รีเซต

"ปุ้มปุ้ย" เปิดใจ ชีวิตเจอแต่ดราม่า โดนตัดสินทั้งที่ไม่รู้จัก พร้อมแชร์วิธีการรับมือ

"ปุ้มปุ้ย" เปิดใจ ชีวิตเจอแต่ดราม่า โดนตัดสินทั้งที่ไม่รู้จัก พร้อมแชร์วิธีการรับมือ
TNN ช่อง16
15 ธันวาคม 2564 ( 07:52 )
249

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่ผ่านกระแสดราม่ามาค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว สำหรับนางแบบสาว "ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา" ภรรยาสาวสุดแซ่บของนักร้องชื่อดัง "กวินท์ ดูวาล" ที่ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ตรงที่เจอมาในมุมของตัวเอง พร้อมแชร์ทริคการรับมือกับกระแสดราม่าต่างๆ ว่าทำยังไงถึงจะเอาตัวเองออกมาจากตรงนั้นได้..


ภาพจาก IG : pantipa.a

ภาพจาก Youtube : PANTIPA .A

ภาพจาก Youtube : PANTIPA .A


ซึง  "ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา" ได้ออกมาเปิดใจผ่านช่องยูทูป "PANTIPA .A" ว่า "นับตั้งแต่วันที่เปิดเพจ  Facebook ทำ YouTube สิ่งแรกที่โดนแล้วไม่รู้จะแก้ไขยังไงก็คือ โดนว่าเรื่องเสียง เสียงมันเป็นอย่างนี้ ก็จะโดนว่าทำไมต้องแอ๊บเสียงให้มันแหลม เสียงเป็นอะไร มันไม่ใช่แค่ในโซเชียลที่ว่า แต่โดนเพื่อนล้อเพื่อนแซวมาตั้งแต่เด็ก ว่าเสียงเป็นอะไร นี่ก็ไม่รู้จะตอบคนอื่นว่าอะไร ถ้าจะให้เสียงเป็นเหมือนมาตรฐานของคนอื่นแล้วให้คนอื่นพอใจ ต้องดัด แต่อันนี้คือเสียงจริงๆที่เราใช้พูดปกติโดยที่เราไม่ได้ดัดไง


ส่วนเรื่องการแต่งกายมีอยู่เรื่อยๆอยู่เเล้ว แต่เราเป็นคนที่หุ่นดี อันนี้เราก็มั่นใจ ว่าเรามีหุ่นที่โอเค เราพอใจกับรูปร่างของเรา เราก็รู้สึกว่าไม่ใช่ทุกคนนะที่จะสามารถใส่บิกินี่ในแบบที่ตัวเองอยากใส่และสามารถถ่ายรูปแล้วก็รู้สึกพอใจเรือนร่างของตัวเอง เราก็เลยคิดว่าอันนี้มันเป็นข้อได้เปรียบก็เลยชอบแต่งตัวแบบนี้ แล้วด้วยความเป็นคนที่มีผิวขาว คือการที่เราเป็นคนแต่งตัวเซ็กซี่ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นผู้หญิงไม่ดี 

ภาพจาก Youtube : PANTIPA .A

ภาพจาก IG : pantipa.a


ส่วนเรื่องการโพสต์ท่าถ่ายภาพ เรามีอาชีพเป็นนางแบบเวลาที่เราถ่ายเล่นก็จะติดภาพติดอินเนอร์ของการเป็นนางแบบมาอยู่แล้ว ตรงนี้ก็จะโดนในเรื่องของเวลาที่ไปทะเล แล้วมีท่าโพสต์ ก็เคยโดนด่าว่าต้องโพสต์ขนาดนี้เลยหรอ คือเป็นนางแบบก็ต้องมีความสเปเชียลกว่าคนที่ทำสายงานอื่นหรือเปล่า พอเราโพสต์ลงโซเชียลก็จะเป็นคนที่ค่อนข้างถูกวิจารณ์ อันนี้ไม่เข้าใจเลยว่าในสิ่งที่เราโพสต์ลงไปในโซเชียลมันไม่ได้แปลว่าต้องการให้คุณมาด่าเรานะ เพราะว่าการแสดงความคิดเห็นแบบดีๆมันก็เป็นพลังบวก โพสต์มาเอง มีสิทธิ์ด่ามันไม่ใช่เพราะว่าหลังๆ มันก็คือมีการฟ้องร้องนะ

