Short CommentAlice In Borderland Season 2 อลิซในแดนมรณะ (2022)ลงตัวขึ้นด้วยชั้นเชิงง่ายๆเดิมๆแต่ยกระดับความคุ้นเคยสู่ความสนุกสุดๆและได้ใจเมื่อสองปีที่แล้วมีซีรีส์ญี่ปุ่นที่สร้างปรากฎการณ์ใครๆก็ดูออกฉายในเดือนธันวาคมเรื่องหนึ่งและดูไปบ่นไปก็ไม่พลาดเป็นเรื่องปกติแต่ที่ไม่ปกติคือกลายเป็นว่าดูกันทั้งบ้านทั้งคุณแม่บ้านและคนรักหนังตัวเล็ก ด้วยความที่เข้าถึงง่ายดูง่ายมาพร้อมกับความบันเทิงเต็มพิกัดเพราะดูสนุกจริงลุ้นจริงและยังมีแก่นสารความซาบซึ้งและมีอะไรสะกิดใจในความคมคายที่มักจะมีให้สัมผัสในการ์ตูนญี่ปุ่นหรือที่ลูกๆผู้เขียนเรียกว่ามังงะ ซึ่งถ้าจะเอาให้ชัดจริงๆก็คือใช้ความบันเทิงนำมาทำให้คนดูรู้สึกสนุกแตะติดยึดกับสิ่งที่ซีรีส์เล่าออกมาด้วยชั้นเชิงง่ายๆที่พบได้ทั่วไปคือเล่นกับเวลาไม่กี่วินาทีระยะห่างไม่กี่มิลลิเมตรและภาวะจิตใจของคน แถมมาด้วยคุณภาพทางงานสร้างและการเขียนบทที่ลงตัวที่สุดแล้วถ้าว่ากันที่เรื่องไซไฟแฟนตาซีที่สร้างจากมังงะโดยไม่ต้องไม่สนสี่สนแปดเรื่องความสมเหตุสมผลใดๆ ทำให้งานออกมาดูสนุกได้ใจจนใครบางคนดูยาวไปรวดเดียวจบกับตอนจบที่ก็เป็นเรื่องปกติที่จะเปิดทางไว้ให้มีซีซันต่อไปทำให้กลายเป็นการรอคอย สุดท้ายการรอคอยก็สิ้นสุดลงหลังจากผ่านไปสองปีที่เมื่อได้ดูแล้วก็ยังหยุดไม่ได้อยู่ดีทั้งที่ก็เล่นแบบเดิมเรื่องราวต่อมาหลังจากที่อะริสุ (เคนโตะ ยามาซากิ) กับ อุซางิ (ทาโอ สึจิยะ) เคลียร์เกมที่เป็นไพ่ตัวเลขได้หมดแล้วเหลือเพียงเกมไพ่หน้าคนเพียงไม่กี่เกมที่ต้องผ่านให้ได้ทั้งหมดเพื่อความหวังจะกลับสู่โลกปกติและรู้ความจริงเกี่ยวกับ Borderland ทว่าเมื่อเริ่มต้นขึ้นมากลุ่มของอะริสุและอุซางิที่ประกอบด้วยจิชิยะ (นิจิโระ มุราคามิ) , อัน (อายากะ มิโยชิ) และคุอินะ (อายะ อาซาฮินะ) ต้องถูกจู่โจมจากคิงโพดำที่ใช้อาวุธถล่มผู้เล่นเกมจนทำให้ทั้งหมดต้องเตลิดหนีและพลัดหลงกันโดยที่อันตัดสินใจออกจากโตเกียวเพื่อไปค้นหาว่าโลกที่พวกเขาและเธอกำลังจะต้องเอาชีวิตรอดอยู่นี้แท้จริงคือที่ไหนกันแน่ ส่วนอะริสุ , อุซางิ , คุอินะ และทัตตะ (ยูทาโร่ วาทานาเบะ) สมาชิกใหม่ต้องตัดสินใจเข้าร่วมเล่นเกมไพ่หน้าคนในแต่ละเกมเพื่อที่จะหลบให้พ้นจากการโจมตีของคิงโพดำ และไม่ว่าพวกเขาจะเลือกเล่นเกมอะไรหรือคาดเดาว่าความยากกง่ายจะขนาดไหนแต่เมื่อเป็นผู้เล่นที่ต้องต่อสู่กับอีกฝ่ายโดยมีชีวิตเป็นเดิมพันทุกเกมจึงไม่ง่าย แล้วอะริสุกับอุซางิจะไปจนถึงเกมสุดท้ายได้อย่างไรและสมาชิกที่พลัดหลงกันจะมาพบกันอีกหรือไม่ดูลงตัวขึ้นเมื่อไม่ต้องเกริ่นมากแล้วเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงด้วยชั้นเชิงเดิมที่ยังได้ผล โดยภาพรวมแล้วถ้านับว่าเป็นการสานต่อเพื่อไปหาบทสรุปที่คนดูคาดหวังซีซันนี้ดูดีและลงตัวขึ้นเพราะกระจายตัวเล่นไปยังตัวละครที่คนดูรักได้อย่างทั่วถึง ด้วยชั้นเชิงแบบเดิมคือการเล่นกับเวลาไม่กี่วินาทีหรือไม่กี่นิ้วกระทั่งเล่นกับความรู้สึกคนดูด้วยการขีดเส้นความรู้สึกชัดเจนซึ่งก็คือสิ่งที่เคยทำได้ดีในซีซันที่แล้ว แล้วเดินเรื่องไปข้างหน้าอย่างมั่นคงไม่มัวพะวงว่าคนดูจะจับจุดหรือเชื่อมโยงไม่ได้เพราะไม่ได้ตั้งใจมายากตั้งแต่แรก บทจึงพัฒนาไปข้างหน้าอย่างฉับไวไม่มัวมาเกริ่นอะไรมีเพียงอธิบายบ้างกับตัวละครใหม่หรือในเรื่องที่ต้องการจะสื่อที่ฝังไว้ตามสไตล์งานสร้างจากมังงะซึ่งก็สัมผัสได้ จึงกลายเป็นว่าซีซันนี้คือการตอกย้ำสิ่งที่ตัวละครต้องการและยิ่งชัดเมื่อบทเลือกฉายภาพของคนอื่นๆบ้างนอกจากอะริสุกับอุซางิ ทำให้เจตนาที่จะปูไปสู่บทสรุปสุดท้ายที่คนดูอยากรู้และสงสัยไปกับตัวละครเป็นการอธิบายที่ลงตัวแม้จะไม่กระจ่างทุกอย่างเพราะเรื่องแบบนี้บางทีก็ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้เอาที่เจตนาจะมาให้คนดูรู้คนดูก็รู้ว่าต้องการให้อะไรก็น่าพอใจแล้วเมื่อตัวละครได้ใจจึงไม่ต้องทำอะไรมากแต่ก็มีราคาต้องจ่าย อาจเพราะหัวใจคนดูผูกติดกับตัวละครไปแล้วด้วยความที่แยกชัดระหว่างผู้เล่นกับเกมทำให้ความรู้สึกเลือกที่รักมักที่ชังมีเต็มที่แล้ว เมื่อมีตัวละครในใจสิ่งที่ตามมาคือคนดูจะเอาใจช่วยตัวละครที่ตัวเองรักไปให้สุดทางแม้ว่าจะเห็นอยู่ว่าวางมิติของฝั่งตรงข้ามให้น่าเห็นใจและมีเหตุผล แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอเพราะชั้นเชิงยังจัดการได้ด้วยการผลักตัวละครเข้าสู่จุดอับจนความลุ้นระทึกมีมาแบบไม่เว้นวาง