ตลาดหนัง BKKIFF 2025 ปิดฉากคึกคัก เชื่อมต่อโอกาสระดับโลกให้นักสร้างสรรค์ของวงการหนังไทย
ปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่กับ ตลาดหนัง กิจกรรมไฮไลต์ของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2568 หรือ Bangkok International Film Festival 2025 (BKKIFF 2025) ภายใต้การสนับสนุนของ กระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และ THACCA (Thailand Creative Culture Agency) ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการก้าวสู่เวทีโลก และตอกย้ำบทบาทของกรุงเทพมหานครในการเป็นศูนย์กลางภาพยนตร์และวัฒนธรรมร่วมสมัยของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยตลาดหนัง ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 – 4 ตุลาคม 2568 มีทีมผู้ผลิตภาพยนตร์ของไทยกว่า 50 บริษัทร่วมออกบูธ นอกจากนี้ในงานยังมีการประกวดโปรเจ็กภาพยนตร์ทั้งจากเอเชียและประเทศ รวมถึงงานเสวนา และมาสเตอร์คลาสจากผู้เชี่ยวชาญในวงการอีกมากมาย
นางสาวพิมพกา โตวีระ Executive Director เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2568 กล่าวว่า “ตลาดหนัง เป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้สร้างหนังชาวไทยและนักลงทุนจากทั่วโลกได้มาแลกเปลี่ยนและต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจด้านภาพยนตร์และซีรีส์ในระดับนานาชาติ ซึ่งในงานเทศกาลภาพยนตร์อื่น ๆ ที่ต่างประเทศ ตลาดหนังเป็นกิจกรรมที่นักทำหนังจากทุกมุมโลกเฝ้ารอ การกลับมาของ BKKIFF 2025 ครั้งนี้ เราจึงให้ความสำคัญกับตลาดหนังเป็นพิเศษ สอดคล้องกับเป้าหมายของการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์ที่ต้องการให้กรุงเทพก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางภาพยนตร์และวัฒนธรรมร่วมสมัยของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเครือข่ายและโอกาสทางธุรกิจที่แข็งแรง พร้อมเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสนับสนุนนักสร้างสรรค์ชาวไทยให้ก้าวสู่เวทีนานาชาติ”
นายเฌโรม ปายยาร์ (Jérôme Paillard) ที่ปรึกษาพิเศษของงานตลาดหนัง กล่าวว่า “ตลาดหนังมีบทบาทสำคัญในการสร้างพื้นที่ทางธุรกิจแก่ภาคอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างผู้สร้าง ผู้จัดจำหน่าย นักลงทุน และผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่าง ๆ อันนำไปสู่การเจรจาซื้อขายสิทธิ์ การร่วมลงทุน และการผลิตภาพยนตร์ข้ามชาติ อีกทั้งยังเป็นเวทีสำคัญในการเพิ่มช่องทางการสนับสนุนด้านทุนแก่ผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้าง เสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ตลอดจนยกระดับศักยภาพบุคลากรในวงการ โดยในปีนี้ มีทีมผู้ผลิตภาพยนตร์และนักสร้างสรรค์ในประเทศไทยกว่า 50 บริษัทเข้าร่วมงาน และมีนักลงทุนจากทั่วโลกมากมายให้ความสนใจผลงานของคนไทย ที่ขึ้นชื่อว่ามีเอกลักษณ์และแตกต่างจากงานภาพยนตร์ที่อื่น”
ตลอด 4 วันเต็มของงานตลาดหนัง มีการจัดเสวนา พูดคุย แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องในวงการมาร่วมพูดคุยมากมายในหลากหลายประเด็น อาทิ ภาพยนตร์ไทยและโอกาสทางเศรฐกิจไทย แบรนด์กับการลงทุนในคอนเทนต์ไทย การตัดสินใจลงทุนการผลิตภาพยนตร์ อนาคตของวงการภาพยนตร์เมื่อการเสพคอนเทนต์ของคนไทยเปลี่ยนไป รวมไปถึงการสร้างกรุงเทพมหานครให้เป็นหมุดหมายของการผลิตภาพยนตร์ของภูมิภาค ซึ่งงานเสวนาแต่ละครั้ง มีผู้เข้าร่วมฟังและแสดงความคิดเห็นกันอย่างคับคั่ง
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมาสเตอร์คลาสจากผู้กำกับและนักแสดงระดับโลกที่ผลัดเปลี่ยนกันมาแบ่งปันความรู้ให้กับนักสร้างภาพยนตร์ชาวไทยอีกด้วย อาทิ คลาส Film After Another ที่ได้ ใหม่ ดาวิกา โอร์เน ได้มาเปิดเผยถึงหลักแนวคิดและเทคนิคการแสดงเชิงลึก ที่ผลักดันให้เธอก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดงระดับสากล และคลาส Make your film go international ที่ได้ เฌโรม ปายยาร์ ที่ปรึกษาพิเศษของตลาดหนัง มาบอกเคล็ดลับการทำให้ภาพยนตร์สามารถเดินทางไปได้ไกลในต่างประเทศ
งานตลาดหนังในครั้งนี้ ยังมีการจัดประกวดโปรเจ็กภาพยนตร์ เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตคอนเทนต์นำเสนอโปรเจ็กต่อผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อชิงเงินรางวัลรวมกว่า 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยโปรเจ็คภาพยนตร์จากเอเชียมีผู้เข้าร่วมนำเสนอ 106 โปรเจ็ก ซึ่งผู้ชนะรางวัล Grand Prize ได้แก่ Unholy จากประเทศอินโดนีเซีย โดยผู้กำกับ M. Reza Fahriyansyah และโปรดิวเซอร์ Amerta Kusuma ขณะที่โปรเจ็กจากประเทศไทย มีผู้เข้าร่วม 51 โปรเจ็ก ซึ่งผู้ชนะรางวัล Grand Prize ได้แก่ ด้วยรักและปลาทู โดยผู้กำกับ ชนสรณ์ มาเขียว และโปรดิวเซอร์ จินนะ คงมา ไม่เพียงเท่านี้ สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ร่วมกับ Purin Film Fund โครงการให้ทุนภาพยนตร์เพื่อสนับสนุนภาพยนตร์อิสระในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังได้มอบรางวัลพิเศษให้โปรเจ็กภาพยนตร์อีก 2 โปรเจ็ก นั่นก็คือ ดาหลากาลี โดย ผู้กำกับ ชานนท์ ตรีเนตร แลโปรดิวเซอร์ ณจรี รัตนเจียเจริญ และ Build to Order จากประเทศสิงคโปร์ โดย ผู้กำกับ Huang Junxiang และ โปรดิวเซอร์ Sam Chua Weishi
เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2568 จะจัดขึ้นถึง 15 ตุลาคม 2568 ณ โรงภาพยนตร์ในเครือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, เอส เอฟ ซีเนม่า, เฮ้าส์ สามย่าน และลิโด้ คอนเน็คท์ โดยพิธีปิดเทศกาลจะจัดขึ้นวันที่ 15 ตุลาคม 2568 และจะจัดฉายภาพยนตร์ KOKUHO จากประเทศญี่ปุ่นเป็นภาพยนตร์ปิดเทศกาล
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa