รีเซต

รีวิวหนัง "ศึกค้างคาวกินกล้วย" เจตนารมณ์ดี คอนเซ็ปต์ใช้ได้ แต่ก็มิอาจนำพา

รีวิวหนัง "ศึกค้างคาวกินกล้วย" เจตนารมณ์ดี คอนเซ็ปต์ใช้ได้ แต่ก็มิอาจนำพา
Jeaneration
19 กันยายน 2567 ( 11:00 )
2.1K

หลังจากที่เปรี้ยงปังสุด ๆ กับการประเดิมเปิดค่ายหนังแห่งใหม่ในนาม คาร์เมนไลน์ ที่เสมือนเป็นบริษัทลูกภายใต้ชายคาของเวิร์คพอยท์ ด้วยหนังผีตลกโรแมนติกระดับร้อยล้านบาทเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา มาถึงคิวผลงานลำดับต่อไปของค่ายน้องใหม่แห่งนี้ ที่ส่ง "ศึกค้างคาวกินกล้วย" หนังไทยที่อาจจะมีชื่อเรื่องประหลาด ๆ ไปสักหน่อย แต่ก็เป็นลูกเล่นไม่หมกเม็ดที่มากับเจตนารมณ์ในการตีแผ่และอนุรักษ์วงการดนตรีไทยอย่างขันแข็ง

ศึกค้างคาวกินกล้วย เป็นเรื่องราวยุคมืดของดนตรีไทย เมื่อมีกฎและคำสั่งห้ามผู้ใดฝ่าฝืนเล่นดนตรีไทย พร้อมกับให้กองกำลังทหารออกกวาดล้างอย่างเข้มข้น สำนักเซียนขาวก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายของ ผู้พันเผ่า เพราะสถานที่แห่งนี้ได้สร้างบาดแผลและปมแค้นในใจให้กับเขามาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่การกระทำของเขาป่าเถื่อนกว่าที่คาดคิด เป็นเหตุทำให้ เชิด ทายาคนเดียวกันของเซียนขาว ต้องออกมาหาวิธีแก้เผ็ดและทวงคืนดนตรีไทยให้กับคืนสู่สังคมอีกครั้ง การต่อสู้ระหว่างกลุ่มคนในเครื่องแบบกับชาวบ้านปุถุชนธรรมดา เพื่อกอบกู้เสียงเพลงเสนาะคู่บ้านคู่เมืองได้บังเกิดขึ้น

นี่คือผลงานการร่วมกันเขียนบทและกำกับของ "เจแปน ภาณุพรรณ" ไอดอลตลกหนุ่มแห่งยุค กับ "กฤษณะ จิตเนาวรัตน์" ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการหนังไทยมายาวนาน ผู้ที่อยู่หลังงานบทหนังตระกูลสาระแนเรื่องต่าง ๆ รวมทั้ง Low Season สุขสันต์วันโสด ที่ผลิตบทออกมามัดใจคนดูมาได้แล้ว ต้องยอมรับว่าวิสัยทัศน์และการสร้างคอนเซ็ปต์ของพวกเขาทั้งคู่ค่อนข้างมีทิศทางที่ชัดเจนดีทีเดียว มีแก่นของประเด็นที่เด่นว่าจะต้องการสื่ออะไรถึงคนดู จึงเป็นการจับคู่กันของมือค่อนข้างใหม่ในการสร้างหนัง กับมือเก๋าของนักสร้างมากประสบการณ์ ผลลัพธ์ที่ออกมามันอาจจะยังไม่ถึงระดับสมบูรณ์มากนัก

ถึงแม้ว่า ศึกค้างคาวกินกล้วย จะค่อนข้างเด่นชัดในแง่สิ่งที่ผู้สร้างอยากจะร้อยเรียง แต่ทว่าหนังยังค่อนจ้างกระท่อนกระแท่นในแง่ของการสร้างสตอรี่จากบทหนังที่ค่อนข้างไร้น้ำหนักอย่างน่าเสียดาย อีกทั้งยังมาเผชิญหน้ากับจังหวะการเล่าเรื่องที่แทบจะไม่สร้างปฏิกิริยาตอบสนองใด ๆ กับคนดูได้เท่าที่ควรนัก จึงทำให้กลายเป็นหนังที่ปล่อยจอยไปเรื่อย ๆ ตลอดเกือบ 2 ชั่วโมง ที่ยังไม่พบจุดไหนที่น่าสนใจหรือจดจำได้เท่าที่ควร

