ในปี 2025 โลกภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่กลับมาสั่นสะเทือนอีกครั้งกับการเปิดตัว Superman (2025) ผลงานที่ James Gunn นั่งแท่นกำกับและเขียนบทด้วยตนเอง ถือเป็นการรีบูตจักรวาล DCU อย่างเป็นทางการ เปิดบทใหม่ที่ถูกจับตามองจากทั้งแฟนหนังและแฟนการ์ตูนทั่วโลกครับ เรื่องนี้ไม่ใช่เพียงแค่การนำซูเปอร์แมนกลับมาสวมผ้าคลุมสีแดงอีกครั้ง แต่ยังเป็นการปักธงครั้งสำคัญของ DC Studios หลังการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! https://www.facebook.com/reel/1282044603297185?locale=th_TH จากที่ผู้เขียนได้ชมนะครับ ต้องบอกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยทั้งความมันส์ ความเข้มข้นทางอารมณ์ และการตีความตัวละครที่ลึกซึ้งกว่าเดิม นี่คือซูเปอร์แมนที่ผู้อ่านทุกท่านครับ อาจไม่เคยเห็นมาก่อน—ทั้งด้านที่เป็นฮีโร่ผู้เสียสละและด้านที่ต้องต่อสู้กับสายตาสังคมที่ไม่ไว้วางใจในตัวเขา เรื่องย่อโดยสรุป เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Clark Kent / Superman (David Corenswet) พยายามยับยั้งสงครามระหว่างสองประเทศเล็ก ๆ อย่าง Boravia และ Jarhanpur แต่การแทรกแซงครั้งนี้กลับนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจ และทำให้เขาต้องเผชิญแรงกดดันจากทั้งรัฐบาลและสาธารณชน ศัตรูหลักในภาคนี้คือ Lex Luthor (Nicholas Hoult) มหาเศรษฐีอัจฉริยะผู้เต็มไปด้วยความริษยา เขาวางแผนชักใยเบื้องหลังความขัดแย้ง และยังสร้างคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งขึ้นมาเพื่อทำลายซูเปอร์แมน ทั้ง Ultraman และ The Engineer ซึ่งทำให้ Clark ต้องเจอกับการพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ ท่ามกลางการต่อสู้ Superman ยังต้องเผชิญความจริงที่สั่นคลอนจิตใจ เมื่อข้อความจากพ่อแม่ชาว Krypton ที่ถูกซ่อนเอาไว้มายาวนานถูกเปิดเผย เนื้อหานั้นกลับไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากได้ยิน — การเรียกร้องให้ครอบครองโลกและฟื้นฟูเผ่าพันธุ์ Kryptonian จากนั้นเรื่องราวก็ขยายใหญ่ขึ้นด้วยการหักหลัง การเปิดโปง และการรวมพลังของเหล่าฮีโร่หน้าใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Green Lantern, Mister Terrific และ Hawkgirl จนกลายเป็นการต่อสู้ครั้งสำคัญเพื่อศรัทธาและความหวังของมนุษยชาติ นักแสดงและบทบาท David Corenswet รับบท Clark Kent / Superman — ถ่ายทอดความเป็นซูเปอร์แมนรุ่นใหม่ที่อบอุ่นและจริงใจ แต่ก็มีความเปราะบางด้านจิตใจ Rachel Brosnahan รับบท Lois Lane — นักข่าวสาวคนเก่ง ผู้ยืนหยัดเคียงข้างซูเปอร์แมนและท้าทายเขาด้วยคำถามเชิงศีลธรรม Nicholas Hoult รับบท Lex Luthor — วายร้ายผู้ทรงเสน่ห์ เต็มไปด้วยไหวพริบ และเปี่ยมไปด้วยความริษยาที่ซับซ้อน Edi Gathegi รับบท Mister Terrific — ฮีโร่อัจฉริยะผู้มอบสมการใหม่ ๆ ให้กับทีมฮีโร่ Nathan Fillion รับบท Green Lantern — เพิ่มสีสันให้กับทีมด้วยพลังแห่งจินตนาการและอารมณ์ขัน Isabela Merced รับบท Hawkgirl — นักรบผู้แข็งแกร่งและน่าเกรงขาม ในมุมมองผู้เขียนนะครับ ทุกการแสดงล้วนช่วยยกระดับภาพยนตร์ โดยเฉพาะ David Corenswet ที่สามารถแสดงความเป็น “มนุษย์” ในตัวซูเปอร์แมนได้อย่างลึกซึ้งกว่าที่เคยเห็น https://www.facebook.com/reel/714824891560009?locale=th_TH 5 เหตุผลที่ไม่ควรพลาด