“เต้ย จรินทร์พร” อัปเดตอาการคุณพ่อ หลังเปลี่ยนไต ขอตอบแทนด้วยการบริจาคร่างกาย
“เต้ย” อัปเดตอาการ “คุณพ่อ” หลังเปลี่ยนไต ขอตอบแทนด้วยการบริจาคร่างกาย
เป็นความโชคดีที่ได้เจอ “คุณคนใจดี” บริจาคไตให้คุณพ่อ ด้วยการบริจาคร่างกาย นางเอกสาว “เต้ย จรินทร์พร” ได้ออกมาแชร์เรื่องราวดีๆ ของการผ่าตัดเปลี่ยนไตใหม่ได้สำเร็จของคุณพ่อ จนคุณพ่อกลับมาสุขภาพแข็งแรง และสามารถใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง โดยสาว “เต้ย” เผยว่า...
อ่านข่าวต่อ : "เต้ย" อัปเดทสุขภาพพ่อหลังผ่าตัดเปลี่ยนไต เตรียมเวิร์คช้อปซีรีส์ "Enigma 2" เร็วๆนี้
“มาร่วมงานกับสภากาชาดไทย จริงๆ เต้ยเป็นผู้มีประสบการณ์ตรง เพราะคุณพ่อเต้ยพึ่งโชคดีมากๆ ได้เปลี่ยนอวัยวะไป ได้เปลี่ยนไตไป แล้วมันเกิดขึ้นจริงๆ คือมีคุณคนใจดีแสดงเจตจำนงไว้ แล้วคุณพ่อเต้ยก็ได้เปลี่ยน ก็เลยรู้สึกว่าเต้ยไม่รู้จะตอบแทนเขายังไง เพราะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร ก็เลยอยากที่จะตอบแทน ก็เลยไปบริจาคอวัยวะของตัวเอง ทั้งร่างกายเลย บริจาคดวงตาแล้วก็อวัยวะที่สามารถใช้ได้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่
ไม่คิดเลยเพราะเต้ยเห็นเลยว่าอย่างคนที่บริจาคให้คุณพ่อเต้ย ไตเขาสองข้างได้บริจาคให้คนสองคน แล้วเต้ยก็เชื่อว่าหัวใจเขา ดวงตา หรืออะไรหลายๆ อย่างยังสามารถให้คนอื่นต่อได้ ก็เลยไม่ได้คิดอะไรเลย ไปบริจาคเลยพอบริจาคแล้วต้องดูแลตัวเองใช้ชีวิตปกติ แล้วบริจาคมันง่ายมากเลยะ เต้ยไปที่สภากาชาดไทย แล้วแค่เซ็นเอกสาร เซ็นชื่อตัวเอง แล้วเขาก็ให้บัตรมา จบแล้ว คือแค่นี้เลย มัน ง่ายมากๆ แล้วเดี๋ยวนี้สามารถทำผ่านออนไลน์ได้แล้ว
ความรู้สึกเราตอนคุณพ่อรอเปลี่ยนไตคือเราเป็นผู้รอคอย เราก็มีความหวัง ก็อยากให้คนที่เรารักได้กลับไปใช้ชีวิตสบายๆ เหมือนที่เขาเคยใช้ ณ ช่วงนั้นได้แต่รอคอยแล้วก็มีความหวัง แต่มันก็จะมี 2 ครั้งที่ทางโรงพยาบาลโทรมาแล้วบอกว่าตอนนี้ยังไม่ได้นะ เป็นคิวถัดไปนะ จนกระทั่งประมาณเดือนที่ 10 ที่รอมา แล้วระหว่างรอคุณพ่อก็ต้องไปฟอกไต พอโทรมาก็ดีใจมากๆ ที่คุณพ่อได้เปลี่ยนไต หลังผ่า ตัดมาแล้วคุณพ่อสามารถที่จะทานอาหารได้โดยไม่ต้องกังวลมากๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ใช้ชีวิตมีอิสระขึ้นมากๆ เพราะเมื่อก่อนต้องไปฟอกไตตลอดเลย แข็งแรงขึ้น แต่เคสของคุณพ่อถือเป็นเคสที่โชคดีมากๆ ที่รู้ว่ามีเวลาแค่ไหน แต่เต้ยรู้สึกว่ามีผู้ป่วยที่รอคอยอวัยวะอีกมากมายที่ต้องการเดี๋ยวนั้นเลย เพราะฉะนั้นก็อยากชวนทุกคนให้ไปบริจาค เหมือนได้ชีวิตใหม่กลับมาแน่นอนไม่ใช่แค่พ่อได้ชีวิตใหม่ ครอบครัวด้วย เต้ยว่าผู้ป่วยหนึ่งคนยังมีคนที่เกี่ยวข้องอีกหลายคนมากๆ ก็คือครอบครัว พอคุณพ่อได้เปลี่ยน เหมือนมีชีวิตใหม่ คนในครอบครัวก็แฮปปี้ไปด้วย เราก็ได้พาเค้าไปเที่ยวมากขึ้น ได้พาไปทำกิจกรรมที่เรามีความฝันว่าอยากพาเขาไป
มันจะมีหลายคนที่ถ้าเราบริจาคอวัยวะ แล้วเดี๋ยวชาติหน้าเราจะไม่มีอวัยวะหรือเปล่า เต้ยรู้สึกว่าเอาชาตินี้ดีกว่า มันเป็นสิ่งที่เจอกับตัวเองจริงๆ มันมีคุณค่ากับชีวิตคนที่ยังมีชีวิตอยู่จริงๆ แล้วเต้ยก็เชื่อเหลือเกินว่าถ้าเราทำดีในชาตินี้ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะมีชาติหน้าหรือเปล่า แต่ถ้าเราทำดีในตอนนี้ แล้วถ้ามันมีชาติหน้าจริงๆ เราก็ต้องได้สิ่งดีๆ รึเปล่า คิดว่ามันเป็นความเชื่อ แต่เป็นความเชื่อสมัยก่อนเพราะสมัยนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว