“ส้ม มารี” เคลียร์ใจ “โบกี้ไลอ้อน” ยันไม่มีอะไรติดค้างในใจ ยังร่วมงานได้
“ส้ม มารี” เคลียร์ใจ “โบกี้ไลอ้อน” ยันไม่มีอะไรติดค้างในใจ ยังร่วมงานได้
อยู่ๆ ก็เจอดราม่าแตกคอ เมื่อโดนพาดพิงโยงว่า “โบกี้ไลอ้อน” เป็นนักร้องสาวแอบเม้าท์เพื่อน หลายคนพุ่งเป้าไปที่ “ส้ม มารี” ที่ช่วงนั้นกำลังจะมีคอนเสิร์ตด้วยกันจึงโดนโยงไปเต็มๆ โดยก่อนหน้านี้ “โบกี้ไลอ้อน” ออกมาเคลียร์ไปแล้ว ล่าสุดถึงคิว “ส้ม มารี” ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้บ้าง ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เผยว่า…
“เราซ้อมคอนเสิร์ตกัน 2 อาทิตย์ แค่เรื่องคอนเสิร์ตก็เหนื่อยมากแล้ว เรื่องนี้ก็เกิดก่อนคอนเสิร์ต 2 วัน มันก็ต้องคุยกัน เคลียร์ใจกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น โบกี้เขาก็พูดเหมือนที่พูดกับพี่ๆ นักข่าว มันก็มีเรื่องที่จริงไม่จริง เรื่องอื่นๆ ตนไม่ได้ยุ่ง แต่เรื่องที่เกี่ยวกับตนเขาก็บอกว่าเขาไม่ได้ทำ ตนก็โอเค มันก็อาจจะมีเรื่องที่ไม่เข้าใจกันอย่างที่เขาบอก มีบางเรื่องที่เขาไม่ค่อยเข้าใจเรา เลยเกิดการเคลียร์ใจกันในวันนั้น แล้วมันก็จบ
เรื่องที่เกิดขึ้นตนไม่เคยได้ยินมาก่อน ตนได้ยินพร้อมทุกคนเลย ตนก็เห็นในทวิตเตอร์เหมือนกัน เอาจริงๆ ตอนเห็นตนก็ไม่ได้ถาม ตนเข้าไปคุยกับเขาด้วยอารมณ์ที่ไม่อยากให้มันเครียด เพราะตนรู้สึกว่าเรื่องของตนมันเบามากเลย ตนเลยไปแบบไม่เครียดเพราะตนไม่ได้จะอะไรเลย ตนก็บอกกับเขาว่าไม่ต้องเครียดเรื่องของตน น้องมันก็พยายามอธิบายว่ามันคืออะไร ตนก็โอเค ไม่ได้มีใครเริ่มเปิดประโยคเพราะรู้อยู่แล้วว่ามันมีเรื่องอะไร คุยกันจบแล้วก็ไม่ได้มีอะไร
ตอนคุยมีน้ำตาด้วยอย่างที่พูดไปว่าเราซ้อมหนักมาก เป็นโชว์ที่ใหญ่มาก เราเครียดกันมาเยอะมาก เพราะฉะนั้นอารมณ์มันก็จะอ่อนไหวนิดนึง พอเราเคลียร์ใจ ปลดล็อคกันไป มันก็มีน้ำตากัน เป็นน้ำตาแห่งความเข้าใจ ไม่มีอะไรติดค้าง
หลังจากเกิดเรื่องตนไม่ได้กังวลหรือกลัวว่าคอนเสิร์ตจะไม่เกิดขึ้น เพราะมันมาไกลกันขนาดนั้นแล้ว ยิ่งพอได้คุยกันแล้วมันไม่มีอะไร ก็ไม่มีอะไรจำเป็นที่เราต้องยกเลิกคอนเสิร์ตไป ถามว่าเคลียร์จบรักกันมากขึ้นไหม เอาจริงๆ คือหลังจากคอนเสิร์ตจบก็จบไม่ได้เจอกันเลย เพราะยังไม่มีใครว่างมาเจอกัน หลังจากเกิดเหตุการณ์ตนไม่เห็นว่าแฟนๆ แบ่งข้าง ตนว่าคนเสพข่าวมีวิจารณญาณมากพอ สุดท้ายเราก็ยังรู้สึกกันเหมือนเดิม ได้เปิดใจมากขึ้น
ทำงานร่วมกันได้ อยู่ในวงการด้วยกัน ตนแฮปปี้กับคอนเสิร์ต ถ้ามีต่อตนก็อยากมี ถ้าถึงเวลาที่เหมาะสมมันก็มีได้ ตนอยากมีต่อแต่ขอหายเหนื่อยก่อน ถ้ามีรอบ 2 ก็ต้องวางแผนล่วงหน้าค่อนข้างนาน เพราะรอบที่ผ่านมาก็วางแผนกัน 2 ปี ถ้ามีอีกตนสนุกอยู่แล้ว ยิ่งได้มาใช้ชีวิตด้วยกัน ก็ได้รู้จักทุกคนมากขึ้น เป็น 2 อาทิตย์ที่ได้ใช้ชีวิตด้วยกัน ถ้ามีงานจ้างตนกับโบกี้สองคนก็ได้ เพราะเราก็เล่นต่อๆ กันในหลายๆ งานที่ผ่านมา เจอกันหลังเวทีบ่อย”