Superman 2025 1. การรีบูตที่สดใหม่และมีเอกลักษณ์ นี่ไม่ใช่เพียงการเล่าเรื่องซูเปอร์แมนซ้ำ ๆ แต่ James Gunn นำเสนอภาพของ Clark Kent ที่สมจริง มีข้อบกพร่อง และต้องเผชิญคำถามทางศีลธรรมตลอดเวลา 2. นักแสดงที่ทรงพลัง การแสดงของ David Corenswet และ Rachel Brosnahan ทำให้คู่ Clark–Lois มีมิติใหม่ สัมผัสได้ถึงความรักและความเชื่อมั่น ขณะเดียวกัน Nicholas Hoult ก็ทำให้ Lex Luthor ดูทั้งฉลาดและน่ากลัวไปพร้อมกัน 3. แอ็กชันสุดอลังการ ฉากการต่อสู้กับ Ultraman และการปรากฏตัวของ Krypto รวมถึงทีม Justice Gang ล้วนถูกถ่ายทอดด้วยงานวิชวลเอฟเฟกต์ที่ยิ่งใหญ่แต่ไม่ล้นเกินไป 4. ประเด็นลึกซึ้งด้านศีลธรรม หนังหยิบยกคำถามว่า “การที่ซูเปอร์แมนแทรกแซงการเมืองโลกถูกหรือผิด?” ทำให้เรื่องนี้ไม่ได้มีดีแค่บู๊ แต่ยังชวนให้คิดต่อครับผม 5. การเปิดจักรวาล DCU บทใหม่ นี่คือก้าวแรกของ Chapter One: Gods and Monsters ซึ่งปูทางไปสู่เรื่องราวอีกมากมาย แฟน DC ไม่ควรพลาดครับ https://www.facebook.com/reel/673615882415556?locale=th_TH ความรู้สึกหลังจากที่ได้รับชม จากที่ผู้เขียนได้ชมนะครับ ต้องบอกเลยว่า Superman (2025) มีครบทั้งความบันเทิงและสาระ ความสนุกของหนังไม่ได้อยู่แค่ฉากต่อสู้ แต่ยังอยู่ที่การเล่าเรื่องอย่างมีชั้นเชิง ทุกฉากที่ Superman ต้องต่อสู้กับการตัดสินใจของตัวเองทำให้เรารู้สึกเอาใจช่วยและผูกพันกับเขามากขึ้น ตัวละครที่ผู้เขียนชอบที่สุดคือ Krypto เพราะนอกจากจะเป็นคู่หูที่น่ารักแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์และความหวังครับ การดำเนินเรื่องและความน่าติดตาม หนังดำเนินเรื่องด้วยจังหวะที่กระชับ แม้บางช่วงอาจมีตัวละครเยอะจนรู้สึก “แน่น” ไปบ้าง แต่โดยรวม James Gunn สามารถบาลานซ์ได้ดี ทำให้เรารู้สึกอยากติดตามต่อว่าภาคหน้า DCU จะพัฒนาไปทางไหน ความประทับใจส่วนตัว สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือ การตีความใหม่ที่ไม่ทิ้งแก่นเดิมของ Superman เขายังเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง แต่คราวนี้เราได้เห็นด้านที่เป็น “มนุษย์ธรรมดา” มากขึ้น ทั้งความผิดหวัง ความเจ็บปวด และความรักที่จริงใจ การวิเคราะห์ในมุมมองผู้เขียน ในมุมมองผู้เขียนนะครับ Superman (2025) ไม่เพียงแค่เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ แต่ยังสะท้อนสังคมปัจจุบันที่มีความซับซ้อน การตั้งคำถามต่อ “ผู้มีอำนาจ” และ “การใช้กำลังเพื่อสันติภาพ” ถือเป็นสิ่งที่เข้ากับโลกจริงในยุคนี้มาก ๆ James Gunn แสดงให้เห็นว่าการเป็นฮีโร่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะได้รับการยกย่องเสมอไป บางครั้งการกระทำที่ถูกต้องอาจถูกตีความว่าเป็นภัยคุกคามก็ได้ครับ https://www.facebook.com/reel/639052169251013?locale=th_TH ให้คะแนนจากผู้เขียน งานกำกับ: ⭐⭐⭐⭐☆ (4.5/5) การแสดง: ⭐⭐⭐⭐⭐ (5/5) บทภาพยนตร์: ⭐⭐⭐⭐☆ (4.5/5) ความสนุกและความประทับใจ: ⭐⭐⭐⭐⭐ (5/5) สรุป: 9.5/10 คะแนน คุ้มค่ากับการรอคอยและไม่ควรพลาดครับผม ช่องทางการรับชมนะครับ ฉายแล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์ ภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก จาก Superman ภาพที่ 1 จาก Superman ภาพที่ 2 จาก Superman ภาพที่ 3 จาก Superman ภาพที่ 4 จาก Superman จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !