ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน วอนดารารุ่นน้องอย่าเล่นบู๊เอง จะเดี้ยงเหมือนเขาใน "The Expendables"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซีซันที่ 2 ของ ‘The Family Stallone’ รายการเรียลลิตี้โชว์ที่ตามติดชีวิตส่วนตัว และเรื่องราวของครอบครัวแอ็กชันสตาร์รุ่นใหญ่ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน (Sylvester Stallone) และครอบครัวที่ประกอบไปด้วยภรรยาแสนสวย เจนนิเฟอร์ ฟลาวิน (Jennifer Flavin) และลูกสาวสามใบเถา โซเฟีย สตอลโลน (Sophia Stallone), ซิสทีน สตอลโลน (Sistine Stallone) และ สการ์เล็ต สตอลโลน (Scarlet Stallone) เพิ่งออกอากาศให้ชมกันบนสตรีมมิง Paramount+ ไปหมาด ๆ
ซึ่งนอกจากป๊ะป๋าสตอลโลนจะพาลูกสาวไปฝีกจับไก่ เอ๊ย ฝีกความแข็งแกร่งแล้ว ในตอนที่ 4 ของซีซันที่ 2 แอ็กชันสตาร์รุ่นใหญ่วัย 77 กะรัต ได้พาผู้ชมไปเยี่ยมชมค่ายมวยร่วมกับน้องชาย แฟรงก์ สตอลโลน (Frank Stallone) ก่อนจะพาไปพบกับ แฟรงค์ กริลโล (Frank Grillo) แอ็กชันสตาร์รุ่นน้องที่เคยร่วมงานกับสตอลโลนมาแล้วในหนังแอ็กชันทริลเลอร์ ‘Homefront’ (2013) ที่สตอลโลนเป็นคนเขียนบท ซึ่งกริลโลก็ได้ถามเรื่องสุขภาพของรุ่นพี่ เนื่องจากกริลโลเคยเห็นเขาจับที่หลังด้วยอาการเจ็บ
สตอลโลนจึงได้เปิดเผยว่า ตอนนี้เขากำลังเตรียมตัวเข้ารับการผ่าตัดหลังเป็นครั้งที่ 7 ก่อนที่เขาจะเตรียมตัวย้ายบ้านไปอาศัยอยู่กับภรรยาที่ฟลอริดา ซึ่งอาการบาดเจ็บที่หลังของเขานั้นเกิดมาจากการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ ‘The Expendables’ (2010) ที่เขากำกับ เขียนบท และแสดงฉากแอ็กชันด้วยตัวเอง
“ผมเคยทำเรื่องโง่ ๆ เอาไว้น่ะ ตอนนั้นผมกำลังกำกับ ‘The Expendables’ ผมเหมือนเป็นไอ้โง่ที่ต้องแสดงฉากสตันต์เองมากกว่า 10 เทคเลย และตอนนั้นผมจำได้ว่า ตอนที่ผมโดนจับทุ่มอยู่เทคหนึ่ง ผมรู้สึกได้ถึงแรงกระแทกที่แรงมาก ๆ แรงแบบว่า ปัง!”
ด้วยอุบัติเหตุจากการแสดงผิดคิว ทำให้เขาต้องประสบกับปัญหาสุขภาพ และอาการบาดเจ็บที่ยังคงเรื้อรัง และต้องเข้ารับการรักษามาจนถึงทุกวันนี้ และเขาเองก็อยากเตือนไปถึงนักแสดงแอ็กชันรุ่นน้อง หรือใครก็ตามว่า อย่าได้หาทำแสดงฉากแอ็กชันเสี่ยง ๆ ด้วยตัวเอง
“ทุกวันนี้ผมเองก็ยังไม่หายดี ร่างกายของผมไม่เหมือนเดิมอีกอีกต่อไป ผมเคยเข้ารับการผ่าตัดไปแล้ว และเคยคิดว่าผมน่าจะไม่เป็นอะไรแล้วแหละ และตอนนี้ฤดูกาลผ่าตัดกลับมาอีกแล้ว ผมก็ต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกรอบในวันพฤหัสบดี เพราะขาของผมมันเริ่มจะชา ๆ แล้ว”
“คือการแสดงฉากสตันต์ด้วยตัวเองมันก็เป็นอะไรที่ฟังดูโรแมนติกดีนั่นแหละครับ แต่พอแสดงฉากพวกนั้นเสร็จแล้ว มันเป็นอะไรที่ไม่โรแมนติกเลยนะ และนี่แหละคือเหตุผลที่ผมอยากจะขอเตือนทุกคนว่า ไม่ควรแสดงฉากสตันต์ด้วยตัวเองเป็นอันขาด”
อาการบาดเจ็บสาหัสของสตอลโลนครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะใน ‘Rocky IV’ (1985) เขาเองเคยต้องเผชิญกับสถานการณ์เฉียดตาย หลังจากถูก ดอล์ฟ ลันด์เกรน (Dolph Lundgren) พลาดต่อยเข้าที่หน้าอกอย่างรุนแรงจนทำให้หัวใจได้รับการกระทบกระแทกจนเกิดอาการบวมโต
แต่ใน ‘The Expendables’ นั้นร้ายแรงยิ่งกว่า ฉากที่ทำให้เขาบาดเจ็บที่หลังเรื้อรัง ก็คือฉากต่อสู้ระหว่างสตอลโลน ที่รับบทเป็น บาร์นีย์ รอส หัวหน้าทีม Expendables ที่กำลังเข้าปะทะกับ เพน ที่รับบทโดยนักแสดงอดีตนักมวยปล้ำ สโตน โคลด์ สตีฟ ออสติน (“Stone Cold” Steve Austin) ในคุกใต้ดิน ในฉากนั้น ออสตินพลาดท่า จับสตอลโลนทุ่มใส่กำแพง ทำให้สตอลโลนเกิดอาการไหล่หลุด กระดูกคอแตก สตอลโลนต้องเข้ารับการผ่าตัดใส่เหล็กดามที่คอและกระดูกสันหลัง ทำให้เขาเกิดอาการเจ็บปวดเรื้อรังมาโดยตลอด และต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการมาจนถึงทุกวันนี้
และเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาหันกลับไปใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัว โดยที่แทบจะไม่ได้กลับมาทำงานด้านภาพยนตร์อีกเลย ตั้งแต่การไม่ได้ร่วมกำกับ ‘The Expendables’ 3 ภาคต่อมา และ ‘Creed II’ (2018) รวมทั้งการแสดง ล่าสุด เขามาร่วมแสดงบทบาทเดิมใน ‘Expend4bles’ (2023) แต่มาในฐานะนักแสดงรับเชิญเท่านั้น
ในรายการเดียวกัน ฟลาวิน ภรรยาของสตอลโลนยังได้เผยว่า การเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บมากถึง 7 ครั้งของแอ็กชันสตาร์ นำมาสู่ความรู้สึกกลัวของครอบครัว และทำให้แผนการที่พวกเขาต้องการจะย้ายบ้านจากลอสแองเจลิส ไปอยู่ที่ฟลอริดาต้องเลื่อนออกไปหลายครั้ง
“เขาไม่ชอบเลยค่ะที่จะให้ใครมารู้ว่าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดหลังหลายครั้งขนาดนี้ มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก สำหรับครอบครัวของเรา ทุกครั้งที่เรารู้ว่าสไลต้องเข้ารับการผ่าตัด เพราะเราไม่มีทางจะรู้ ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น… ฉันเองหวังแค่ว่า (การผ่าตัด) ครั้งนี้จะช่วยให้เขามีชีวิตที่สะดวกสบายมากขึ้น”
สการ์เล็ต ลูกสาวคนเล็กของบ้านสตอลโลน เล่าต่อมาว่า ในวัยเด็ก เธอต้องเห็นพ่อของเขาอยู่กับความเจ็บปวดในทุกช่วงเวลาที่ตื่นนอน
“มันยากจริง ๆ ค่ะ ที่ต้องเห็นพ่อต้องเข้ารับการผ่าตัดที่เจ็บปวดอีกครั้ง วัยเด็กของฉันเคยเห็นเขาต้องเจ็บปวด เขาทำทุก ๆ อย่างที่ทำได้ เพื่ออยู่ข้าง ๆ เราและก้าวผ่านความเจ็บปวดนั้นไป ฉันนึกไม่ออกเลยว่าพ่อจะทนอยู่กับอาการเจ็บปวดทุกช่วงเวลาที่ตื่นได้ยังไง”