หนึ่งในออริจินอลคอนเทนต์เกาหลีจาก Netflix อย่างซีรีส์ All of Us Are Dead มัธยมซอมบี้ ได้ปลุกกระแสผีดิบคลั่งขึ้นมาอีกครั้งหลังความสำเร็จของหลายเรื่องที่ผ่านมาจนขึ้นชื่อว่าเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก เช่นเดียวกับเรื่องนี้ที่ยังคงมาตรฐาน K-ZOMBIE เอาไว้ได้ดีเช่นเคย นอกจากความสนุกตื่นเต้นแล้วยังมีจุดสังเกตน่าหงุดหงิดอีกหลายประเด็นที่อยากพูดถึง จึงขอถือวิสาสะนำมาแบ่งปันแบบจัดเต็มกันในรีวิวฉบับนี้ผู้กำกับอีแจคยู ผู้นำทัพคนสำคัญได้ผนึกกำลังร่วมกับ นักเขียนชอนซองอิล หยิบเว็บตูนยอดฮิตตลอดกาลอย่าง Now at Our School ของ นักเขียนยูดงกึน มาสร้างเป็นซีรีส์ฉบับไลฟ์แอ็กชันจำนวน 12 ตอนโดยใช้ชื่อเรื่องชวนขนลุกว่า All of Us Are Dead ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กกลุ่มหนึ่งที่ติดอยู่ในโรงเรียนมัธยมปลายฮโยซันในขณะที่ฝูงซอมบี้กำลังออกอาละวาดไล่กัดผู้คนอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาจึงพยายามหาวิธีเอาตัวรอดเพื่อหนีตายออกจากอาคารเรียนซึ่งได้ชื่อว่าเป็นขุมนรกอย่างแท้จริงสำหรับจุดเริ่มต้นการเกิดซอมบี้ของเรื่องนี้ไม่มีอะไรแตกต่างออกไปมากนัก ทำนองน้ำผึ้งหยดเดียวจากความอยากรู้อยากเห็นของนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่ดันแกว่งเท้าหาเสี้ยนด้วยความสงสัย จนทำให้ถูกหนูทดลองที่ติดเชื้อไวรัสซอบบี้กัดนิ้วจนเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นและไม่สามารถควบคุมตนเองได้ แม้ อีบยองชาน (รับบทโดย คิมบยองชอล) ครูสอนวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นเชื้อไวรัสดังกล่าวพยายามควบคุมเหตุการณ์ไม่ให้บานปลาย แต่ท้ายที่สุดเหตุการณ์อันร้ายแรงประหนึ่งวันสิ้นโลกก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการด้วยเส้นเรื่องที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนเป็นหลัก ความน่าสนใจประการแรกจึงอยู่ที่การจั่วหัวเรื่องอย่างตรงไปตรงมา ไม่สลับซับซ้อนจนหนักสมอง อัดแน่นความระทึกถึงใจสไตล์ซอมบี้เกาหลีที่มาด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นท่าทางการเดินที่ผิดรูปผิดร่าง เสียงกระดูกหักดังเปราะกระแทกหูตลอดทั้งเรื่อง จนกระทั่งวิธีการกัดสุดโหด เสือดสาดไส้ทะลักจนบางฉากต้องหรี่ตาดูโดยไม่รู้ตัว ความสนุกตื่นเต้นเหล่านี้เสิร์ฟถึงผู้ชมตั้งแต่ 20 นาทีของตอนแรกไปจนถึงตอนสุดท้ายชนิดแทบไม่ได้พักหายใจหายคอ เรียกว่าวิ่งหนีกันจ้าละหวั่นจนคนดูแทบหอบและวิงเวียนแทนนักแสดงแน่นอนว่าเมื่อมีซอมบี้ย่อมต้องมีผู้รอดชีวิต หลังจากผู้ติดเชื้อและกลายพันธุ์เป็นผีดิบเริ่มกระจายไปทั่วทุกตารางวาของโรงเรียน ยังมีนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่หาทางหนีทีไล่จนเอาชีวิตรอดมาได้อย่างหวุดหวิด นำโดย อีชองซาน (รับบทโดย ยุนชานยอง) ลูกชายร้านไก่ทอดผู้มีความปราดเปรียวและกล้าเสียสละอย่างไม่ลังเล นัมอนโจ (รับบทโดย พัคจีฮู) ลูกสาวหัวหน้าทีมกู้ภัยที่สามารถช่วยเหลือเพื่อนด้วยความรู้ด้านการเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขัน อีซูฮยอก (รับบทโดย พัคโซโลมอน) อดีตนักเลงสายบู๊ผู้แข็งแกร่งด้านพละกำลังและการต่อสู้ และ ชเวนัมรา (รับบทโดย โจอีฮยอน) หัวหน้าห้องผู้เย็นชา เธอมักใช้สติในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าจนหาทางหนีทีไล่ได้อยู่เสมอ อีกทั้งยังมีนักเรียนคนอื่น ๆ ที่เข้ามาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ในครั้งนี้เมื่อตัวละครหลักเป็นเพียงกลุ่มนักเรียนมัธยมจึงทำให้เกิดจุดสังเกตสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินเรื่องอยู่บ้างพอสมควร โดยเฉพาะบุคลิกความเป็นเด็กที่ขาด ‘วุฒิภาวะ’ จนก่อความน่าหงุดหงิดรำคาญใจมาเป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำอันโง่เขลาอวดไอคิวต่ำนำความเดือดร้อนมาสู่คนหมู่มาก ช่วงคาบเกี่ยวความเป็นและความตายแต่ไม่วายยังมีเรี่ยวมีแรงทุบตีกันเองจากเรื่องขี้หมูขี้หมา หรือแม้กระทั่งความเห็นแก่ตัวซึ่งแสดงออกผ่านสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของมนุษย์ก็ตาม แม้จะพอเข้าใจได้ว่าประเด็นเหล่านี้เป็นธรรมชาติของเด็กวัยเรียน แต่จนแล้วจนรอดตัวละครบางตัวแทบไม่ได้มีพัฒนาการทางความคิดมากขึ้นแต่อย่างใดแม้จะผ่านเหตุการณ์เสี่ยงตายมาตลอดทั้งเรื่องแล้วก็ตามประเด็นต่อมาซึ่งต่อเนื่องจากความไม่สนสี่สนแปดตามสไตล์วัยรุ่นนั่นคือเลิฟไลน์ที่ใส่มาอย่างไม่ถูกที่ถูกทาง บรรยากาศประเภทคนรักจะไปทำสงครามจึงต้องสารภาพความในใจกลางสนามรบมีให้เห็นบ่อยครั้งจนดูจงใจ รวมทั้งดราม่าเวิ่นเว้อชวนงงที่ยัดเยียดลงมาในบางฉากซึ่งไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ถึงกระนั้นหากมองในแง่ดีฉากน้ำท่วมทุ่งและมุกตลกฝืด ๆ เหล่านี้ยังพอช่วยผ่อนคลายความเคร่งเครียดจากการวิ่งหนีซอมบี้ได้บ้างโดยเฉพาะเมื่อนำเสนอในจังหวะที่ลงตัวข้อต่อมาถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของซีรีส์เรื่องนี้คือวิธีการเอาตัวรอดตามกำลังและความสามารถของเด็กมัธยมปลาย นั่นคือการหนีออกจากห้องหนึ่งไปสู่ห้องหนึ่งจนทั่วทุกมุมของโรงเรียน ด้วยการหาอุปกรณ์ที่พบเจอได้ในชีวิตประจำวันมาทำเป็นอาวุธและอุปกรณ์สำหรับป้องกันตัว บ้างก็นำมาดัดแปลงให้เป็นเหยื่อเบี่ยงเบนความสนใจของซอมบี้ แม้รูปแบบการหนีจะวิ่งออกห้องนั้นแล่นเข้าห้องนี้ตลอดทั้งเรื่องจนดูวนลูป แต่ทุกครั้งก็มีเรื่องราวแปลกใหม่เกิดขึ้นอยู่เสมอ ที่สำคัญใครจะตายใครจะรอดเป็นเรื่องที่คาดเดายากมาก บางคนฉลาดมาจนช่วงท้ายแต่มาตายโง่ ๆ ก็มี นี่จึงถือเป็นข้อดีที่ทำให้อยากตามต่อจนจบนอกจากการหาทางหนีทีไล่เพื่อให้รอดไปจากสมรภูมิผีดิบคลั่งแล้ว กลุ่มนักเรียนเหล่านี้ยังต้องเผชิญกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่จากนักเรียนชายผู้เป็นอันธพาลอย่าง ยุนควีนัม (รับบทโดย ยูอินซู) ซึ่งถูกซอมบี้กัดแต่กลับกลายเป็นคนใหม่ที่มีพละกำลังและเรี่ยวแรงราวกับสัตว์ป่า เขาพยายามไล่ล่าหนึ่งในสมาชิกของคนที่เหลือรอดด้วยความแค้นบางอย่าง ยุนควีนัมเป็นตัวละครที่ทำให้ผู้ชมต้องตั้งคำถามตลอดเวลาว่า ‘เมื่อไหร่มันจะตายสักที’ จุดนี้หากอยากรู้ว่าเป็นเพราะอะไรต้องไปดูกันเอาเองแม้ฉากหลังตลอดทั้งเรื่องของซีรีส์จะให้น้ำหนักอยู่ที่โรงเรียนมัธยมฮโยซันค่อนข้างมาก แต่โลกภายนอกยังมีผู้ติดเชื้อที่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นเมืองผีดิบในชั่วข้ามคืน