Movie ReviewTransformers: Rise of the Beasts ทรานส์ฟอร์เมอร์ส: กำเนิดจักรกลอสูร (2023)อัดความบันเทิงมาเต็มสูบแต่เหมือนไม่เหลืออะไรให้เล่นจึงเป็นการถูๆไถๆปนแถๆให้มีทางไปแต่มันไม่ตื่นใจเสียแล้วเมื่อปี 2007 การขึ้นจอของหนังรถแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ที่สร้างมาจากของเล่นและเป็นการ์ตูนที่ดังพอตัวในนามของ Transformers นับว่ามาเขย่าชีพจรของโลกภาพยนตร์ เพราะนอกจากจะเติมเต็มจินตนาการของทั้งเด็กและผู้ใหญ่โดยเฉพาะผู้ชายที่ได้เห็นรถสวยๆเท่ๆมาแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์แบ่งข้างสู้กันโดยมีมนุษย์ตัวจ้อยเป็นตัวแปร ซึ่งจะว่าไปก็ไม่ต่างจากการเอาจินตนาการการเล่นของเล่นของเด็กผู้ชายมาขึ้นจออย่างสมจริงแล้วที่มีมากกว่านั้นมันดันเป็นความบันเทิงที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย แน่นอนเมื่อหนังได้ทั้งเงินทั้งเสียงวิจารณ์ที่ดีจึงมีภาคต่ออกมาเรื่อยๆแต่ก็ตามธรรมชาติคือภาคหลังๆมาคุณภาพและความบันเทิงชักจะสาละวันเตี้ยลงเพราะไม่เข้าใกล้ความยอดเยี่ยมในภาคแรกได้อีกเลย จนสุดท้าย Transformers: The Last Knight (2017) ก็กลายเป็นความล้มเหลวทุกทางจนคิดว่าแฟรนไชส์นี้คงหมดอนาคตแล้ว แต่แล้วการมาของ Bumblebee (2018) ที่เหมือนมาปลุกชีพอีกครั้งเพราะหนังออกมาสนุกจนกระทั่งมีภาคนี้ออกมา กระนั้นในสายตาของคนที่ดูมาตั้งแต่ภาคแรกทุกภาคอย่างผู้เขียนกลับมองออกมาดังนี้ณ มหานครนิวยอร์ค Noah Diaz (Anthony Ramos) อดีตพลทหารแห่งกองทัพสหรัฐกำลังพบกับมรสุมชีวิตเมื่อฐานะการเงินกำลังย่ำแย่จนไม่มีค่ารักษาอาการป่วยของน้องชาย จนเมื่อเข้าตาจนเขาจึงรับงานขโมยรถ Porche แต่กลายเป็นว่าความซวยมาเยือนเมื่อรถคันนั้นเป็นหนึ่งในพวก Autobots ชื่อว่า Mirage ในขณะเดียวกันที่พิพิธภัณฑ์วัตถูโบราณได้ถูกค้นพบแต่ด้วยความบังเอิญ Elena Wallace (Dominique Fishback) ได้พบวัตถุประหลาดที่กลายเป็นกุญแจที่จะกลับสู่ดาวบ้านเกิดของเหล่า Autobots ดังนั้นผู้นำ Autobots คือ Optimus Prime จึงเรียกรวมพลเพื่อไปชิงเอากุญแจนั้นมารวมถึง Mirage และ Noah ทว่าฝ่ายของ Unicron ผู้กระหายในการกลืนกินดวงดาวก็ส่งสมุนตัวร้ายคือ Scourge มาแย่งชิงด้วย และ Scourge ชิงมันไปได้แต่กลายเป็นว่านั่นคือกุญแจครึ่งเดียวทำให้ Scourge และพวกต้องไปตามหากุญแจอีกครึ่งเพื่อให้ Unicron กลืนกินโลกซึ่งก็คือจุดสิ้นสุดของมวลมนุษยชาติ อย่ากระนั้นเลย Noah กับ Elena จึงต้องร่วมมือกับ Optimus Prime เพื่อยับยั้งหายนะและกู้โลก (ตามเคย)พยายามอย่างยิ่งในการถูๆไถๆปนแถๆให้หุ่นยนต์ต่างดาวมาต่อยตีกันบนโลกซึ่งถ้าไม่คิดมากมันก็โอเคแต่มันดันห้ามไม่ได้ ในความคิดของผู้เขียนหนังชุดนี้มันจบไปตั้งแต่ภาคแรกแล้วเพราะมันลงตัวทุกอย่างแต่ภาคสองก็ไม่ขี้เหร่ จนเมื่อมีภาคสามก็พอไหวแต่หลังจากนั้นมาเหมือนเป็นการสร้างมาเพื่อโกยเงินแบบตีหัวเข้าบ้านยิ่งภาคสุดท้ายยิ่งไปกันใหญ่ กระนั้นหลังจากทำลาย The Cube ในภาคแรกที่เป็นแรงจูงใจที่แน่นพอแล้วเมื่อมีการสานต่อมาโดยการหาข้ออ้างนู่นที่นั่นเพื่อให้เป็นความชอบธรรมของการต่อสู้ ทำให้หลังๆเริ่มคิดว่ามันจะอะไรกับโลกนักหนาจนมาภาคนี้ที่จะมองว่าเป็นการสานต่อจักรวาลใหม่ก็คงใช่เมื่อเหมือนต่อยอดมาจาก Bumblebee (2018) แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นกระทั่งการที่ Michael Bay ปล่อยมือจากการกำกับแต่ไอเดียกลับไม่ได้มีอะไรดีขึ้นเมื่อยังคงเป็นการหาความชอบธรรมให้หุ่นยักษ์ต่างดาวมายกพวกตีกันบนโลกโดยมีมนุษย์อยู่ตรงกลางไม่ต่างจากที่ผ่านมา แม้ถ้าว่ากันเฉพาะภาคนี้อาจจะใช้ได้แต่การที่หนังชุดนี้มันเดินทางมาไกลจึงไม่ต่างจากการพยายามถูไถจนกลายเป็นแถไปทำให้กลายเป็นเหมือนไม่เหลืออะไรให้เล่นให้เล่าเป็นของเก่าซ้ำเดิมเปลี่ยนแค่รูปลักษณ์ภายนอกที่ไม่มีอะไรให้ตื่นใจอีกแล้ว เพราะตั้งแต่ภาคแรกมาหนังชุดนี้ก็จะประมาณนี้ซึ่งถ้าจะมองด้วยความเข้าใจก็ได้แหละแต่เมื่อมันนานเกินไปและการทำใหม่ในเวลาที่ไม่นานพอผลก็จะออกมาประมาณนี้ หรือเอาง่ายๆคือคนที่เคยติดตามกันมาเริ่มหน่ายแล้วกับการหาเรื่องให้มาตีกันบนโลกเพราะออลสปาร์คก็ถูกทำลายไปแล้วตัวร้ายตัวฉกาจก็ตายไปแล้วยังจะมีอะไรอีก นั่นหมายความว่าการจบในเวลาที่ควรหรือตอนที่เป็นตำนานน่าจะสวยกว่าซึ่งในทัศนะก็ว่ากันที่ภาคสาม ซึ่งทุกภาคก็จะเล่าเรื่องแบบเดิมรวมถึงภาคนี้ที่ผ่านมาสิบหกปีแถมยังเหมือนเป็นการพยายามเริ่มต้นใหม่หรืออาจเรียกได้ว่ารีบูทเพราะมองไม่เห็นจุดเชื่อมโยงกับของเก่า แต่เรื่องก็ควรจะมีพัฒนาการมีความต่างไปบ้างเพราะพฤติกรรมของคนดูก็เปลี่ยนไปความบันเทิงที่ฉาบฉวยอย่างเดียวไม่ได้ผลแล้ว และกับภาคนี้คือแค่เปลี่ยนเวลาไปหายุค 90 และเปลี่ยนรูปแบบของหุ่นตัวหลักแต่ทุกอย่างยังคงเดิมจนกลายเป็นความจืดชืดที่ไม่เหลืออะไรให้ตื่นใจแต่ไม่ว่ายังไงก็ยังใส่ความบันเทิงมาเต็มสูบทำให้หนังน่าจะถูกใจคนดูรุ่นเล็กหรือคนที่ไม่ได้เสพซึ้งถึงความเจ๋งของภาคแรก เพราะถ้าตัดความรู้สึกของการเป็นคนที่เดินทางมาพร้อมกันตั้งแต่ต้นการได้ตื่นตาตื่นใจกับหนังภาคแรกที่เหมือนความฝันกลายเป็นจริงออกไปหนังก็ยังให้ความบันเทิงได้อย่างที่ควรเป็นได้สำหรับภาคนี้ ด้วยการไม่รีรอไม่เรื่องมากเดินหน้าไปสู่การฟาดปากกันของพวกหุ่นยักษ์ที่มีหลายสปีชีส์แต่มีเหตุผลเดียวกันและลงท้ายเหมือนเดิม แล้วฉากการต่อสู้ของพวกหุ่นก็ยังดูสนุกได้แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นคนที่ไม่เคยได้เสพซึ้งถึงวิญญาณการรังสรรจินตนาการในภาคแรกมา เพราะด้วยการเล่าเรื่องเค้าโครงต่างๆเหมือนเอาพิมพ์เขียวของภาคแรกมาปัดฝุ่นอย่างที่ว่าทำให้คนที่ได้ดูมาและเชื่อว่าไม่ต่ำกว่าสามรอบไม่มีทางไม่คิดถึง แน่นอนคนดูรุ่นเล็กที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่เกิดไม่ทันภาคแรกและการได้สัมผัสจินตนาการแบบนั้นในภาคนี้จะสนุกสุดๆ เพราะหนังยังชัดเจนที่จะเป็นแบบนั้นคือมาเติมเต็มจินตนาการและชัดเจนซื่อตรงที่จะมาเป็นความบันเทิงสุดตัวแล้วถ้าผ่านข้อแม้ที่ว่าไปหนังก็คือสนุกเลยแม้จะเป็นหนังหุ่นยนต์ที่หุ่นต้องเด่นกว่าคนแต่ตัวละครมนุษย์ก็น่าจะดีกว่านี้ไม่ใช่ไม่มีอะไรให้เอาใจช่วยเลย อย่างที่บอกคือถ้าคนที่เคยดูภาคแรกมาจะไม่มีทางไม่คิดถึงในส่วนของการแสดงก็เช่นกันเมื่อตัวละครมนุษย์ก็ไม่ต่างจากภาคแรก กระนั้นเมื่อดูจบมีใครจำชื่อนักแสดงหรือชื่อตัวละครได้ขึ้นใจบ้างเหมือนกับที่คนดูจำ Shia LaBeouf หรือ Megan Fox และแม้กระทั่งใครก็ไม่รู้ตอนนั้นอย่าง Josh Duhamel ส่วนในภาคนี้ก็เข้าใจแหละว่าหนังชุดนี้ก็เป็นแบบนี้คือการมาขายหุ่นยักษ์เท่ๆที่มาเติมเต็มจินตนาการดังว่าแต่เมื่อภาคแรกตัวละครมนุษย์ยังมีความน่าจดจำภาคนี้ก็ควรไปให้ถึงตรงนั้น แต่ที่เป็นกลายเป็นว่าตัวละครมนุษย์แต่ละคนไม่มีก็ไม่เสียหายเพราะไม่มีพลังดาราหรือความขึ้นกล้องการแสดงก็งั้นๆแถมบทในส่วนของมนุษย์ยังดูน่ารำคาญเป็นพักๆ ทำให้ในส่วนของนักแสดงหลักที่จะมาช่วยสนับสนุนความลึกของการกอบกู้โลกไม่มีอะไรให้ต้องจดจำเพราะต่อให้อยู่ในหนังระดับนี้ชื่อของ Anthony Ramos หรือ Dominique Fishback ก็ยังไม่อยู่ในหัวและที่เขียนถึงนี่คือการไปหาข้อมูลมาด้วยซ้ำถ้าไม่คาดหวังอะไรภาคนี้ยังคงเป็นงานที่ดุสนุกตื่นตาแต่ถ้าคิดสักนิดจะกลายเป็นความเฉยชาผ่านมาแล้วผ่านไป การดูหนังเรื่องนี้ให้สนุกอย่างเต็มที่จะขึ้นอยู่กับการคาดหวังของแต่ละคนแต่หนังระดับนี้มีใครไม่คาดหวังบ้าง และบอกตรงนี้เลยว่าผู้เขียนก็คาดหวังเพราะค่อนข้างตั้งตารอหนังลงสตรีมสักทีเพราะเอาจริงก็ปล่อยจอยไปนานแล้วกับการดูในโรง ซึ่งการไม่คาดหวังก็คือไม่ผิดหวังการดูหนังเรื่องนี้แบบปล่อยใจให้เพลิดเพลินไปกับมันหรือเป็นคนที่เพิ่งมีประสบการณ์แบบนี้มาครั้งแรกน่าจะสนุกสุดๆ เพราะทุกอย่างเอื้อให้เป็นแบบนั้นทั้งความตื่นตากับงานด้านเทคนิคที่ภาพสวยเนียนตาฉากต่อสู้ที่ตื่นเต้นเร้าใจตูมตามระเปิดภูเขา (จริงๆ) เผากระท่อมกันไป แต่อย่างที่บอกคือหนังเก่ามันดีเกินไปจนสลัดออกจากหัวไม่ได้เพราะเมื่อผู้เขียนดูเรื่องนี้จบก็เปิดดูหนังภาคแรกดูอีกครั้งเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ แล้วกลายเป็นว่าการดูหนังภาคแรกซ้ำกลายเป็นสนุกกว่าภาคใหม่ภาคนี้ซะงั้นเพราะการดูหนังภาคใหม่นี้หากฉุกคิดเพียงน้อยนิดจะกลายเป็นความเฉยชาและเชยจนกลายเป็นว่าเป็นหนังที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปดูไปบ่นไปhttps://www.youtube.com/watch?v=xpibSxNC1rU&ab_channel=UIPThailandขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 2,3,4,5,6,7,8 จาก Instagram lotteent.movieภาพที่ 1 จาก Instagram transformersmovieVDO ตัวอย่าง จาก YouTube UIP Thailand ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/3XJBoEL5G2LXhttps://entertainment.trueid.net/detail/3ED9bePnB7wlhttps://entertainment.trueid.net/detail/0o7jAdV9wmEGhttps://entertainment.trueid.net/detail/Ww31GKR0JJb9 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !