รีวิวหนัง "Leave the World Behind" อบอวลด้วยความไม่ไว้ใจ อึดอัด แล้วตบหน้าฉาดใหญ่!
และนี่คือหนึ่งในโปรเจกต์หนังที่สะกิดต่อมความน่าสนใจมาก ๆ เรื่องหนึ่งในปี 2023 เพราะแค่เห็นรายชื่อนักแสดงก็ดึงดูดใจมากแล้ว ยิ่งเป็นหนังที่ถูกดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องเยี่ยมที่ถูกจัดได้ว่าเป็นการเขียนที่ดีที่สุดในรอบทศวรรษ และนี่คือ "Leave the World Behind" หนังลึกลับไซไฟผสมผสานแนวคิดจิตวิทยาที่พร้อมจะมาหลอกหลอนทำให้คนดูหัวเสียได้เสมอ
Leave the World Behind เป็นเรื่องราวในวันหยุดที่เฝ้าใฝ่ฝันของ อะแมนดา และ เคลย์ กับลูก ๆ วัยรุ่นของพวกเขา ที่เช่าบ้านพักตากอากาศบริเวณชายหาดนิวยอร์ก แต่ถูกขัดจังหวะด้วยการมาเยือนของพ่อลูกผิวสีคู่หนึ่งที่แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เพราะมีเหตุการณ์ไฟดับข้างในเมือง ตามมาด้วยอินเตอร์เน็ตใช้ไม่ได้ โทรศัพทไร้สัญญาณ ปล่อยให้พวกเขาถูกตัดขาดจากโลกภายนอกไปชั่วขณะ
กระทั่งเสียงดังประหลาดเกิดขึ้นอย่างน่าฉงนสงสัย เป็นช่วงเดียวกับที่เหล่าสรรพสัตว์ต่างพากันอพยพในด้วยลักษณะท่าทางแปลก ๆ ยิ่งทำให้ครอบครัวนี้เริ่มวิตกกังวลในทุก ๆ ด้าน กลายเป็นการสร้างกำแพงกั้นระหว่างผู้เช่าคนผิวขาวกับเจ้าของบ้านคนผิวสี ก่อตัวเป็นประกายไฟสงครามทางความคิดที่ตบตีกันอลหม่านภายในหัวและรอบ ๆ ตัวพวกเขา
"แซม เอสเมลล์" จากซีรีส์ Mr. Robot มารับหน้าที่กำกับดูแลงานสร้างหนังเรื่องนี้ และนับว่าเป็นผลงานหนังฟอร์มใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เขาทำอาชีพนี้มา โดยเขายังรับหน้าที่ดัดแปลงเขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเองด้วย แน่นอนว่าภาพลักษณ์ของ Leave the World Behind น่าจะดึงดูดใจคอหนังแนวหายนะและวันโลกแตกได้เป็นอย่างดี เพราะมันชวนสื่อสารออกมาเช่นนั้น แต่อย่าเพิ่งไว้วางใจไป เพราะว่ามันซับซ้อนและซ่อนเงื่อนยิ่งกว่าที่เราคิดไว้
ใช่แล้ว มันคือหนังหายนะจิตวิทยาที่ค่อย ๆ ป้อนข้อมูลความวายป่วงใส่คนดูมาทีละเรื่อย ๆ มันเป็นหนังที่มีกลิ่นอายความเป็น เอ็ม.ไนท์. ชยามาลาน กับ จอร์แดน พีล หน่อย ๆ แต่มันอาจจะยังไม่ได้มีเสน่ห์และความน่าหลงใหลเหมือนกับผลงานของพวกเขาเหล่านั้น น่าเสียดายที่สุดท้ายมันเป็นแค่เพียงหนังที่เต็มไปด้วยอะไรที่เดิม ๆ กับช่องโหว่ของบทหนังที่ไม่คมคายเอาเสียเลย
หนึ่งในสิ่งที่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ก็คืไดอะล็อกบทพูดในหนังที่ติดภาษาที่ไม่ธรรมชาติไปสักหน่อย ยังติดความเป็นนิยายและภาษาเขียน แม้ว่านักแสดงพยายามอย่างเต็มที่แล้วที่จะดีไซน์บทบาทของพวกเขา แต่มันก็ยังออกมาเป็นรสชาติที่แปลกประหลาด และไม่ได้ชวนให้เราหลงใหลได้สักเท่าไหร่นัก เป็นจุดที่น่าเสียดายที่หนังไม่สามารถรั้งคนดูเอาไว้ได้อยู่
Leave the World Behind อาจจะมีการเปิดเรื่องที่ค่อนข้างน่างสนใจ ยอมรับเลยว่า 30-40 นาทีแรกของหนัง ค่อนข้างน่าสนใจดี ปูเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจ แต่พอเริ่มจับทิศทางได้ หนังค่อนข้างผละตัวเองให้ออกห่างจากคนดูไปเรื่อย ๆ กลายเป็นองค์ประกอบที่ไม่ค่อยน่าดึงดูดเท่าไหร่ เป็นจุดที่หนังเล่าไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีจุดเด่นใด ๆ เปล่งประกายออกมาเหมือนกับช่วงแรกที่เคยทำได้
เอาจริง ๆ หนังเรื่องนี้ค่อนข้างต้องใช้การตีความในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เพราะข้อความหลาย ๆ จุดที่หนังใส่เข้ามา บางส่วนเป็นเชิงสัญลักษณ์ที่แฝงไปด้วยการวิเคราะห์ไปถึงความหมายของมัน ถึงจะเป็นสิ่งที่พยายามช่วยดึงรั้งบรรยากาศให้หนังชวนอึดอัดใจ และสร้างความไม่ไว้วางใจแบบทื่อ ๆ ไปเสียง่าย ๆ หนังดูจะพยายามสร้างกิมมิกความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง แต่น่าเสียดายที่ทำยังได้ไม่ถึงอารมณ์นัก
ทางด้านการแสดงได้ 3 ดาราตัวเป้ง ๆ มาประชันบทบาทกัน "จูเลีย โรเบิร์ตส์" กับ "มาเฮิร์ซชาลา อาลี" คือนักแสดงมืออาชีพที่รับมือกับบทบาทของพวกเขาเอาไว้ได้ดีเสมอตัวอีกครั้ง ถึงมันจะเป็นบทบาทที่ค่อนข้างเลอะเทอะไปสักหน่อยก็ทีเดียว เช่นเดียวกับ "อีธาน ฮอว์ก" ที่แทบจะไม่มีโอกาสได้เจิดจรัสทางการแสดงในหนังเรื่องนี้เลย ทั้งที่มีช่องและจังหวะอยู่หลายทีก็ตาม
รวมทั้งยังมี "ไมฮาลา เฮอรรอล์ด", "ฟาร์ราห์ แม็กเคนซี" กับ "ชาร์ลี อีแวนส์" ที่เป็นกลุ่มนักแสดงรุ่นใหม่ที่ตัวละครสมทบที่เข้ามาเติมเต็มหนังเรื่องนี้ได้ดี แม้ว่าองค์ประกอบทางการโดยรวมจะค่อนข้างใช้ได้ดี แต่เพราะพื้นฐานโครงสร้างเรื่องราวของหนังไม่ได้นำพาให้ส่งเสริมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิ โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังของเรื่อง ที่ค่อนข้างผลักไสคนดูออกไปเรื่อย ๆ อย่างน่าเสียดาย
สรุปในภาพรวมแล้ว Leave the World Behind คงไม่ใช่หนังเรื่องโปรดในรอบปีนี้ของเรา ไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะเคยตั้งความคาดหวังกับหนังเอาไว้หรือเปล่า แต่ผลลัพธ์สุดท้ายก็ไม่มีอะไรที่แปลกใหม่ มีเพียงแค่อาการปั่นประสาทจากสถานการณ์โดยรอบตัวละคร กับตัวละครต่าง ๆ เริ่มตะโกนใส่กันมาขึ้นเรื่อย ๆ กับภาวะที่บีบคั่นประสาทมากขึ้นเรื่อย ๆ
ถึงแม้ว่าหนังจะซ่อนแนวคิดและข้อความหลาย ๆ อย่างเอาไว้มากมาย ที่พยายามจะปล่อยออกมาและรอให้มันวนกลับมาช่วงไขกระจ่างให้กับแนวคิดต่าง ๆ ของทุกตัวละคร แต่น่าเสียดายที่ยังไม่คมคายเพียงพอที่จะทำให้กลายเป็นหนังที่สนุกได้ตลอดทั้งเรื่อง สุดท้ายมันก็กลายเป็นแค่หนังหายนะด้วยสถานการณ์ที่มองไม่เห็นทั่ว ๆ ไป กับคำอธิบายและความกระจ่างแจ้งที่ต้องการสื่อสารออกมา...แบบวนลูปเดิม ๆ
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Leave the World Behind
- ประเภท: ดรามา / ระทึกขวัญ
- ผู้กำกับ: แซม เอสเมลล์
- นำแสดงโดย: จูเลีย โรเบิร์ตส์, มาเฮิร์ซชาลา อาลี, อีธาน ฮอว์ก
- ความยาว: 138 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 8 ธันวาคม 2023 (ที่ Netflix)
Movie.TrueID METRIC: Leave the World Behind
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5/10)
คุณสามารถรับชม Netflix ได้ง่าย ๆ จากกล่อง TrueID TV ตอบโจทย์ความบันเทิงได้ครบ!
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa