The shining VS Doctor SleepDoctor Sleep = การสานต่อ The shining ให้สมบูรณ์แบบมากกว่าเดิม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องที่แตกต่างออกไปจาก The shining ทั้งหมด แต่เอาชนะใจคนดูได้อยู่หมัดTS : หนังเล่าถึง แจ็ค ที่ได้หน้าที่มาเฝ้าโรงแรมโอเวอร์ลุคบนเขาที่ต้องปิดตัวชั่วคราวเพราะสภาพอากาศ เขาได้พาเวนดี้ ภรรยาและลูกชายอย่างแดนนี่มาด้วย แดนนี่เป็นเด็กชายที่มีพลังวิเศษที่สามารถเห็นวิญญาณหรือสื่อสารทางจิตได้อะไรทำนองนั้น โดยเค้าเรียกพลังนี้ว่า ‘the shining’ ยิ่งอยู่ในโรงแรมนี้ไปเรื่อยๆ แดนนี่กับเวนดี้เริ่มรู้สึกแปลกๆ แจ็คเองก็เปลี่ยนไปมาก จนมาถึงจุดที่ความสยองขวัญได้เริ่มขึ้นDS : หนังเล่าเรื่องต่อจากแดนนี่เมื่อ 40 ปีที่แล้ว หลังจากเหตุการณ์ตอนนั้น เค้าก็ได้เก็บซ่อน the shining ของตัวเองไว้ จนได้มาพบว่ามีลัทธิ The true knot ที่พยายามตามหาและดูดกิน the shining ของเด็กๆ คนอื่น เหตุการณ์นี้ทำให้เค้าได้พบกับ แอบรา เด็กสาวที่มี the shining ที่แข็งแกร่งมาก เธอต้องต่อสู้กับ the true knot พร้อมแดนนี่ และทำให้พวกเค้าต้องกลับไปพบความสยองขวัญที่โรงแรมโอเวอร์ลุคอีกครั้งเครดิต : IMDbTS : หนังเน้นค่อยๆ เล่าเรื่องแบบไม่หวือหวามาก เรียกว่าเป็นแนว psychological thriller ที่ค่อยๆ บิ้วอารมณ์คนดูผ่านทางบรรยากาศ ท่าทีของตัวละครมาเรื่อยๆ แล้วค่อยมาลงปั้งตอนจบ 20 นาทีสุดท้าย ทำให้ระหว่างทางคือง่วงมาก แต่ถ้าทนดูจนถึงซีนพีคแล้วจะตาตื่นขึ้นมาทันที เพราะซีนนั้นมันตราตรึงอยู่ในใจจนกลายเป็นตำนานหนังเขย่าขวัญของ Stephen king ได้เลยDS : สำหรับภาคนี้ตอนแรกก็คิดว่าจะมาแนวเดียวกัน แต่ปรากฏว่าผิดคาด แม้ว่าองค์แรกของหนังจะน่าง่วงนอนมากกก เพราะต้องมีการอารัมภบทถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน แต่หลังจากผ่านช่วงนั้นไป หนังผันตัวเองแทบจะกลายเป็น thriller fantasy หรือไปถึง supernatural เลยด้วยซ้ำ ทำให้ยิ่งดูไปยิ่งตื่นเต้น ไม่รู้ว่าจะมาแนวไหนเพราะเราคาดเดาอะไรไม่ได้เลย ซึ่งส่วนตัวเราชอบภาคนี้มากกว่า การเล่าเรื่องแอบเฉยๆ แต่รู้สึกว่าเนื้อหาน่าสนใจมาก สนุก น่าลุ้น ไม่ได้มาเล่นๆอ่ะเอาสิ หักมุมนู่นนี่นั่น แผนการอันชาญฉลาดของพระเอกและน้องแอบรา รวมถึงตัวร้ายก็ไม่ได้มาแบบโง่ๆ เครดิต : IMDb TS : ความตุ้งแช่แทบไม่มีเลย เล่นกับบรรยากาศล้วนๆDS : ภาคนี้แอบใส่ซีนแฮร่มามากขึ้นนิดนึง TS : ตั้งแต่ต้นจนจบคือทั้งโทนสี มุมกล้อง ซาวด์แทร็ค คือทุกอย่างมันสวยมากกกก DS : ตื่นเต้นนิดนึงว่ามุมกล้องคือแทบจะเลียนแบบภาคก่อนมาเลย สวยไม่แพ้กัน แต่สิ่งที่ขัดใจนิดนึงคือการตัดภาพ ตัดซีน ที่เรารู้สึกว่ามันแข็งๆ ไปนิดนึง คืออยากไปก็ไปอยากมาก็มา จะวกเข้าซีนไหนก็ได้ มีบางช่วงที่รู้สึกว่าตัดแบบนี้ก็ดูเท่ดี แต่บางทีเราว่ามันทื่อไป เครดิต : IMDb TS : แคสติ้งตัวละครดีมาก ถึงแม้จะมีตัวละครหลักๆ อยู่สามตัวแต่ว่าเอาอยู่ เก็บทุกเม็ด DS : แคสตัวละครเดิมได้เหมือนภาคแรกมากๆ เรียกได้ว่าเหมือนกับเอาภาพเก่ามาแปะเลยอ่ะ ชอบมาก ที่ไม่ชอบก็คงจะเป็นหนูแอบราที่ส่วนตัวรู้สึกว่าเราไม่ได้อินกับน้องเค้าเท่าไหร่นัก ที่ชอบอีกคนคือคนที่เล่นเป็นโรซี่ (rebecca ferguson) สวยมาก หุ่นเซี๊ยะมาก เล่นได้น่ากลัวมากด้วย555555 TS : สิ่งที่ชอบในภาคนี้ก็คือตรง 20 นาทีสุดท้ายของหนังจริงๆ คือสถานการณ์ตอนนั้นมันกดดันมาก ลุ้นมาก เข้าใจเลยว่าทำไมซีนเอาหน้าแนบประตูไม้ถึงกลายเป็นมีมให้เล่นได้ทุกวันนี้ เพราะมันเป็นซีนที่พีคจริงๆ DS : สิ่งที่ชอบคือการที่หนังมันพา TS ให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นไปอีกระดับ เรียกได้ว่าเป็นการไขปริศนาทั้งหมดที่เราเคยสงสัยใน TS โทนี่คือใคร? เชฟดิ๊กมาช่วยแดนนี่ทำไม? ปีศาจที่ครอบครัวทอร์เรนซ์เห็นคืออะไร? ทำไมโรงแรมโอเวอร์ลุคถึงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น? หรือแม้แต่ความสามารถของ the shining ในตัวแดนนี่ หนังเคารพต้นฉบับมากๆ อย่างที่บอกว่าบางซีนคือแทบจะเรียกได้ว่าเอาฟุตเทจเดิมมาฉายเลยด้วยซ้ำ ยิ่งตอนกลับไปในโรงแรมโอเวอร์ลุคคือรู้สึกถึงความเพื่อนเก่าเลยอ่ะ คือคิดภาพว่าใครที่ได้ดู TS เมื่อ 40 ปีที่แล้วมาดูภาคนี้คงจะแบบว้าวจริง เครดิต : IMDb The Shining : 8/10Doctor Sleep : 9/10PS. ต่อให้ไม่เคยดู the shining ก็สามารถดูเรื่องนี้อย่างเอ็นจอยได้นะคะ แต่หากตามเก็บให้ครบจะทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์มากขึ้นไปอีกค่ะ❤️PS2. ทั้งสองเรื่องหนังยาวประมาณสองชั่วโมงครึ่ง โดย Doctor Sleep ยาวกว่าเล็กน้อย เป็นหนังเขย่าขวัญที่ยาวมากๆ555555Just so into everythingแล้วทุกคนชอบเรื่องไหนมากกว่ากันคะ?