สมาชิกวง 'ดิ อิมพอสซิเบิ้ล' เผยมีแพลนจัดคอนเสิร์ตกลางปี เสียดาย 'ต้อย เศรษฐา' จากไปเสียก่อน
สมาชิกวง ‘ดิ อิมพอสซิเบิ้ล’ เผยมีแพลนจัดคอนเสิร์ตกลางปี เสียดาย ‘ต้อย เศรษฐา’ จากไปเสียก่อน
มาร่วทไว้อาลัย ต้อย เศรษฐา ศิระฉายา พี่ชายสุดที่รักเพื่อนร่วมวงเป็นครั้งสุดท้าย สำหรับ วินัย พันธุรักษ์ และ พิชัย ทองเนียม สมาชิกวง ดิอิมพอสซิเบิ้ล (The impossibles) ก่อนจะเปิดใจถึงการสูญเสียครั้งใหญ่ว่า
วินัย : “ผมทราบข่าวเมื่อวาน 6 โมงเช้าว่าพี่ต้อยเสียแล้ว ผมก็อึ้งไปนิดนึง ใจหาย เราอยู่ด้วยกันมา 50 กว่าปี เราทำงานสร้างฐานะ สร้างชื่อเสียง สร้างผลงานของเราด้วยกันมา 50 กว่าปี วันนี้เป็นวันที่เสียใจมาก ใจหาย พี่ต้อยเป็นพี่ชายที่น่ารัก โอบอ้อมอารี รักพี่รักน้อง รักเพื่อนฝูง มีอะไรก็ดูแลกันตลอดแม้กระทั้งในเวลาที่ผมเจ็บป่วย พี่ต้อยก็มาดูแลผมเป็นอย่างดี พี่ต้อยเป็นบุคคลพิเศษ มีปฎิภาณไหวพริบที่ดีมากเวลาอยู่บนเวที จะสร้างอารมณ์ สร้างความสุขให้กับแฟนเพลงทุกๆคอนเสิร์ต การที่จะสร้างมุกสนุกสนานเฮฮาแกเฉียบไหวเรื่องนี้มาก”
พิชัย : “ผมก็ทราบข่าวจากวินัย เขาโทรมาบอกอีกที ก็ตกใจเหมือนกัน ปกติพี่ต้อยแกจะไลน์มาหา พอแกขาดไลน์ไป5-6วันเราก็สงสัยแล้ว แต่ก็ไปเยี่ยมไม่ได้”
วินัย : “ที่ผ่านมาผมจะใช้วิธีไลน์ โทรคุยกัน ส่งภาพเก่าๆที่มีความประทับใจร่วมกันที่เราเคยถ่ายด้วยกันสมัยตอนเล่นดนตรีใหม่ๆ ดูแล้วก็ผ่อนคลาย มีความสุข ผมไลน์หาเขาแล้วเขาไม่โต้ตอบผมมาประมาณเดือนนึงแล้ว เขาคงเหนื่อย เราจะติดต่อกันอยู่เสมอทางไลน์ แต่เมื่อ 3 วันที่แล้วพี่เปี๊ยกแกให้ผมช่วยบอกพี่ต้อยหน่อยว่าให้กินข้าวหน่อย พี่ต้อยไม่กินข้าวมาหลายวันแล้ว ไม่มีแรง ผมก็บอกพี่ต้อยต้องกินข้าวนะจะได้มีแรง แกก็หัวเราะตอบ ครับๆ เสียงแกก็แหบแห้งแล้ว แกก็ยกนิ้วโป้งให้”
ตลอดระยะเวลาการรักษาอาต้อยมีกำลังใจดี?
วินัย : “กำลังใจเขาเยี่ยม เพราะเขามีหลาน มีบุญจะอยู่กับคุณตา คอยดูแล คอยหอมคุณตา เข็นรถวิลแชร์ คอยกอดคุณตาซึ่งตรงนี้เป็นกำลังใจให้กับพี่ต้อยมากๆ เขาก็ยังหวังว่าจะดีขึ้น เขาจะได้มีความสุขกับหลานมากกว่านี้ เมื่อ 6 เดือนที่แล้วเราได้บันทึกเสียงทำเพลงกัน หวังว่ากลางปีนี้จะมีคอนเสิร์ตเล็กๆกันอยู่ เขาคิดถึงแฟนเพลง เราก็บันทึกเสียงกันไว้เรียบร้อยแล้ว หวังว่ากลางปีนี้จะได้เจอแฟนๆแต่พี่ต้อยก็มาจากไปเสียก่อน”
จะมีแผนปล่อยเพลงยังไงบ้าง?