ก็ยังคงเป็นปัญหาเดิม ๆ ของวงการหนังไทยกับบทหนังที่ติดขัดไปหมด ในกรณีของ ศึกค้างคาวกินกล้วย เรื่องนี้ก็ต้องเผชิญหน้ากับบทที่ขาดสมดุลที่ดี โดยที่มองข้ามในแง่การอิงประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้สมจริงอะไร ซึ่งก็เป็นสิ่งที่นักสร้างหนังสามารถทำออกมาในทิศทางนี้โดยเจตนาได้เช่นกัน แต่ในแง่ความเป็นภาพยนตร์นั้น กลับยังไม่สามารถสร้างความสนุกและบันเทิงให้กับคนดูได้อย่างเพียงพอ สุดท้ายก็ไม่ต่างกับการจับชนฉากซิทคอมจากรายการดังของเวิร์คพอยท์ มาต่อ ๆ กันเป็นหนังที่เต็มไปด้วยรอยต่่่อที่ยังขาดความสมูทอยู่

ขณะที่ในองค์ประกอบงานสร้างของหนังนั้น เอาจริง ๆ ก็ค่อนข้างสะเปะสะปะและล้นเกินไป อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าพยายามจะมองข้ามในแง่การลงรายละเอียดแห่งยุคสมัย ที่หนังแทบจะไม่มีความละเอียดใด ๆ ในส่วนนี้เลย เพียงแต่ยังไม่แน่ใจว่านี่เป็นสิ่งที่ผู้สร้างตั้งใจให้ผสมผสานกันเช่นนี้หรือไม่ แต่สิ่งที่ประดิษฐ์และผลิตออกมาก็นับว่าเป็นการหยิบยืมเอาแรงบันดาลใจมาจากหนังดังฝั่งฮอลลีวูดบ้าง ฝั่งเอเชีย มาประยุกต์ใช้แบบยำรวมกันในหนัง เพื่อหวังการตอบสนองความสนุกของผู้ชม แแต่กลับต้องพบกับความผิดหวัง

โชคดีที่ ศึกค้างคาวกินกล้วย ยังได้ 2 นักแสดงหนุ่ม "พีช พชร" กับ "เก้า จิรายุ" มาแท็กมือกันประคับประคองหนังที่เต็มไปด้วยเส้นทางขรุขระเรื่องนี้เอาไว้อย่างสุดกำลังความสามารถของเขา นี่เป็นอีกครั้งที่พีชต้องมารับบทคล้าย ๆ เดิม จากครั้งก่อนเป็นหนุ่มมีแพชชันสร้างแบนด์ดนตรี มาเป็นหนุ่มโบราณที่ปกป้องดนตรีไทย แน่นอนการแสดงของเขาก็ยังคงไหลลื่นได้ดี ตามประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่าสิบปี ถึงแม้ว่ามิติและรายละเอียดในคาแรกเตอร์นี้ของเขาแทบจะกลวงโบ๋เลยก็ตาม

ต่างจากฝั่งของเก้าที่ได้รับโอกาสที่ท้าทายทางการแสดงของเขาอีกครั้ง ด้วยการพลิกมารับบทร้ายกาจ ที่มันอาจจะยังเก้ง ๆ กัง ๆ ขัดตากับบทคนดีที่กลายเป็นที่จดจำเสมอ ๆ ของเขาไปสักหน่อย แต่เขาก็พยายามโชว์ศักยภาพและปล่อยพลังออกมาเต็มที่ ที่ก็ยอมรับว่ามันยังเป็นการแสดงที่ไม่ได้ราบรื่นนัก เพราะในท้ายที่สุด องก์ที่เก้ายังถ่ายทอดได้ดีที่สุดก็คือในพาร์ทความเป็นดรามานั่นเอง ที่ยังไงพ่อหนุ่มคนนี้ก็รับมือกับมันได้ด้วยดี

ทางด้านไอดอลสาว "โจริญ คัมภีร์พันธุ์" ที่ไปได้สวยกับการเป็นศิลปิน เมื่อลองโดดมารับบทบาททางการแสดงดูบ้าง ต้องยอมรับว่ายังเป็นความท้าทายที่แปลกใหม่ของเธออยู่จริง ๆ แต่กระนั้นก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างใช้ได้ อาจจะด้วยส่วนหนึ่งที่คาแรกเตอร์นี้ไม่ได้ใส่มิติเข้าไปมากสักเท่าไหร่ แต่คิดว่าเธอคนนี้ก็สามารถที่จะพัฒนาสกิลในด้านนี้ได้อีกมากทีเดียว อย่างน้อย ๆ กล้องในภาพยนตร์ก็ค่อนข้างรักเธอคนนี้ไม่น้อยเลย

นอกจากนั้น ศึกค้างคาวกินกล้วย ยังมาพร้อมกับทีมนักแสดงสมทบที่มาเพื่อนเป็นลิ่วล้อ ไม่ว่าจะเป็น เจแปน ภาณุพรรณ ที่ขอมาอยู่หน้ากล้องทำการแสดงด้วย ร่วมด้วย "นิกกี้ ณฉัตร" กับ "หมูเติ้ล ทวีศักดิ์" ที่แน่นอนพวกเขาถูกหยอดเอาไว้เพื่อเป็นตัวสร้างสีสันและหยอดมุก-ใส่อารมณ์ขันให้กับหนัง แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่ในภาพรวมแล้วนั้น ตัวละครกลุ่มพวกเขาและอื่น ๆ กลายเป็นส่วนที่เกินจำเป็น อีกทั้งยังไม่สามารถบิ้วท์ความขบขันให้กับคนดูได้อย่างเต็มที่

โดยสรุปแล้ว ศึกค้างคาวกินกล้วย ก็นับว่าเป็นหนังที่ค่อนข้างมีคอนเซ็ปต์ที่ดี เจตนารมณ์ในแก่นสารที่อยากจะสื่อถึงคนดูที่ค่อนข้างใช้ได้ แต่ทว่ายังค่อนข้างตกอยู่ในสถานการณ์ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ในการปลุกปั้นร้อยเรียงเรื่องราวออกมาเป็นภาพยนตร์ที่ตอบโจทย์ผู้ชมได้อย่างแจ่มชัด ถึงแม้ว่า 2 หนุ่มนักแสดงนำจะช่วยกันประคองหนังไว้ได้ค่อนข้างดี แต่ก็ยังพบว่ามีส่วนเกินจำเป็นอยู่ในหนังเยอะมากไปหน่อย อันเป็นสไตล์และลีลาที่คุ้นเคยของทีมสร้างละแวกนี้อยู่แล้ว ที่ทำให้รู้สึกว่าเวลาเกือบ ๆ 2 ชั่วโมงของหนังจะค่อนข้างยาวไปสักหน่อย หากลองตัดทอนบางอย่างให้กระชับกว่านี้ หนังก็อาจจะกลมกล่อมกว่าที่เป็นอยู่ก็เป็นได้

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง: ศึกค้างคาวกินกล้วย

  • ประเภท: ตลก / ดรามา
  • ผู้กำกับ: เจแปน-ภาณุพรรณ จันทนะวงศ์, กฤษณะ จิตรเนาวรัตน์
  • นำแสดงโดย: จิรายุ ละอองมณี, พชร จิราธิวัฒน์, โจริญ คัมภีร์พันธุ์
  • ความยาว: 115 นาที
  • กำหนดฉายในไทย: 19 กันยายน 2024 (ในโรงภาพยนตร์)

Movie.TrueID METRIC: ศึกค้างคาวกินกล้วย

  • ภาพรวม
    ⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5.0/10)
  • การเล่าเรื่อง
    ⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (4.7/10)
  • การแสดง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6.0/10)
  • เทคนิคงานสร้าง
    ⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5.1/10)
  • บทภาพยนตร์
    ⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰✰ (4.4/10)

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa