“ศรัทธาที่แกร่งกล้าที่สุด คือศรัทธาในความดี” เป็นคำคมปิดท้ายตอนจบจากหนังเรื่องขุนพันธ์ 2 ที่บ่งบอกถึงความเป็นขุนพันธ์ได้อย่างลึกซึ้งมากครับ ขุนพันธ์ 2 เป็นภาพยนตร์ไทย ที่เป็นภาคต่อจากหนังเรื่องขุนพันธ์ ในภาค 2 นี้เป็นตอนที่ขุนพันธ์ปราบโจรสุพรรณ และขุนพันธ์ได้แฝงตัวเข้าไปในกลุ่มของเสือฝ้ายและเสือใบ กลุ่มโจรที่ได้ชื่อว่าปล้นคนรวยช่วยคนจนภาพโดย สหมงคลฟิล์มหลังจากที่ขุนพันธ์ได้วิสามัญกำนันชั่วคนหนึ่งที่ฉ้อโกง และยักยอกของกลาง ขุนพันธ์จึงถูกสั่งพักราชการอย่างไม่มีกำหนด ระหว่างนั้นมีข่าวลือเสือฝ้ายออกปล้นไปทั่วสุพรรณบุรี และเพียงไม่นานลูกน้องของเสือฝ้ายก็บุกมาฆ่าเสมียนตำรวจตายไปหลายศพ ด้วยความรักชาติและทุ่มเทต่อหน้าที่ตำรวจ ถึงแม้จะถูกพักราชการ แต่ขุนพันธ์ก็ไม่ได้นิ่งเฉยที่จะออกสืบหาความจริง ขุนพันธ์ได้เดินทางไปยังสุพรรณบุรีและปลอมตัวเข้าไปในกลุ่มโจรเสือฝ้ายเพื่อหาโอกาสจับกุมภาพโดย สหมงคลฟิล์มหนังเรื่องขุนพันธ์ 2 นี้ดูแล้วนอกจากจะได้รับความสนุก ความมัน และระทึกใจแล้ว ยังได้แง่คิดหลายอย่างไว้สอนใจได้อีกด้วย โดยเฉพาะในเรื่องคุณธรรม ความดีและความซื่อสัตย์สุจริตของขุนพันธ์ และหนังยังมีความสนุกและความมัน แบบที่หนังไทยหาดูได้ยาก เช่น ในฉากต่อสู้ยิงกันและการใช้คาถาอาคม ที่สร้างความระทึกใจและตื่นเต้นได้อย่างน่าประทับใจ รวมทั้งหนังยังมีฉากรัก ฉากดราม่า การขับเคี่ยวกันทางการเมือง การแย่งชิงอิทธิพล ทำให้หนังมีความสนุกได้ในหลากหลายอรรถรสภาพโดย สหมงคลฟิล์มรวมทั้งหนังเรื่องขุนพันธ์ 2 นี้ยังสะท้อนให้เห็นสภาพสังคมในสมัยนั้น ที่เรียกได้ว่าโจรบางคนยังเป็นคนดีกว่าตำรวจ โจรคอยช่วยเหลือชาวบ้าน ตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐกลับกลายเป็นโจรปล้นชาวบ้านซะเอง ที่ดูแล้วปวดใจแทนก็ตอนที่ขุนพันธ์กับเสือใบถูกเสือฝ้ายหักหลังเพื่อตำแหน่งทางการเมือง และตอนที่ขุนพันธ์รู้ว่านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มโจรเสือฝ้าย และเป็นผู้ยักยอกทรัพย์ของหลวง ซึ่งทำให้หนังเรื่องนี้ดูแล้วนอกจากขุนพันธ์แล้ว โจรอย่างเสือใบก็กลายเป็นพระเอกและเป็นคนดีไปเลยที่ผมชอบมากที่สุดจากหนังเรื่องขุนพันธ์ 2 ก็คือตอนสู้กันโดยใช้คาถาอาคมที่ทำให้ยิงไม่เข้า ฆ่าไม่ตาย หายตัวได้ และลูกกระสุนที่สั่งได้ดั่งใจ ซึ่งดูแล้วยอมรับว่าเป็นหนังไทยที่ดูแล้วสนุกและมันมาก ๆ เรื่องหนึ่งที่อยากให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันครับ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าครับ สวัสดีครับ...