วินัย : “เพลงที่บันทึกก็จะเป็นเพลงเก่าๆที่เอาไว้สังสรรค์กับแฟนเพลงของเรา ไม่ได้ใหม่อะไร แต่เป็นความสุขที่พี่ต้อย อยากจะร้อง อยากจะเล่นดนตรีกับเพื่อนๆ เราก็คุยกันว่าทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว เหลือก็แค่โปรโมต แต่พี่ต้อยก็จากไปเสียก่อน ตอนนี้พี่ต้อยไปอีกคนเราก็เหลือกันแค่ 2 คน ก็ยังไม่ได้คิดว่าโปรเจ็กต์นี้จะไปยังไงต่อ ยังไม่ได้คิด รอให้เสร็จงานพี่ต้อยก่อน”
เหลือกันสองคนแล้วเหงาไหม?
วินัย : “เหงา ตอนนี้เริ่มหนาวๆยังไงไม่รู้ บอกไม่ถูก”
พิชัย : “เราก็รักษาตัวของเรา ทุกคนก็ต้องระวังตัวกัน หลังจากไม่ได้ข่าวที่ต้อยเลยในทางไลน์ก็เป็นห่วง ก็คิดในใจว่าต้องเป็นอะไรซักอย่าง คนกระทั้งได้รับข่าวก็ตกใจมาก เมื่อกี้ไปรับศพมาก็ใจหายหมด ในใจก็บอกว่าเรามาเยี่ยมกันแล้วนะ”
วินัย : “ผมบอกตอนที่ไปรับศพพี่ต้อยว่าพี่ต้อยเหนื่อยมาเยอะแล้ว พวกเราเหนื่อยมาเยอะแล้ว ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งสิ้น พี่ต้อยไปให้สบาย ทุกอย่างพร้อมสมบูรณ์หมดทุกอย่างแล้ว มีกำลังใจมาให้พี่กันมหาศาลมากมาย ทุกคนในประเทศที่พอทราบว่าพี่ต้อยเสียชีวิตทุกคนต่างเสียใจกันหมด พวกเราที่เหลือก็ต้องดูแลกันต่อไป”
2 คนจับมือรักษาวงดิอิมพอสซิเบิ้ล กันต่อไป?
วินัย : “พี่ต้อยรักวงมาก รักเป็นชีวิตจิตใจ พวกเราทำงานด้วยกันมาอย่างมีความสุข ก็อยากจะบอกพี่ต้อยว่าผมจะรักษาชื่อเสียงของวงไว้นะพี่นะ พี่ต้องห่วง เราทำมานานแล้ว เราทำดีมานานแล้ว พี่ต้อยไปสบายเถอะ”
พิชัย : “แกรักสมาชิกทุกคน แกเป็นห่วงทุกคน คอยถามไถ ขาดเหลืออะไร ด้วยความที่แกเป็นพี่ใหญ่ เป็นแม่ทัพ”
วินัย : “กลายเป็นตำนานไปแล้วครับ มันเป็นจิตวิญญาณอะไรอย่างนึงซึ่งพวกเราทุกคนได้สร้างผลงานไว้ให้คนรุ่นหลังว่า ดิอิมพอสซิเบิ้ล เขาเล่นเขาร้องกันอย่างนี้นะ มีตัวตนอย่างนี้”
จะทำเพลงพิเศษเพื่ออาต้อยไหม?
วินัย : “คงไม่มี แต่แกจะมีเพลงประจำตัวแกชื่อว่าเพลงเป็นไปไม่ได้ ครูพยงค์ มุกดา เป็นคนแต่งให้ เนื่องจากว่าผมเป็นลูกศิษย์ แกเห็นผมอยู่วง ดิอิมพอสซิเบิ้ล แกก็เลยแต่งเพลงนี้ให้เพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับวงว่าลูกศิษย์แกอยู่ที่วงนี้ด้วย พี่ต้อยเป็นคนร้อง ถือเป็นเพลงเอกของวงเลย”