เปิดใจ “กร ษิภูตา“ คุณแม่ลูกแฝดภรรยา “เป้ MVL” สู้ระหว่างครรภ์จากภาวะปากมดลูกสั้นและเป็นเบาหวาน
เปิดใจ “กร ษิภูตา“ คุณแม่ลูกแฝดภรรยา “เป้ MVL” สู้ระหว่างครรภ์จากภาวะปากมดลูกสั้นและเป็นเบาหวาน
เป็นคุณแม่ลูกแฝดที่มีเรื่องราวน่าสนใจยิ่งสำหรับ “กร ษิภูตา“ คุณแม่ลูกแฝดภรรยา “เป้ MVL” เพราะในระหว่างที่เธอตั้งครรภ์นั้น เธอเจ็บป่วยหลายครั้งด้วยภาวะปากมดลูกสั้นเป็นเบาหวาน
เรื่องราวต่างๆที่เธอเคยโพสต์ผ่านไอจี หลายคนต่างรับรู้ว่าเธอต้องเข้ารับการรักษาและนอนพักใน รพ.หลายวัน หลายครั้ง ถือว่าเป็นยอดคุณแม่ที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่งก็ว่าได้เท่าที่ปรากฏในโซเชียล
ดาราเดลี่ต้อนรับเทศกาลวันแม่ด้วยการเปิดใจถึงการต่อสู้ในระหว่างตั้งครรภ์ โดยเธอเล่าว่า ตั้งแต่ท้องมาสำหรับ“กร ษิภูตา“ไม่มีวันไหนที่ง่ายเลยทุกช่วงของการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดก็ทรหดสุดๆเลยใช้ชีวิตอยู่บนเตียงแทบจะ100%เลยมีภาวะปากมดลูกสั้นเป็นเบาหวานด้วยที่เกิดจากฮอร์โมนแฝง
เธอเล่าว่า “เราพยามยามคุมอาหารแล้วยังไงก็ไม่ลงตอนนั้นเจอเบาหวานตอนท้องเจ็ดเดือนกว่าที่ผ่านมาได้เพราะว่าหมอกับกำลังใจ จากตัวยาฮอร์โมนที่ต้องทานช่วยเรื่องปากมดลูกให้ปากมดลูกไม่ให้บีบตัวไม่ให้ท้องแข็งมันส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจเรื่องฮอร์โมนที่มันสวิงควบคุมไม่ได้ซึ่งคนที่รับศึกหนักก็คือ“เป้ MVL”
ความกังวลใจที่จะเสียลูกระหว่างตั้งครรภ์ นั้นเธอบอกว่า “กังวลตลอดเวลาทุกๆวันเป็นการนั่งฟังเสียงหัวใจของลูกจนซื้อเครื่องฟังเสียงหัวใจของลูกมาวันนึงฟังถึงสามรอบ เพราะว่าวันนึงตอนที่เด็กดิ้นที่นึงเราไม่รู้เลยว่าเป็นคนไหนดิ้นเราชอบวิตกจริตไปเองว่าฝั่งนี้ดิ้นอีกฝั่งนึงไม่ดิ้นเลยก็ฟังกันทั้งวันเลย”
และเมื่อถึงวันคลอดก็ปรากฏว่าคลอดก่อนกำหนด คุณแม่ลูกสองเล่าว่า คลอดก่อนกำหนดด้วยทั้งสองคนเลยแต่ว่ามิวสิคออกมาก่อนหนึ่งนาทีคือเราคลอดตอน 32วีคก็ประมาณ8เดือนแล้วก็ตัวเลขกันมากโลครึ่งกว่า คราวนี้ในเวลานั้นก็ทรมานใจพอสำควร
การดูแลเลี้ยงที่ผ่านมาแต่ละช่วงวัยนั้นเธอบอกว่า “ตั้งแต่เรามีความตั้งใจอยากจะมีลูกแล้วพอเราทำวิธีทางการแพทย์ติดนะวันนั้นรู้สึกว่ามันแรกได้ด้วยชีวิตแล้ว แล้วยิ่งเจอภาวะนั้นนี้โน้นมาวันที่จะคลอดลูก มันอาจจะช็อคไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมปอดเริ่มจากยาที่เราให้ไม่ให้คลอดตอนนั้นมันมีเอฟเฟคกับแม่หนักมากถึงขั้นต้องใช้ที่ช่วยหายใจถึงขึ้นบอกกับพี่ “เป้”ว่าเอาลูกให้ไว้ก่อนปลอดภัยซึ่งเค้าบอกว่ามันไม่ได้ถ้าจะต้องเลือกจริงๆหมอก็ต้องตัดสินใจร่วมกับพี่เป้ ซึ่งตอนนั้นเรารู้สึกว่าเรามาถึงจุดนี้แล้วมันคอมพลีทในการเป็นแม่แล้ว ในการอุ้มท้องเค้ามาเรายอมสละชีวิตเราได้เพื่อที่จะให้เค้าเกิดมาใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้
ความรู้สึกที่เรียกแม่คำแรก เธอเล่าว่า “ลูกเค้าเรียกแม่ได้คนแรก ซักประมาณเก้าเดือนพูดลั่นลั่นออกมารู้สึกว่าใจฟู แล้วรู้สึกว่าในชีวิตนี้ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วแค่ได้เห็นรอยยิ้มเค้าได้เห็นพัฒนาของเขาในทุกๆวันมันคือที่สุดของชีวิตแล้วค่ะ
ทั้งบันเทิงทั้งง่วงทั้งเหนื่อย กรจะดุเยอะกว่าพี่เป้พี่เป้เค้าจะไม่ค่อยดุ และหลังหลังมาค้นพบว่าการที่ดุเขาหรือโกรธเขามันไม่ได้ช่วยให้เด็กแก้ไขถ้าบอกเค้าว่ามาม้าเสียใจนะเค้าจะหยุดทุกอย่างเราเลือกไม่ผิดที่เลี้ยงลูกด้วยตัวเองได้ปลูกฝังเขาให้เขาได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง รีวิวลูกทั้งสอง
ลูกสองคนนี้เค้าจะสลับกันสมมติเดือนนี้อีกคนจะดื้อมาอีกคนจะเรียบร้อยมาก คาแรกเตอร์เขาก็จะสลับกันเลยแต่มันเหมือนเค้าเตรียมกันมาก่อนว่าจะไม่ดื้อพร้อมกันทั้งสองคนให้พ่อกับแม่ไม่ต้องประสาทแดกสุดท้ายแล้วเรารู้สึกว่าเขาคือ เวลาเราได้กลับบ้านไปเราได้กอดเค้าได้เห็นรอยยิ้มเค้าเรามีความสุขที่สุดไม่ว่าวันนั้นเราจะเหนื่อยแค่ไหนแต่พอกลับไปเจอก็หายเหนื่อย
ตอนนี้ตอนที่โตแล้วคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน “น้องลีริคส์”ก็จะติดแม่มาก “น้องมิวสิค”ก็จะออกแนวชอบแกล้ง คือเด็กสองคนที่นี่เหมือนกันก็คือชอบร้องเพลงชอบดนตรีชอบเต้น