ภาพจาก IG : pantipa.a

ภาพจาก IG : pantipa.a

ภาพจาก IG : pantipa.a


พอเราตั้งครรภ์ ก็โดนอีกอาจจะเพราะว่าเรารู้สึกว่า เราเป็นคนที่คนกล้าที่จะพูดหรือกล้าที่จะตั้งคำถาม คือมีคนส่งข้อความแย่ๆ มาให้ค่อนข้างเยอะ เพราะเราดูเป็นคนที่เข้าถึงได้ เป็นคนที่คุยได้หรือเปล่า บางวันก็จะมีข้อความส่งมา โทษนะคะคือสะดือทำไมมันเป็นรู โทษนะคะ นมทำมาหรือเปล่าซึ่งเราก็ได้มีการตอบคำถามอะไรพวกนี้ไปเยอะแล้ว แต่พอตอบไปสิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือ ฉีดใช่ไหมเติมไขมันใช่ไหม ก็คือจะให้ทำให้ได้ ต่อให้บอกว่าไม่ได้ทำ ก็จะยัดเยียดว่าไม่จริง


คนตัวเล็กแบบเราไม่มีทางที่จะมีหน้าอกได้ เธอทำ ยังไงก็ฉีด เราก็เลยคิดว่างั้นมันไม่ใช่แค่คุณมีตัดสินเราแล้วแต่คุณมีภาพในหัวแล้ว แล้วก็เชื่อกับสิ่งที่คุณคิดมาแล้ว แล้วคุณก็ยัดเยียดสิ่งที่ทุกคนคิดมาในตัวเราซึ่งมันไม่จริงและเรื่องสะดือ เราไม่รู้หรอกว่าคนท้องอ่ะเวลาท้องสะดือเขาเป็นยังไง แต่เราโดนตั้งคำถามว่าสะดือดูน่ากลัวมาก สะดือโบ๋ เป็นรู ท้องแล้วทำไมสะดือเป็นรูแบบนั้น มันเป็นคำถามที่เราไม่มีคำตอบให้ เพราะก็ไม่รู้ก็ไม่เข้าใจว่าจะติเราทำไม จะว่าเราทำไม


ภาพจาก IG : pantipa.a

ภาพจาก IG : pantipa.a


ซึ่งวิธีการรับมือของเราคือ บอกเลยว่าถ้าใครกำลังโดนแบบนี้อยู่สิ่งเดียวที่เราทำได้เลยคือช่างมัน คนพี่พิมพ์แค่ปลายปากกาหรือพิมพ์โดยที่เขาไม่ได้คิด แต่ตัวเรารับมา เชื่อไหมว่านั่งจ้องคอมเม้นต์ที่ด่าเราอยู่ทั้งวัน แล้วก็นั่งทบทวนตัวเองว่าแล้วเราต้องแก้ยังไงแล้วเราต้องทำยังไงอยู่กับคำถามนี้หนึ่งวันเต็มๆ แล้วคือวันนั้นหายไปเลยเราไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลย


จนหลังๆ เริ่มมีความรู้สึกว่ายิ่งเราปล่อยวางคอมเมนต์แย่ๆพวกนี้ได้เร็วเท่าไหร่ เรายิ่งได้เดินไปข้างหน้าเร็วขึ้นเท่านั้น และอีกวิธีหนึ่งก็คือไม่อ่านเพจข่าวหรือถ้าเป็นหน้าข่าวตัวเองเลื่อนทิ้งเลย เพราะรู้สึกว่ามันจะต้องมีทั้งดีและไม่ดี เพราะฉะนั้นเราไม่รับสาร เราแค่เล่นโซเชียลของเราดูแล้วก็เปิดรับแต่คอมเมนต์ดีๆ จะอ่านแต่มันเป็นพลังบวก โฟกัสกับคอมเมนต์ดีๆ แล้วพยายามรักษาคนดีๆ คนที่วังดีแล้วก็คนที่ชื่นชอบเราให้อยู่กับเราให้นานที่สุดแบบนี้ดีกว่า”


ภาพจาก IG : pantipa.a

ภาพจาก IG : pantipa.a

ภาพจาก IG : pantipa.a