ภาพ: ผู้เขียนหนังผีที่ผมเคยดูสมัยเด็กแล้วรู้สึกกลัวที่สุด กลัวพอๆ กับตุ๊กตาผี Chucky ก็คือ Thirteen Ghosts (2544) แต่เมื่อร้านดีวีดีลดราคาราวกับใกล้จะปิดกิจการ (เพื่อสู้กับยุคสตรีมมิ่ง) จาก 189 บาท เหลือเพียง 2 แผ่น 99 บาท ทำให้ผมได้ดูอีกครั้งเมื่อวันก่อน แล้วก็พบว่าจากวันนั้นจนวันนี้ 20 ปีผ่านไป เมื่อหนังจบความรู้สึกของผมก็เปลี่ยนไปเช่นกัน… ผลจากอุบัติเหตุไฟไหม้บ้าน ทำให้ภรรยาของอาร์เธอร์เสียชีวิต ทรัพย์สินต่างๆ ไม่เหลือ จากเดิมอยู่กันอย่างพอมีพอกิน อาร์เธอร์ (พ่อ) บ๊อบบี้ (ลูกชาย) แคธี่ (ลูกสาว) และพี่เลี้ยง รวม 4 ชีวิตกลับต้องย้ายไปอยู่ห้องแออัด จนเมื่อทนายมาแจ้งว่า ไซรัส (ลุงของอาร์เธอร์) ได้เสียชีวิตแล้ว มรดกจึงตกมาที่ครอบครัวเขาเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ ดูแล้วชีวิตของสมาชิกในครอบครัวนี้จะพลิกผันจากนรกมาอยู่สวรรค์ภายในพริบตาเดียวแม้คฤหาสน์หลังนี้จะมีหลายอย่างที่แปลกตา ทั้งหลังถูกกั้นห้องด้วยกระจกใสบานใหญ่ที่เต็มไปด้วยอักขระภาษาละติน คล้ายคาถาอาคมอะไรสักอย่าง และพวกของประดับตกแต่งที่ราคาแพง ทำเอาสมาชิกในบ้านตาบอดไปชั่วขณะ ลุ่มหลงในความร่ำรวยของลุง (จนไม่นึกสงสัยหรือเอะใจอะไรกันบ้าง…)ทุกคนต่างตื่นเต้นกับคฤหาสน์จนต้องออกสำรวจตรวจตามห้อง ขณะอาร์เธอร์จะเซ็นสัญญารับคฤหาสน์จากทนาย รัฟกิ้น-ชายแปลกหน้าก็สั่งห้ามเขา โดยให้เหตุผลว่าคฤหาสน์หลังนี้มีผีถูกขังไว้ ไม่นานกลไกในคฤหาสน์ก็เดินเครื่อง บานกระจกใสเลื่อนโดยอัตโนมัติพร้อมปิดตายทุกทางออก และปลดปล่อยผีจากที่คุมขังให้ออกมาเดินหาเหยื่อ วิธีที่จะมองเห็นผีได้มีเพียงวิธีเดียว คือการสวมแว่นตาชนิดพิเศษแบบเลนส์ใส เพื่อให้พวกเขารู้ว่าตัวเองกำลังสู้กับตัวอะไร และขณะเดียวกันต้องพยายามหนีออกจากคฤหาสน์ให้ได้ด้วยภาพ: https://bit.ly/396HvlDโดยภาพรวมแล้วตัวหนังออกจะธรรมดา ไม่ต่างกับหนังสยองขวัญเรื่องอื่นตามท้องตลาด (แต่เด็กก็ไม่ควรดูเพราะอาจขวัญผวาจนนอนไม่หลับได้) น่าเสียดายที่หนังไม่มีการเล่าเบื้องหลังของผีแม้แต่ตัวเดียว ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร (จะว่าไป…ถ้าเอาประเด็นนี้มาสร้างเป็นหนังอีกภาคก็น่าสนใจอยู่) มีเพียงเหตุผลว่าบรรดาผีโดนจับมาขังเพราะอะไร บทสรุปก็จบแบบสูตรสำเร็จที่เดาได้ไม่ยาก ไม่มีการหักมุมหรือเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมาย ทำเหมือนจะซาบซึ้งกับประเด็นครอบครัวแต่ก็ไม่ซาบซึ้ง สิ่งที่ผมชอบเป็นพิเศษในหนังเรื่องนี้ ก็คือ การออกแบบงานสร้าง ทั้งลักษณะของห้องต่างๆ วิธีการฆ่าที่โหดได้ใจแม้มีไม่มาก (และไม่ดุเดือดเลือดสาดเท่ากับหนังของเควนติน ทารันติโน) รวมถึงผีทั้ง 12 ตัว อันได้แก่ ผีลูกชายหัวปี ผีหัวขาด ผีแขวนคอตาย ผีตายโหง ผีแม่ วิญญาณพยาบาท ผีนักบุญ ผีลูกโทน ผีแม่ลูกใจโหด ผีนรก ผีขุนค้อน และแจ็คกัลภาพ: https://bit.ly/2uSn39gส่วนเรื่องการแสดง ไม่มีตัวละครตัวไหนมีมิติหรือน่าจดจำ แต่ประเด็นหนึ่งที่ผมสนใจคือ ตัวละครวัยรุ่นสาวหน้าตาสะสวย สูงยาวขาวดี ผมยาวสีบลอนด์ มาตามขนบของหนังสยองขวัญฝรั่ง คือต้องมีฉากให้ได้ ‘โชว์ของ’ ที่ไม่ได้หมายถึงแสดงความสามารถทางด้านการแสดง แต่เป็นความเซ็กซี่ ที่เหมือนจงใจใส่มาในหนังเพื่อขายกลุ่มผู้ชมเพศชาย คือฉากหนึ่งที่เธออยู่กับพ่อแล้วถูกผีตนหนึ่งเล่นงาน พ่อไม่ใส่แว่นชนิดพิเศษจึงมองไม่เห็นผีและช่วยเธอไม่ได้ ผีขีดข่วนเธอไม่ยั้งจนเสื้อกล้ามสีเลือดหมูฉีกขาด เผยให้เห็นเสื้อในสีดำกับหน้าอกของเธออย่างชัดเจนหนังน่าจะเหมาะสำหรับคนที่อยากเห็นผีแบบจะๆ ตัวเป็นๆ ไม่ใช่หนังผีประเภทตุ้งแช่ หรือผีโผล่มาตอนกลางคืน นี่ไม่ใช่หนังดีจนอยากหยิบมาดูบ่อยๆ แต่นานทีก็ดูได้เพลินๆ และไม่รู้สึกกลัวเหมือนสมัยดูตอนเป็นเด็กอีกแล้ว คราวนี้ตอนดึกจะเดินขึ้นบันไดมานอนที่ห้องก็ไม่ต้องย่องหรือเปิดไฟช่วย… ภาพ: ผู้เขียน