เส้นเรื่องรองจึงนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทหาร ตำรวจ และนักการเมือง แต่ปัญหาสำคัญคือการใส่ตัวละครเข้ามาจนมากเกินพอดีทำให้บางบทถูกหยิบยกมาอย่างน่าสนใจแล้วกลับทิ้งไว้กลางทางไม่มีการสานต่อ อีกทั้งยังต้องตัดฉากสลับไปมาจนกระทบต่ออรรถรสการรับชมอยู่หลายครั้ง ความจริงแล้วตัวละครบางตัวแทบไม่มีความจำเป็นจนทำให้รู้สึกเหมือนยัดลงมาให้ครบจำนวนตอนที่วางไว้เท่านั้นนอกจากนี้ยังมีบทเรียนทางสังคมที่ซีรีส์พยายามนำเสนอให้เห็นในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นปัญหานักเรียนถูกกลั่นแกล้งและล่วงละเมิดทางเพศจนสะสมเป็นความกดดันและความแค้นจนเดินทางไปสู่การกระทำที่รุนแรง ความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวที่นำมาซึ่งการเสียสละในยามเข้าตาจน เสียดสีวิธีการทำงานของภาครัฐและความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนของคนบางกลุ่ม บางเรื่องกระทบใจจนน้ำตาแตก แต่บางเรื่องกลับแตะเพียงผิวเผินพอให้รู้ว่ามีซึ่งถือเป็นลายเซ็นของซีรีส์สไตล์ซอมบี้ยุคหลังที่จำเป็นต้องได้เห็นกันอยู่แล้วภาพรวมถือเป็นอีกครั้งที่เกาหลีสร้างสรรค์งานแนวซอมบี้ด้วยความน่าดูมากทีเดียว สนุกชนิดไม่ต้องตีความมาก ระทึกด้วยการไล่ล่าและวิ่งหนีอย่างเต็มอิ่มและสมบูรณ์แบบ โปรดักชั่นที่น่าชื่นชมโดยเฉพาะลองเทคฉากบู๊และซอมบี้บุกที่สมจริง ดนตรีประกอบฉากที่ช่วยสร้างบรรยากาศความหลอนระทึกและเร่งดีกรีมากขึ้นทุกอีพี รวมไปถึงงานสเปเชียลเมคอัพที่เนียนกริ๊บ ทั้งเลือดทั้งแผลสมจริงชวนแหวะเอาใจสายฮาร์ดคอร์เป็นพิเศษ ยังเต็มไปด้วยนักแสดงดาวรุ่งที่เสน่ห์ล้นเหลือ แม้จะแลกมาด้วยความน่าหงุดหงิดรำคาญใจที่มีมากอยู่พอสมควร แต่หากทำให้เราบ่นด่าจนอยากปรี่เข้าไปทึ้งหัวตัวละครได้แม้จะนั่งดูอยู่หน้าจอทีวีนั่นแปลว่าซีรีส์ประสบความสำเร็จแล้วเรื่องย่อ ซีรีส์เกาหลี All of Us Are Dead มัธยมซอมบี้(Youtube: Netflix Thailand)ปรับแสงสว่างหน้าจอให้พอดี เร่งเสียงดนตรีให้สุด แล้วไปวิ่งหนีซอมบี้กันอย่างอุตลุตในซีรีส์ All of Us Are Dead (มัธยมซอมบี้) ออกอากาศรวดเดียว 12 ตอน ความยาวประมาณตอนละ 60 นาที สามารถรับชมได้ทั้งฉบับพากษ์ไทยและบรรยายไทยทาง Netflix ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน เว็บไซต์ รวมทั้งทางกล่อง TrueID TV ได้ด้วยเช่นกันรูปภาพประกอบบทความจาก Official Twitter: Netflix Koreaภาพหน้าปก | ภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 2 | ภาพประกอบที่ 3 | ภาพประกอบที่ 4 | ภาพประกอบที่ 5 | ภาพประกอบที่ 6 | ภาพประกอบที่ 7 | ภาพประกอบที่ 8 | ภาพประกอบที่ 9 | ภาพประกอบที่ 10 | ภาพประกอบที่ 11บทความแนะนำจากผู้เขียน- รีวิวซีรีส์ Rookie Cops ลัดเลาะรอบรั้วมหาวิทยาลัยตำรวจ ไล่กวดความฝันไปกับ คังแดเนียล x แชซูบิน- รีวิว Ghost Doctor ซีรีส์แฟนตาซีการแพทย์จาก เรน x คิมบอม เมื่อหมอผีสิงร่างหมอคน ความอลวนจึงบังเกิด- รีวิวซีรีส์ Bulgasal วิญญาณอมตะ อีจินอุค x ควอนนารา กับการล้างแค้นข้ามชาติของปีศาจในตำนานเกาหลีอัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ,ฟรี