ทว่าการที่ตัวละครได้ใจคนดูมากไปก็กลายเป็นมีราคาที่ต้องจ่ายเพราะดูไปก็เหมือนมีอะไรที่อยากเล่ามากเพราะเสียดายตัวละครหรือกลัวว่าตัวละครที่คนดูรักเหล่านั้นจะไม่มีเวลาที่น่าจดจำแต่เวลาดันมีจำกัด กลายเป็นว่าอัตราความเร้าใจมีสูงจริงแต่ไม่มีตอนไหนหรือเกมใดที่กลายเป็น MVP หรือเป็นภาพจำชัด คือเรื่องดูสนุกจริงลุ้นจริงแต่หาจุดประทับใจไม่ได้ต่างจากซีซันแรกที่เลือกยากว่าจะมอบความประทับใจที่สุดให้ตอนไหนหรือเกมใด แต่กับซีซันนี้เมื่อมีอะไรให้เล่ามากเลยลงลึกไม่ได้ทำให้กลายเป็นความบันเทิงที่มาเร็วเคลมเร็วแต่ไม่มีตอนไหนพีคสุดหลังจากเกมคิงดอกจิกที่ลมมันเย็น เหมือนขาดอะไรบางอย่างแต่ไม่ขาดเพราะเนียนตาขึ้นจนไม่รู้สึกว่าถูกเร่งหรือบีบแต่ก็ทำให้เหมือนไม่มีคลื่นลมแรง ส่วนหนึ่งที่ทำให้ซีซันที่แล้วสร้างความประทับใจอย่างสุดทางคือการเป็นการ์ตูนที่มีหัวใจในเรื่องของความรักความหวังความผูกพัน การยอมรับตัวเองและความหมายของการมีและการใช้ชีวิตที่แฝงไว้ตามสไตล์ที่เป็นหัวใจข้างในร่างกายที่ดูดี และสิ่งเหล่านั้นออกมาอย่างเข้มจัดจนมีรอยยิ้มและซาบซึ้งไปกับสิ่งที่ต้องการจะสื่อเหล่านั้นซึ่งเมื่อมาในซีซันนี้ด้วยความที่พื้นฐานถูกเล่าไปหมดแล้วที่เหลือเลยยังเหมือนไม่จับใจคือสัมผัสได้แต่พลังไม่แรงเท่า จนเหมือนคราวนี้ลืมเอาหัวใจมาแต่ก็เหมือนเนียนตาขึ้นเพราะไม่เหมือนตั้งใจยัดเยียดอาจเพราะเลือกเล่าผ่านตัวละครที่หลากหลายขึ้นสถานการณ์ไปไกลขึ้นทั้งยังสอดอารมณ์ขันเจ็บๆมาบ้างบางคราว จนทำให้เรื่องเบื้องหลังแบบนี้ถูกความบันเทิงที่เรื่องจัดมาเต็มที่จัดการจนอยู่หมัดคือเห็นชัดแต่ไม่ทะลุหัวใจ นั่นคือมิติเชิงอารมณ์ไม่หายก็เหมือนหายจนกลายเป็นว่าตอนสุดท้ายมีช่วงเวลาที่น่ารำคาญไปหลายนาทีเพราะการสานต่อในบางเรื่องไม่ชัดจนอะไรก็ตามที่ตั้งใจให้คนดูรู้สึกในตอนสุดท้ายกลายเป็นเยอะเกินความจำเป็นอย่างน่าเสียดายเสน่ห์ที่ยังได้ใจของผู้เล่นเก่ามาพร้อมกับเสน่ห์ผู้เล่นใหม่ที่มีบ้างที่น่าเห็นใจและเสียดายที่ต้องมีบทสรุปอย่างที่เห็น ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือตัวละครเก่าที่ได้ใจคนดูทั้งทาโอ สึชิยะ , เคนโตะ ยามาซากิ , นิชิโระ มุราคามิ , อายากะ มิโยชิ หรืออายะ อาซาฮินะที่มีเสน่ห์ดึงดูดสายตาที่มาจากคาแร็คเตอร์ตัวละครที่ถูกออกแบบมาและการขีดเส้นในใจคนดูตั้งแต่ซีซันที่แล้ว