ถ้าพูดถึง เกม MOBA ที่อยู่มานาน ไม่พูดถึงเกม DOTA2 ไม่ได้เลย ซึ่งเกม DOTA 2 ถูกพัฒนามาจากเกม DOTA ในวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553 และเป็นเกมที่จัดการแข่งขันและเงินรางวัลมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยทีเดียว หลาย ๆ คนอยากพัฒนาตัวเองเพื่อนเป็น Pro-player จนถึงนักกีฬา E-Sport แต่ไม่รู้ว่าควรเลือก HERO ตัวไหน และควรออกของยังไง บทความนี้ผู้เขียนจะเขียนอธิบาย การเล่น Morphling โดยจะอธิบายการเล่นแบบละเอียด สำหรับการอัพสกิล การซื้อของ และการการอัพทักษะพิเศษของ Morphling แต่ขอบอกก่อนนะคะว่า การเล่นแต่ละเกม ควรเลือกออกของตามสถานการณ์จะดีกว่า และวิธีเล่นในบทความนี้เอาไว้เป็นแนวทางนะคะMorphling เป็นตัวที่ถามว่าเล่นยากไหม ยากมากค่ะ เพราะ Hero ตัวนี้ต้องใช้ Skill Play ที่สูงมาก ตัวนี้ใครจะเอาไปเล่นเป็น Carry ก็ได้นะคะ สามารถปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นตามสถานการณ์ได้เลยสกิลของ Morphling Morphling จะมีสกิลทั้งหมด 4 สกิล แต่จะแบ่งย่อยลงไปอีก การใช้งาน หรือการอัพสกิลสามารถเลือกใช้ตามสถานการณ์ได้เลยนะคะสกิล WAVFROM ซึ่งเป็นสกิลที่เปลี่ยน Morphling เป็นของเหลวพุ่งใส่ศัตรูเป็นเส้นตรง สร้างความเสียหายให้กับฮีโร่ในเส้นทาง และจะไม่สามารถตี Morphling ขณะที่ใช้ สกิลนี้สกิล ADAPTIVE STRIKE แบ่งออกเป็น AEILITY และ STRENGTH ซึ่งทั้ง 2 สกิลใช้งานดังนี้สกิล ADAPTIVE STRIKE AEILITY คือสกิลที่ขึ้นอยู่กับค่าการปรับของค่า AEILITY สกิล ATTRIBUTE SHIFF หากปรับค่า AEILITY มากกว่า 50% จะทำให้ สกิล ADAPTIVE STRIKE AEILITY แรงมากขึ้นสกิล ADAPTIVE STRIKE STRENGTH คือสกิลที่ขึ้นอยู่กับค่าการปรับของค่า STRENGTH สกิล ATTRIBUTE SHIFF หากปรับค่า STRENGTH มากกว่า 50% จะทำให้ สกิล ADAPTIVE STRIKE STRENGTH แรงมากขึ้นสกิล ATTRIBUTE SHIFF ซึ่งเป็นสกิลที่ปรับเปลี่ยนจาก Agility เป็น Strength ได้ หากเลเวลเพิ่มขึ้น การเปลี่ยนจะยิ่งเร็วขึ้น และเพิ่มค่า Agility ติดตัว จะอัพเมื่อเราอยู่เลเวลสกิล MORPH เป็นสกิลที่สามารถ coppy ฮีโร่ตัวอื่นได้ สำหรับสกิลนี้ เราต้องเล่น Hero ตัวอื่นได้ด้วย ถึงจะสามารถเล่น Morphling ได่ และ Morphling จะเป็นตัวน่าลำคาญของทีมตรงข้ามทันทีเทคนิคซึ่งทั้ง 2 สกิลนี้จะใช้ขึ้นอยู่กับการปรับ สกิล ATTRIBUTE SHIFF ถ้าปรับ AEILITY มากกว่า STRENGTH เราควรใช้ สกิล ADAPTIVE STRIKE AEILITY ถ้าปรับค่า STRENGTH มากกว่า AEILITY เราควรใช้ สกิล ADAPTIVE STRIKE STRENGTHการใช้ สกิล ATTRIBUTE SHIFF คือปรับให้ Agility มากกว่า Strength จนเลือดเหลือน้อยที่สุด แล้ว ค่อย ๆ ปรับ Strength มากกว่า Agility เลือดจะกลับมาเต็มอีกครั้งการอัพสกิล ของ Morphling หากเล่น Mid Lane ควรอัพสกิล WAVFROM และ ATTRIBUTE SHIFF ให้เลเวลเต็ม หรืออาจจะอัพสกิล ADAPTIVE STRIKE สักเลเวล 1 ก่อนก็ได้ แล้วแต่สถานการณ์หากเล่น carry ควรอัพสกิล ATTRIBUTE SHIFF และ ADAPTIVE STRIKE ให้เลเวลเต็ม และควรอัพ WAVFROM เอาไว้สักเลเวล 1 เพื่อเอาไว้หนี หรือตามฆ่าศัตรู การซื้อของสำหรับ Morphling Morphling ส่วนใหญ่ของสำหรับ Morphling จะซื้อตามสถานการณ์ แต่ของที่ต้องมีเลยคงต้อง ETHEREAL BLADE หาก Morphling ไม่มีของชิ้นนี้จะลำบากมาก เพราะ ETHEREAL BLADE หากใช้ใส่ศัตรู จะทำให้ศัตรูไม่สามารถโจมตีกายภาพได้ แต่สามารถใช้การโจมตีเวทย์ได้ และศัตรูจะได้รับการโจมตีเวทย์เพิ่มขึ้น 40% และเคลื่อนที่ช้าลง 80% นอกจาก ETHEREAL BLADE อาจจะออก MANTA STYLE จะทำให้เราสร้างร่างเงาขอเรามาอีก 2 ตัวเป็นเวลา 20 วินาที และอาจจะออกเป็น EYE OF SKADI ที่เพิ่มมานาให้กับ Morphling และทำลดความเร็วในการโจมตีและความเร็วในการเคลื่อนที่ของศัตรู สำหรับรองเท้าของ Morphling ช่วงต้นเกมควรออกเป็น Power Treads ก่อนก็ได้เพราะสามารถปรับเป็น STRENGTH หรือ เพิ่มมานา หรือเพิ่มตีเร็วได้ พอช่วงกลางเกมค่อยเปลี่ยนเป็น Boots of travel เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ทักษะพิเศษเลเวล 10 ควรเลือกเป็น ค่า AEILITY +12 หน่วย เพราะ Morphling ส่วนใหญ่ดาเมจจะเป็นเวทย์เลเวล 15 ควรเลือกเป็น ความเร็วในการโจมตี +40 หน่วย ใครจะเน้น coppy Hero ก็อาจจะเลือก MORPH ระยะเวลา +20 วินาที ก็ได้เลเวล 20 ควรเลือกเป็น ลดคูดาวน์ 15% เพราะ Morphling เป็นตัวที่เน้นสกิลเลเวล 25 ควรเลือกเป็น WAVFROM +2 ชาร์จเลเวล 30 เราจะได้ครบทุกทักษะเป็นไงกันบ้างค่ะ จากเทคนิคที่ผู้เขียนสรุปไป เป็นประโยชน์กับผู้อ่านกันบ้างไหมคะ หากผู้อ่านทุกท่านสนใจ รอติดตามบทความต่อ ๆ ไปของ Hero ตัวอื่นนะคะ สำหรับบทความนี้ หากผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องขออภัยด้วย และหวังว่า จะเป็นแนวทางการพัฒนาศักยภาพการเล่นของผู้อ่านทุกคนนะคะ