Movie Review Kingdom 4: Return of the Great General (2024) มหาสงครามกู้แผ่นดิน: ยอดขุนศึกคืนสมรภูมิ อลังการสานต่อฝันอันยิ่งใหญ่สไตล์มังงะที่จัดหนักจัดเต็มความมันส์บันเทิงไม่ยั้งทั้งยังไม่ทิ้งหัวใจในแบบที่เคยและดีกว่าเดิมในเรื่องพัฒนาการ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ในฐานะที่โตมากับหนังจีนตั้งแต่ครั้งยังเด็กกับหนังกลางแปลงหนังขายยาโตมาในยุคที่หนังจีน (ฮ่องกง) ครองตลาดบ้านเราไม่เคยคิดแม้สักนิดว่าจะมาได้ติดตามและรอคอยหนังจีนที่สร้างโดยญี่ปุ่น เอาจริงคือปัจจุบันผู้เขียนไม่ค่อยได้ติดตามหนังจีนกำลังภายในจากทางจีนแผ่นดินใหญ่หรือฮ่องกงเลยอาจเพราะอายุมากขึ้นจริตที่มีเริ่มไม่ตรงกับหนังจีนในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะหนังอิงประวัติศาสตร์นี่ของโปรดเลยทั้งหนังใหญ่และหนังจีนชุดแต่ปัจจุบันเมื่อไม่ได้ติดตามจึงไม่ทราบพัฒนาการของทางจีนว่าเป็นอย่างไรและคงไม่ก้าวก่ายไปวิจารณ์ เพราะการไม่ได้ติดตามแล้วไปวิจารณ์หรือยกมาเปรียบเทียบก็คงไม่ยุติธรรมนักเลยต้องย้อนกลับมาที่การติดตามหนังจีนผ่านงานสร้างจากญี่ปุ่นเพราะส่วนหนึ่งผู้เขียนชอบดูงานญี่ปุ่นมากกว่าจีนแล้ว และสำหรับเรื่องนี้ยอมรับว่าต้องใช้ภาษาวัยรุ่นข้างบ้านว่าทำถึงตั้งแต่ภาคแรกและเป็นงานสร้างจากมังงะอย่างที่ญี่ปุ่นถนัด แต่หนังก็ออกมาบันเทิงอย่างคุ้มค่ากับการเสียเวลาถ้ายังไม่พอคงต้องบอกว่าเป็นมาทั้งสามภาคจนมาถึงภาคนี้ภาคสี่เข้าไปแล้ว หลังจากที่ชิน (เคนโตะ ยามาซากิ) ได้คุมหน่วยทหารฮิชินและได้สร้างวีรกรรมร่วมกับเคียวไค (นานะ เซอิโนะ) สหายร่วมเป็นร่วมตายก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องพาหน่วยทหารของเขาไปรบพร้อมกับแม่ทัพโอกิ (ทาคาโอะ โอซาวะ) แต่ก่อนที่จะได้เข้าสู่สมรภูมิชินและพวกพ้องต้องเผชิญหน้ากับนักรบลึกลับนามว่าโฮเคน (โคจิ คิคคาวะ) ที่มีอดีตต้องสะสางกับแม่ทัพโอกิจนหน่วยฮิชินเหลือกำลังพลเพียงครึ่งเดียวแถมชินกับเคียวไคแทบเอาชีวิตไม่รอด จนเมื่อชินพาพวกที่เหลือมาสมทบกับแม่ทัพโอกิเพื่อต้านทานกองทัพของแคว้นจ้าวเรื่องก็เปิดเผยอดีตของแม่ทัพโอกิที่มีความแค้นที่อัดฝังแน่นในอกลูกผู้ชายกับโฮเคนที่เป็นแม่ทัพแคว้นจ้าวและทั้งคู่ต้องห้ำหั่นถ้าท่านไม่ตายก็คือข้าม้วย ทว่านั่นกลายเป็นการต้องกลศึกของแม่ทัพตัวจริงที่เชี่ยวชาญพิชัยสงครามนามว่าริโบคุ (ชุน โอกุริ) ที่ยกทัพใหญ่มาตลบหลังหมายจะโค่นและสังหารขุนพลที่แกร่งที่สุดอย่างแม่ทัพโอกิที่ลงสู่สนามรบอีกครั้ง แล้วกองทัพแคว้นฉินของแม่ทัพโอกิร่วมถึงชินจะรอดจากกับดักแห่งความตายนี้ไปได้อย่างไรนะ มากคนแต่ไม่มากความเล่าตามที่เคยเล่าเพราะทิศทางถูกขีดไว้ชัดแล้วจนแม้จะมีมากมายตัวละครแต่ไม่ซับซ้อนวุ่นวาย เมื่อนี่คือการมาเป็นภาคที่สี่สิ่งที่ตามมาคือตัวละครจะต้องมากขึ้นเพราะตัวละครเก่าก็ยังอยู่ครบตัดใครก็ไม่ได้เพราะสำคัญหมดตามสไตล์มังงะ และแน่นอนเมื่อเรื่องเดินไปไกลขึ้นตัวละครใหม่ย่อมต้องมีที่เข้ามามีบทบาททำให้มากคนแต่ที่ต้องชื่นชมคือมากคนแต่ก็ไม่มากความ นั่นเพราะนี่คือการมาครั้งที่สี่แล้วทิศทางของเรื่องชัดแล้วว่าจะไปทางไหนกับเรื่องการเดินตามฝันอันยิ่งใหญ่ด้วยการเป็นแม่ทัพที่แกร่งที่สุดในปฐพี ทั้งยังเล่าบนพื้นฐานของประวัติศาสตร์การรวมชาติจีนก่อนที่จะมาเป็นจิ๋นซีฮ่องเต้ที่เรื่องมันถูกขีดไว้แล้วว่าเมื่อจะรวบรวมแผ่นดินก็ต้องออกสู่โลกกว้างเพื่อที่จะพาไปสู่การต่อสู้ในสมรภูมิด้วยกลศึกพิชัยสงคราม ดังนั้นสิ่งที่เห็นอาจเรียกได้ว่าเหมือนการหยิบเอาภาคที่สองสามมาเล่าใหม่โดยเปลี่ยนมิติเชิงกลยุทธและสมรภูมิโดยยังมีแกนของเรื่องอยู่ที่ชินจนสิ่งที่เป็นคือเรื่องยังเป็นระเบียบเดินไปอย่างมีทิศทางไม่พยายามซับซ้อนวุ่นวายและมันดี กลายเป็นยกระดับขึ้นมาอีกขั้นที่คราวนี้มีมิติมากขึ้นกับพิชัยสงครามและเรื่องหัวใจในเบื้องหลัง สิ่งที่ดูดีขึ้นกว่าสามภาคที่ผ่านมาคือความสมดุลระหว่างการรบกับมิติเชิงลึกของตัวละครในเรื่องของหัวใจ เพราะชื่อเรื่องก็บอกไว้โต้งๆแล้วว่านี่คือการกลับสู่สนามรบของยอดขุนศึกที่เป็นตำนานที่มากันสองคนเพื่อที่จะมาประหัตประหารกัน สิ่งที่เป็นคือการเลือกเล่าพื้นฐานว่าทำไมคนสองคนจึงแค้นกันได้ขนาดนี้โดยมีความแค้นเป็นพลังผลักดันให้ห้ำหั่นกันจนตายไปข้างสิ่งที่ตามมาคือคนดูจะรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนและนั่นทำให้ภาคนี้มีหัวใจมากกว่าสามภาคที่ผ่านมา เพราะเอาจริงเมื่อถึงเวลาจะจับใจสามภาคที่ผ่านมายังทำไม่ได้แม้จะพยายามซึ้งบ้างแต่บางครั้งกลายเป็นหลุดขำไปได้ตามสไตล์งานสร้างจากการ์ตูน ส่วนในเรื่องการศึกสงครามก็ยังไม่ละทิ้งแม้จะไม่ซับซ้อนก็เห็นว่ามีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงที่แบ่งแยกหัวใจคนดูให้เลือกข้าง นั่นเพราะการพยายามเล่นกับหัวใจคนดูแล้วเมื่อทำได้สิ่งที่ตามมาคืออารมณ์ลุ้นระทึกในทุกนาทีชีวิตของตัวละครนั่นเพราะตัวละครได้เข้าไปอยู่ในใจคนดูแล้ว ผลที่ได้คือหนังเดินหน้าเต็มกำลังเต็มไปด้วยความฮึกเหิมทั้งยังอัดฉากดวลง้าวที่สุดระทึกมาเป็นความบันเทิงชั้นยอด จะว่าไม่ปูก็ใช่ที่เพราะยังมีการย้อนไปเล่าอดีตในส่วนของแม่ทัพโอกิเพียงแต่ส่วนนั้นที่เป็นเบื้องหลังเชิงลึกมันไปด้วยกันได้กับความบันเทิงที่ฉากหน้า นั่นคือแม้จะเป็นการเดินหน้าแล้วหยุดมาเล่าแต่ความรู้สึกขัดใจไม่มีไม่เหมือนกับภาคแรกที่ชั้นเชิงแบบนี้กระตุกเรื่องให้เดินไปไม่นุ่มนวล แต่กับภาคนี้คือทั้งสองส่วนไปกันได้ดีเหมือนมีการพยายามปรับจูนให้ลงตัวขึ้นอีกระดับทำให้เรื่องเดินหน้าไปอย่างเร็วไม่ต่างจากม้าศึกที่คึกคะนอง ประกอบกับงานดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ที่สร้างความฮึกเหิมในใจแม้ว่าแก่นของเรื่องอาจไม่ใช่เพื่อชาติบ้านเมืองแต่เป็นฝันเล็กๆที่ยิ่งใหญ่ของทาสคนหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรื่องไปเร็วเพื่อไปหาฉากรบที่ตื่นตาเช่นเดิมด้วยงานด้านภาพที่ตื่นใจได้แถมยังมีฉากแอ็กชันสำคัญคือการดวลง้าวกันของสองขุนพลประจัญบานผู้ยิ่งใหญ่ที่ฉวัดเฉวียนตื่นเต้นเร้าใจลุ้นตามทุกการกวัดแกว่งที่สุดระทึกใจทำให้กลายเป็นความบันเทิงชั้นยอดเต็มอิ่มอารมณ์ยิ่งนัก เพราะเล่าเรื่องของขุนพลผู้เป็นตำนานที่กลับลงสนามรบด้วยตัวเองอีกครั้งพลังจึงเปลี่ยนแต่ไม่เสียหายอะไร ทั้งคันนะ ฮาชิโมโตะ,มาซามิ นากาซาวะและอีกหลายคนที่มีบทเด่นในสามภาคที่ผ่านมาที่มาภาคนี้มีเวลาบนจอเพียงน้อยนิด แต่ก็อย่างที่บอกคือตัวละครใหม่ที่เข้ามามีบทบาทก็มากตัวละครเก่าก็ยังอยู่ทำให้เวลาของแต่ละคนเหลือน้อยเช่นชุน โอกุริ ส่วนที่เสริมเขามาคือยูโกะ อารากิที่อาจเรียกได้ว่าเริ่มขนนักแสดงแนวหน้ามาเข้าสู่แฟรนไชส์มากขึ้นที่แม้บทจะไม่มากแต่มีพลังดึงดูดสายตาและสะกดหัวใจเป็นพื้นฐานชั้นเยี่ยมให้ดราม่าเบื้องหลังครั้งนี้ เพราะนี่คือการเล่าเรื่องของแม่ทัพโอกิที่คนดูไม่เคยรู้มาก่อนทำให้ความเด่นไปอยู่ที่ทาคาโอะ โอซาวะซึ่งเขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างคู่ควรก่อนที่เมื่อถึงเวลาจับใจเขาก็ทำได้เยี่ยมแม้จะเป็นบทสนททนาในแบบมังงะเต็มทน แล้วเมื่อบทเด่นไปอยู่ที่แม่ทัพโอกิตัวละครเอกอย่างชินของเคนโตะ ยามาซากิก็ต้องลดบทบาทลงรวมถึงเคียวไคของนานะ เซอิโนะและพระราชาเอเซของเรียว โยชิซาวะที่ถอยไปมากกว่าเพื่อนอีก จากที่เคยรู้ว่าจะลงเอยยังไงกลายเป็นไม่รู้ว่าจะออกหน้าไหนทำให้เรื่องของหัวใจเมื่อความพลิกผันสร้างอารมณ์ร่วมได้อย่างเต็มขั้น นี่คือความบันเทิงที่จัดหนักอาจเพราะเรื่องมีพัฒนาการขึ้นในทุกทางทั้งชั้นเชิงการจับใจคนดูความลื่นไหลจนถ้าจะว่าไปก็แทบไม่มีอะไรให้ติ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่หนังมีทิศทางที่ชัดเพราะเรื่องแบบนี้ก็ต้องออกมาแบบนี้จะผิดไปจากนี้ก็คงไม่ใช่หนัง Kingdom แล้วเมื่อชั้นเชิงที่ง่ายๆถูกเอามาใช้บนพื้นฐานทางอารมณ์ที่จับต้องสัมผัสได้ความพลิกผันใดๆที่ใส่เข้ามาก็ทำงานของมันอย่างได้ผลเพราะคนดูก็ลุ้นระทึกเต็มขั้น ยังไม่ลืมความตื่นเต้นในฉากต่อสู้หรือฉากรบที่มันส์เต็มพิกัดนั่นเพราะภาคนี้ดูลงตัวขึ้นด้วยพัฒนาการของเรื่อง สิ่งที่ตามมาคือจากที่ดูภาคก่อนๆมาจะพอรู้ว่าเรื่องราวจะไปสิ้นสุดลงยังไงตรงไหนแต่พอมาภาคนี้ไม่รู้เลยว่าจะออกมาหน้าไหนทำให้ความบันเทิงที่มีให้กลายเป็นความคุ้มค่า กระนั้นเมื่อถึงเวลาสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดก็ต้องเกิดก็ต้องทำใจกันไปเพื่อที่จะรอภาคใหม่ถ้ามีมาแม้ว่าถ้าจะจบลงตรงนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7,8 จาก Instagram kingdom_movie อ่านบทความรีวิว Kingdom ทั้งสามภาคได้ที่นี่ https://entertainment.trueid.net/detail/jDBX7gvq7rYJ https://entertainment.trueid.net/detail/6Gz01KEjgmg7 https://entertainment.trueid.net/detail/x3ayQg6bQdP3 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !