ขอบอกว่าหนังสือ 452 หน้าเล่มนี้สนุกมาก สนุกตั้งแต่หน้าแรกจนหน้าสุดท้าย ปกหลังโปรยไว้ว่า “1 ใน 15 นวนิยายสยองขวัญยอดเยี่ยมของปี 2012 จากการโหวดของผู้อ่าน Goodreads” แถมด้วย “การผสมผสานที่ยอดเยี่ยมระหว่าง ทไวไลต์โซน และ เอช พี เลิฟคราฟต์” นาน ๆ จะพบกับหนังสือที่สนุกถูกใจอย่างนี้ ไม่มาแนะนำคงไม่ได้แล้วชื่อภาษาไทยของเล่มนี้ก็คือ โฟร์ทีน จักรกลมรณะ เป็นนวนิยายวิทยาศาสตร์แฟนตาซีที่ให้บรรยากาศอันลึกลับที่เกิดขึ้นในสถานที่เก่าแก่ของเมือง มีวิธีการเล่าเรื่องได้อย่างน่าติดตาม กระชับ ฉับไว ไม่น่าเบื่อ ตอนผู้เขียนอ่านกลางดึก แอบหลอน (นิด ๆ) อีกต่างหาก เรื่องเริ่มต้นจากเนท ทักเกอร์ ชายผู้ทำงานในฮอลลีวูด ลอสแอนเจลิส เมืองที่ส่งออกวัฒนธรรมอเมริกันไปทั่วโลก คนทั่วไปคงคิดว่างานของเขาน่าสนใจ ก็ทำงานในฮอลลีวูดนี่นะ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นแค่พนักงานชั่วคราวที่ทำงานป้อนข้อมูล ถึงจะชั่วคราวแต่ก็ทำมาได้หลายปี งานที่ใครก็ทำได้ งานหนักแต่ค่าจ้างน้อยอีกต่างหาก เขาแค่มีชีวิตไปวัน ๆ ไม่มีจุดหมายอะไรวันหนึ่งก็เกิดจุดเปลี่ยนในชีวิต บังเอิญมีคนแนะนำเขาให้รู้จักกับอพาร์ตเมนต์ให้เช่าในราคาถูก โดยอพาร์ตเมนต์แห่งนี้เป็นอาคารโบราณที่มีชื่อว่า คาวาซ ขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งชาติ เมื่อเขาย้ายเข้าไปอยู่ ก็ได้พบกับเรื่องพิลึก ๆ ของตึกคาวาซหลายเรื่อง และได้พบกับเพื่อนบ้านร่วมอพาร์ตเมนต์อีกหลายคนที่มีความน่าสนใจในตัวเองทั้งนั้น ในระหว่างการที่เขาเริ่มสนใจความพิลึกของตึกนี้ เขาก็ได้พบกับ วีค หญิงเชื้อสายอินเดียที่ทำงานด้านคอมพิวเตอร์ วีคอาศัยที่ตึกนี้มาราว 2 ปี เธอเองสนใจสืบค้นเรื่องราวแปลก ๆ ของตึกนี้อยู่ก่อนแล้ว ทั้ง 2 คนจึงจับมือกันสืบค้นเพื่อคลี่คลายเรื่องลึกลับของตึก แถมยังดึงเอาเพื่อนบ้านรายอื่น ๆ ให้มาสนใจและร่วมมือกันสืบสาวเรื่องราวไปด้วยกันแม้จะเป็นเรื่องราวลึกลับแนววิทยาศาสตร์ แต่ก็มีบรรยากาศของมิตรภาพอันน่าประทับใจอันเกิดขึ้นจากคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่เพิ่งได้รู้จักกัน และอยากรู้อยากเห็นเหมือน ๆ กัน จนต้องร่วมกันแก้ไขปริศนาลึกลับของตึกแห่งนี้เรื่องลึกลับของที่นี่น่ะเหรอ ก็มีเช่นเรื่องของประตูห้อง 23 ที่ไม่มีลูกบิด หรือห้องใต้ดินที่มีประตูโบราณที่คล้องโซ่ปิดตายไว้อย่างหนาแน่นนานนับสิบ ๆ ปี ปล่องลิฟต์ที่ไม่เคยใช้งานได้ ยิ่งเมื่อสืบไปสืบมาก็ยิ่งเพิ่มเรื่องลึกลับมากขึ้นอีก ที่ลึกลับไม่แพ้กันก็คือห้องหมายเลข 14 ที่ถูกปิดตาย ซึ่งก็ไม่พลาดที่เหล่าเพื่อนร่วมอุดมการณ์จะลองเปิด แล้วไงล่ะ... บอกไม่ได้จริง ๆ อุปสรรคเดียวของการเล่นเป็นนักสืบของคนกลุ่มนี้ก็คือ ออสคาร์ ผู้อาศัยคนหนึ่งที่ทำงานเป็นผู้ดูแลตึก ออสคาร์ชายชรา อาศัยที่ตึกนี้มาหลายสิบปี เขาเป็นผู้คุมกฎเหล็กที่ไม่ต้องการให้ใครไปจุ้นวุ่นวายกับตึกนี้ มิฉะนั้นจะถูกไล่ออก ดังนั้นทุกคนจึงต้องสืบอย่างระมัดระวังเรื่องราวของตึกคาวาซนี้ค่อย ๆ เผยตัวเองออกทีละหน้าทีละหน้า ทีละเล็กละน้อย ดึงให้คนอ่านสนใจได้ตลอด เมื่อเรื่องราวดำเนินไป เนทก็เปลี่ยนจากคนที่ไร้จุดหมายไปเป็นคนที่มุ่งมั่นมากในการคลี่คลายความลึกลับของตึกคาวาซ อ่านไปกลางเล่ม ผู้เขียนแทบอยากพลิกไปดูเฉลยท้ายเล่มซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่ก็อดใจอ่านไปทีละหน้า ยังสงสัยเลยว่าเล่าเรื่องมาเสียสนุกขนาดนี้ ถ้าตอนจบผิดหวังจะนอนเสียใจให้ดู (ฮา) แล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะ ผู้เขียนเรื่องนี้คือ ปีเตอร์ ไคลน์ (Peter Clines) เขียนปิดท้ายเล่มถึงที่มาของหนังสือเล่มนี้เริ่มต้นเมื่อเขายังเป็นเด็กเลยทีเดียว (วันนี้ที่เขียนบทความ เขาอายุ 51 ปี) หลังจากเขาได้ดูรายการทีวีรายการหนึ่ง ถึงขั้นหวาดกลัวเลยทีเดียว ความคิดนั้นติดตัวมาจนในเมื่อเขาได้เขียนและตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้คือปี 2012 (ตอนที่เขาอายุ 43)ข้อเสียเดียวของหนังสือเล่มนี้ก็คือ กลัวจบเร็ว เสียดายความสนุกค่ะ (ฮา)| โฟร์ทีน จักรกลมรณะ | สำนักพิมพ์ Solis Books | แปลโดย อาริตา พงศ์ธรานนท์ | ราคา360 บาท |