สาวก Sci-fi ผู้ชื่นชอบหนังแนวย้อนเวลา ห้ามพลาดกับบทความนี้ค่ะ!เอาใจคอซีรีส์ ผู้ชื่นชอบความลี้ลับของกาลเวลา หลงเสน่ห์ปริศนาที่ซับซ้อนแฝงปรัชญาของเนื้อเรื่อง ด้วยซีรีส์ 5 เรื่อง 5 รส ที่มีเนื้อหาว่าด้วยการย้อนเวลา และ Time Paradox ชวนปวดหัว แต่ก็หยุดดูไม่ได้ ที่พิเศษคือ 5 เรื่อง ที่จะนำเสนอให้รู้จักกันนี้ หลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อเรื่องเลยด้วยซ้ำค่ะ เพราะเป็นซีรีส์นอกกระแสที่ถูกพูดถึงไม่มาก เพราะบางเรื่องนักแสดงอาจไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดัง บางเรื่องก็ไม่ได้ทำการตลาดสักเท่าไหร่ และบางเรื่องก็ช่างเข้าใจยากเสียเหลือเกิน แฝงปรัชญาที่ลึกซึ้งที่ต้องตีความมากมายจนคนดูอาจไม่ถูกใจ แต่รับรองได้ค่ะว่า แม้จะไม่เป็นที่นิยม แต่ถ้าได้ลองชมจะรู้ว่า ปัง! ทุกเรื่องแน่นอน!จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่า~ 1. Travellerเรื่องราวของคนกลุ่มหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า "กลุ่มนักเดินทาง" หรือ "Traveller" แต่ไม่ใช่นักเดินทางท่องเที่ยวแบบที่เรารู้จักหรอกนะคะ เพราะพวกเขาเดินทางมาจาก "อนาคต" ด้วยการส่งดวงจิตกลับมายังอดีต มาอาศัยในร่างมนุษย์ที่กำลังจะหมดอายุขัย โดยเช็คจากฐานข้อมูลในอนาคต และส่งนักเดินทางมาในวันและเวลาที่บันทึกไว้ เพื่อใช้ร่างกายนั้นต่อไป ด้วยความสามารถพิเศษที่แตกต่างกันไปในทีม ไม่ว่าจะเป็นหมอ โปรแกรมเมอร์ นักวางแผน ทหารสายบู๊ขาลุยเหล่านักเดินทางมีภารกิจเพื่อมากอบกู้โลก โดยการเปลี่ยนแปลงเรื่องราวในอดีตที่เป็นสาเหตุทำให้โลกในอนาคตล่มสลาย ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งใหญ่ กางก่ออาชญากรรมระดับโลก หรือการช่วงชีวิตบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่เปลี่ยนแปลงโลกไปในทางที่ดีขึ้นได้ เรื่องนี้ครบรสจริง ๆ ค่ะ ทั้งคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจ โปรดัคชั่นฉากต่อสู้ที่ดุเด็ดเผ็ดมันส์ นักแสดงทุกคนต่อสู้ได้ ร้องไห้เป็น ความดราม่าและความซับซ้อนของปมเรื่องถือว่าน่าสนใจดีเทียว และก็ไม่ได้น่าเบื่อเลย เพราะบทมีความตื่นเต้นตลอดเวลา ผู้ชมต่างได้ลุ้นไปกับทุกภารกิจสามารถรับชมได้ ที่นี่ เลยค่ะ 2. Timelessเรื่องนี้ต้องถูกใจคอ Sci-fi สายประวัติศาสตร์และโบราณคดีแน่นอน โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา เรื่องราวของคนกลุ่มหนึ่งที่มีภารกิจต้องย้อนเวลาไปแก้ไขเหตุการณ์ในอดีต เพื่อเปลี่ยนแปลงปัจจุบัน คอนเซ็ปต์ของเรื่องก็จะคล้าย ๆ กับ Traveller แต่เราจะได้เห็นการย้อนยุค การจำลองเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของอเมริกา ซึ่งบอกเลยว่าน่าตื่นตาตื่นใจมาก ภาพสวย คอสตูมจัดเต็มสุด ๆ Mood & Tone ของเรื่องจะมีกลิ่นอายสืบสวนสอบสวน การไขปริศนา ฉากบู๊แอ็คชั่นก็มาเต็ม ไหนจะการหักมุมที่คาดไม่ถึง ได้หลายรสจริง ๆ ค่ะความพิเศษคือการนำเสนอรายละเอียดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ได้ค่อนข้างน่าสนใจ ใส่ใจรายละเอียดพอสมควร เหมือนกำลังนั่งเรียนอยู่เลยค่ะ แต่เป็นการเรียนแบบสนุกสนาน สามารถใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ไปในตัวได้เลยนะคะเนี่ย ฮ่า ๆ แต่น่าเสียดายที่ช่วงหลัง Season 2 เริ่มทำออกมาได้ซ้ำซากไปหน่อย ความน่าตื่นเต้นลดลง ทำให้เรตติ้งตกพอสมควรค่ะ แต่ยังไงก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่อยากให้ทดลองชมกันสามารถรับชมได้ ที่นี่ เลยค่ะ 3. If I hadn't met youซีรีส์น้ำดีสัญชาติสเปน เรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่เศร้าเสียใจกับการเป็นสาเหตุให้ครอบครัวต้องประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ระหว่างที่กำลังสิ้นหวังและคิดจะฆ่าตัวตายตามไปนั้น หญิงชราคนหนึ่งก็ปรากฎตัวขึ้น พร้อมข้อเสนอในการให้เขาเป็นผู้ทดลองใช้นวัตกรรมใหม่ที่เธอพัฒนาสำเร็จ นั่นคือ "Time Machine" ด้วยความสิ้นหวัง เขาจึงตอบตกลงเพราะไม่คิดว่ามีอะไรจะต้องเสียอีกแล้ว แต่ไทม์แมชชีนนั้นไม่ได้พาเขาย้อนเวลา แต่กลับพาเขาไปยัง "โลกคู่ขนาน" ที่ซึ่งมีตัวเขาอยู่อีกคน และเป็นโลกที่ครอบครัวของเขายังมีชีวิตอยู่!เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ชอบมากเป็นพิเศษค่ะ เนื้อเรื่องอาจไม่ได้แฟนตาซีเหนือจินตนาการสักเท่าไหร่ เป็นเพียงการเดินทางข้ามมิติคู่ขนานสลับไปมาเท่านั้น แต่ด้วยเนื้อหาที่มีความลึกซึ้ง สื่อถึงสิ่งที่เราอาจมองข้ามไปในชีวิตอย่างคำกล่าวที่เรามักจะใช้กันอยู่บ่อยครั้ง "ถ้า...แบบนั้น...ก็คงไม่..." การเลือกตัดสินใจอะไรก็ตามในทุกขณะชีวิต ส่งผลต่อชีวิตเราเสมอ ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่ ทำให้รู้สึกได้ทบทวน มองย้อนกลับไปในชีวิตที่ผ่านมา ว่าเราได้ "เลือก" สิ่งที่ใช่ที่สุดสำหรับตัวเองหรือยัง? ใครชอบแนวนี้ขอแนะนำว่าต้องไม่พลาด ที่ประทับใจอีกอย่างหนึ่งคือเพลงประกอบที่เพราะจับใจมาก ๆสามารถรับชมได้ ที่นี่ เลยค่ะ 4. The OAสายปรัชญาทั้งหลายต้องห้ามพลาดที่จะชมเรื่องนี้ เป็นซีรีส์ที่ต้องบอกเลยว่า "ถ้าไม่ชอบไปเลย ก็น่าจะเกลียดไปเลย" เรื่องราวของหญิงสาวที่ถูกจับไปขังไว้ในห้องใต้ดินเพราะรสนิยมของหมอที่มีอาการจิตเภทบางอย่าง พร้อมกับคนอื่น ๆ เธอพยายามหลบหนีคิดค้นวิธีการเดินทางข้ามมิติไปยังอีกโลกคู่ขนาน ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า "การ Jump" แปลง่าย ๆ ตรงตัวเลยก็คือการกระโดดข้ามมิติ ผ่านการแสดงท่าทางแปลก ๆ บางอย่าง ซึ่งหากใครเป็นสาย Spiritual จะพอเดาได้ว่าคือการจัดสมดุลร่างกายและจิตใจให้เป็นหนึ่งเดียวกัน และเข้าถึงความสามารถที่เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมี เพียงแต่ไม่รู้ตัว คล้ายกับการถอดจิตเดินทางข้ามกาลเวลานั่นเองค่ะเรื่องนี้ค่อนข้างเฉพาะทางอยู่สักหน่อย เนื้อหาลึกมาก ๆ ไม่ใช่เพียงต้องตีความ แต่ต้องมีพื้นฐานความสนใจในด้าน Spiritual จึงจะพอตีความได้บ้าง หากอยากชมเพื่อความบันเทิงอาจจะไม่เหมาะค่ะ แต่สำหรับใครที่ชอบการตีความหมาย ชอบศึกษาเรื่องจักรวาลวิทยา ความหมายของชีวิต หรือชอบศึกษาศาสนาและวิทยาศาสตร์ เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่น่าจะหลงรักได้ไม่ยากสามารถรับชมได้ ที่นี่ เลยค่ะ 5. Erasedซีรีส์สัญชาติญี่ปุ่น เรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่กลับมาบ้านหลังเลิกงานแล้วพบว่าแม่ของเขาถูกแทงเสียชีวิตในบ้าน และถูกตำรวจสงสัยว่าเป็นฆาตรกร แต่เขาเองมีพลังวิเศษบางอย่าง ที่สามารถย้อนเวลากลับไปเปลี่ยนแปลงบางอย่างในอดีตได้ แต่จะใช้ความสามารถนี้ได้เฉพาะเวลาที่เจอกับเหตุการณ์สะเทือนใจหรือกำลังเป็นภัยเท่านั้น และครั้งนี้เขาได้พาตัวเองย้อนกลับไปถึง 18 ปี เมื่อครั้งยังอยู่ชั้นประถม โดยที่เขาเองไม่รู้เลยว่าทำไมจึงต้องย้อนกลับมาเวลานี้ แทนที่จะเป็นช่วงเวลาก่อนที่แม่จะถูกทำร้าย นั่นเพราะเพื่อนร่วมห้องของเขาคนหนึ่งก็ถูกฆาตกรทำร้ายในแบบเดียวกัน เรื่องนี้ติดค้างอยู่ในใจเขามาตลอดแม้จะไม่ได้นึกถึงมัน การย้อนเวลากลับมาในอดีตครั้งนี้ เขาต้องสืบให้เจอว่าใครคือฆาตกรตัวจริงที่ยังลอยนวลอยู่จนมาทำร้ายแม่เขาได้ในปัจจุบัน เรื่องนี้จะมีกลิ่นอายของการสืบสวนสอบสวนสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ สนุกและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน มีเรื่องราวความผูกพันใส ๆ ของเพื่อนวัยประถมมาเกี่ยวข้องด้วย แบล็คกราวด์เป็นฤดูหนาว ทำให้ Mood & Tone ของเรื่อง ได้ทั้งความเศร้า ความเจ็บปวด แต่ทว่าก็สวยงาม เป็นซีรีส์ที่โด่งดังมากจนได้รับหลายรางวัลการันตีเลยล่ะค่ะ และนอกจากนี้ยังมีเวอร์ชันอนิเมะด้วย ดีงามไม่แพ้กัน แนะนำให้ชมเลยค่ะเรื่องนี้สามารถรับชมได้ ที่นี่ เลยค่ะ สำหรับเวอร์ชันอนิเมะชมได้ ที่นี่ ค่ะเพื่อน ๆ ลองเลือกชมตามสไตล์ที่ชอบเลยนะคะกระแสอาจไม่แรง แต่รับรองว่า ปัง! ทุกเรื่องแน่นอนค่า:) เรื่อง : ดารัณ พันสวะนัด (ผู้เขียน)ขอบคุณภาพประกอบจากลิงค์รับชมทาง Netflix ที่ได้อ้างอิงไว้แล้วในบทความ