และเมื่อมาซีซันนี้ทุกคนยังคงมีเสน่ห์มีความเป็นตัวของตัวละครนั้นได้แม้จะเหมือนการ์ตูนไปบ้างก็หาเป็นไรไม่เพราะเรื่องเป็นการ์ตูนตั้งแต่แรกแล้ว สิ่งที่ตามมาคือคนดูยังเทใจให้ตัวละครเก่าที่มีบ้างเมื่อใครหายหน้าไปก็คิดถึงว่าเขาหรือเธอไปทำอะไรอยู่ แต่ที่น่าสนใจคือตัวละครใหม่ทั้งผู้เล่นและอีกฝั่งของเกมที่ออกมาดูดีมีเสน่ห์มีเบื้องหลังที่จับต้องได้แต่เมื่อฝ่ายหนึ่งรอดฝ่ายหนึ่งก็ต้องไปก็ทำให้กลายเป็นน่าเสียดายที่ใครบางคนมีเวลาอยู่แค่นั้นหรือว่ามาเพื่อลา แต่ถ้านับว่ามาเพื่อสร้างความบันเทิงที่มีเนื้อมีหนังตัวละครใหม่ดูมีน้ำมีนวลกว่าเพราะตัวละครเก่าได้ถูกเล่ามาแล้วและบางอย่างก็เลือกให้ความรู้สึกคนดูคิดเข้าข้างเองทำให้อุดมไปด้วยตัวละครที่มีเสน่ห์มาเดินเรื่องไปอย่างเจริญตาอาจจะบอกไม่ได้ว่าดีกว่าเดิมเพราะของเก่าดูสดกว่าแต่ของใหม่ก็คือการสานต่อและสรุปอย่างทรงคุณค่า เพราะถ้าว่ากันที่ความบันเทิงอะไรที่ควรมาก็มาอะไรที่ควรมอบให้คนดูก็ให้ได้ไม่มีบกพร่อง แล้วถ้านับกันที่ซีซันนี้ที่คนดูรอคอยก็นับว่าถึงฟอร์มเล่าเรื่องเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วการวางเงื่อนตอนต่อตอนกระตุ้นความอยากดูอย่างถึงใจอัตราความน่าติดตามอยู่ในระดับที่ผู้เขียนและคนรักหนังตัวเล็กดูรวดเดียวจบตีสอง ทั้งยังเดินหน้าไปอย่างมั่นคงโดยทิ้งชั้นเชิงความเป็นมังงะแล้วมาเล่าในแบบภาพยนตร์มากขึ้นทำให้แม้บางอย่างจะดูเบาบางไปอยู่ข้างหลังแต่ยังทำให้เจตนาที่มีทำหน้าที่ของมันได้ แต่ถ้าเอาไปเทียบกับซีซันแรกจะเห็นความสดใหม่ใหม่และเจตนาชัดที่จะมีต่อไปและเล่าเรื่องแบบมังงะมากกว่าที่อาจขัดใจแต่ก็กระตุ้นอารมณ์ได้อีกแบบ แต่เมื่อรวมกันแล้วซีซันนี้ก็คือการสานต่อที่ลงตัวที่ถ้าแยกกันอาจไม่ได้ดีกว่าเดิมแต่ถ้ามองย้อนไปจากจุดเริ่มต้นในซีซันแรกแล้วคนดูอยากรู้อะไรอยากได้อะไรก็จัดมาให้เรียบร้อยจนเป็นบทสรุปที่แสนลงตัวจนบางอารมณ์ก็เสียดายที่สรุปลงท้ายไปแบบนี้ที่อาจไม่มีต่ออีกแล้ว และกับซีซันนี้โดยรวมแล้วคืองานดีที่น่าประทับใจสมการรอคอยดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3,4,5,6 / ภาพที่ 7,8 จาก Instagram netflixjp จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !