวคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรที่มีเป้าหมายในการเรียน เพื่อเปิดโอกาสให้ตนเองต่อยอดจากสิ่งนั้นได้อย่างหลากหลาย วันหนึ่งก็ได้ก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในไอดอลสาววง BNK48 เธออาจไม่ได้สวยที่สุด หุ่นดีที่สุดหรือสมบูรณ์แบบที่สุด แต่ตาหวานก็ก้าวข้ามสิ่งภายนอกเหล่านั้นไปด้วยความอดทน ตั้งใจ จริงใจกับความฝัน จนเธอกลายเป็นคนที่มีความสุขกับสิ่งที่ทำ และยังได้ส่งต่อความสุข รวมถึงพลังบวกเหล่านั้น ไปให้แก่แฟนคลับและคนรอบข้างอีกด้วยตะวันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ติดตามน้อง ๆ BNK48 อยู่ห่าง ๆ เช่นกันค่ะ ดังนั้นจึงขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจน้อย ๆ ตะมุตะมิ น่ารักปุ๊กปิ๊กให้แก่น้องตาหวานด้วยนะคะ สู้ ๆ ค่ะ ^^วันนี้ต้องขอตัวลาเพื่อน ๆ ผู้อ่านชาว True ID ไปก่อนแล้ว โอกาสหน้าตะวันจะนำเรื่องราวสร้างพลังบวกให้แก่ทุกคนมาฝากอีกเช่นเคยค่ะ ไว้พบกันนะคะ สวัสดีค่ะ รับชม dancing skill ของตาหวานได้ที่นี่รับชม vocal skill ของตาหวานได้ที่นี่ภาพจาก Tarwaan BNK48 Thailand Fanclub ภาพประกอบที่1 ภาพประกอบที่ 2 ภาพประกอบที่ 3 ภาพประกอบที่ 3 ภาพปก 1 ภาพปก 2 ภาพปก 3