“ตั้ม วราวุธ” เผยเอาผิดคู่กรณีให้ถึงที่สุด อัปเดตอาการพร้อมรับงานแล้ว

“ตั้ม วราวุธ” เผยเอาผิดคู่กรณีให้ถึงที่สุด อัปเดตอาการพร้อมรับงานแล้ว
ทำเอาแฟนๆ เป็นห่วงหลังนักร้อง นักแสดงหนุ่ม “ตั้ม วราวุธ” เกิดอุบัติเหตุรถชนจนรักษาอาการปลอดภัยพร้อมรับงานได้แล้ว ล่าสุดมีโอกาสเจอหนุ่ม “ตั้ม” เลยให้อัปเดตอาการพร้อมคดีความที่เจ้าตัวไม่ยอมเอาผิดคู่กรณ๊ให้ถึงที่สุด
“ข้างในตอนนี้ยังละลายไม่หมด ข้างนอกโอเคมากๆ ไปหาหมอฟันเพราะว่าฟันหน้าผมหายไปเลย 3 ซี่ ตอนนี้ก็ใส่วีเนียร์ชั่วคราว ยังอ้าปากทำแบบนั้นไม่ได้ก็เลยใส่ชั่วคราว ตอนนี้มันยังไม่สมบูรณ์ แล้วแผลข้างในจมูกโดนเยอะ ก็ยังเจ็บอยู่ เพราะว่าดั้งเราหัก แล้วแผลที่ฉีกคือมันฉีกแบบเห็นฟันเลยแยกถึงจมูก ตอนนี้เวลาที่ยิ้มกลับมา มันยังตึงอยู่ ตรงกลางไม่สมานกัน ยังแข็ง เป็นไตๆ เวลาที่ไปโดนอะไรแรงๆ มันก็ยังรู้สึกเจ็บ เวลาพูดก็จะมีความตึงๆ อยู่ ก็ไม่ได้ศัลยกรรมอะไรเลย จมูกก็แค่ดัดกลับ ส่วนปากโชคดีที่ได้หมอศัลยกรรมเย็บให้ ทุกคนชมว่าแผลสวย ขอบคุณคุณหมอมากๆ ส่วนร่างกายส่วนอื่น มันก็จะมีแขน คือวันแรกที่ผมประสบอุบัติเหตุ แขนฝั่งซ้ายผมไม่สามารถยืดได้เลย เหมือนว่ามันช้ำที่เอ็น ก็ไปกายภาพแล้วก็ไปฉีดสเต็มเซลล์ตรงข้อศอกมาแล้ว ตอนนี้ดีขึ้นมากเกือบ 100% แล้ว
ก็เป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิต คือมันเป็นเหตุการณ์ที่อุบัติเหตุจริงๆ ตั้งตัวไม่ทัน รู้ตัวอีกทีผมหายไปแว้บนึง แล้วก็ตื่นขึ้นมาอีกทีก็มีคนมาพยุงเรา ตอนนั้นมันคือชาเลยไม่รู้สึกว่าตัวเองเจ็บ ไม่รู้ว่าเลือดออก ตอนนั้นใจไม่ดีแล้ว แต่ก็ไม่สามารถนอนได้ เพราะว่าตอนที่โดน พี่ที่ปฐมพยาบาลก็ให้เรานอน แล้วผมปวดหัวมาก ผมก็เลยคิดว่าผมจะเสียความทรงจำไหม
ตอนนี้ก็มีหลักฐานหมดแล้ว มีกล้องวงจรปิดหมดแล้ว แต่ส่วนเรื่องคดีความให้พ่อผมจัดการ เพราะว่าโชคดีที่พ่อเป็นทนายความ ก็จะเร็วหน่อย ให้เขาจัดการเรื่องคดีไปเลย เราไม่อยากไปโฟกัสตรงนี้แล้ว คู่กรณีเรายังไม่ได้เจอเลย แล้วก็เห็นว่าญาติเขาจะนัดเจอวันที่ 11 มิ.ย. เพราะว่าจะไปเอารถมอเตอร์ไซค์ที่สถานีตำรวจ ก็เลยจะให้คุยกัน วันที่ 11 มิ.ย. นี่คือครั้งแรกที่ผมจะได้เจอญาติคู่กรณี ที่จริงพ่อผมยื่นโนติส เพราะว่าเขาไม่ได้มีการติดต่อมาเลย ถ้าเขาติดต่อมา เราจะได้รู้ว่าโอเค ยังไงกัน ทำยังไงให้จบ แต่พอพ่อยื่นโนติสเสร็จ ก็มีญาติเขาโทรมาเหมือนกัน บอกว่า โอเค ตอนนี้ทางฝั่งโน้นยังไม่พร้อมที่จะคุย ก็เลยจะส่งญาติมาก่อน
เราไม่ได้ติดเรื่องไหนเลย เราติดแค่เรื่องเดียวที่ว่า เขาไม่ได้ติด ต่อกลับมาหรือแสดงความเป็นห่วงเป็นใย การแสดงความมีน้ำใจแค่หลักเริ่มต้นของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแสดงความเป็นห่วงกันก็ยังดี อันนี้เรายังไม่ได้พูดถึงเรื่องผิดหรือไม่ผิดนะ มันจะทำให้เรารู้สึกว่าเราก็อยากเอาให้สุดเหมือนกัน เพราะว่าเราก็เสียอะไรไปหลายอย่าง ทั้งโอกาส ทั้งงาน ทั้งเงินที่เราจะต้องคืนลูกค้าไป แค่ความเป็นเพื่อนมนุษย์ร่วมกันเขายังไม่มีให้กับเราเลย ดังนั้นเราก็รู้สึกว่าอะไรที่เราจะเรียกร้องได้เราก็เต็มที่
กระทบเยอะ เราจะมีถ่ายพรีเซนเตอร์อยู่ตัวหนึ่งก็เลื่อนถ่าย อีเวนต์สองงานไม่เลื่อนก็คือเขาต้องจัด อีเวนต์เขาต้องจัดต่อเราก็ต้องคืนเงินกับทางลูกค้าไปสองงาน แล้วก็งานใหม่ๆ ที่เข้ามารับไม่ได้ เป็นงานร้องเพลง รายได้หายเยอะ 6 หลักถึง 3 เดือน เราคงไม่ปล่อยให้ตัวเองไม่รับงาน 3 เดือนแน่นอน เราเริ่มรับงานแล้วบอกทุกคนตรงๆ เลยว่า เรารับงานปกติ รับงานร้องเพลงปกติ ทำงานแล้ว ร้องเพลงร้องมาแล้วด้วยงานหนึ่ง เราสามารถที่จะอ้าปากหรือร้องเพลงออกเสียงอย่างพี่ๆ เห็นที่เรากำลังพูดตอบโต้ได้ปกติ รับงานได้ทุกอย่างแล้วก็ไม่ต้องกังวลอะไรเราไปเต็มร้อยแน่นอนสำหรับทุกๆ งาน
คือคนรอบตัวไม่ให้ขับมอเตอร์ไซค์แล้ว ในยามวิกาลในยามจำเป็นที่เราอาจจะต้องนั่งวินมอเตอร์ไซค์ ขับเองไม่ขับแล้วแน่ๆ แต่ถ้านั่งวินมอเตอร์ไซค์อีเวนต์รีบเราว่าบางครั้งอาจจะต้องมีแต่ต้องระมัด ระวัง วันนั้นขนาดเราใส่หมวกกันน็อกปากเรายังเป็นแบบนี้เลย บางทีเราไม่ได้ประมาทเราขับของเราเขาอาจจะมาชวนเราได้ แล้วถ้ามันเกิดสิ่งนั้นขึ้นมาจริงๆ ชั้น 2 ของเราคืออะไร คือหมวกกันน็อกแต่ถ้าจะให้ดีที่สุดเผื่อเวลาแล้วไปรถยนต์อย่างน้อยเหล็กหุ้มเนื้อ อันนี้เนื้อหุ้มเหล็กจริงๆ ถ้ามันอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้บนท้องถนนขอให้เป็นเหล็กที่มันดูแลเรารอบๆ ตัวดีกว่า เพราะฉะนั้นเป็นไปได้มอเตอร์ไซค์เป็นเคสสุด ท้ายที่เราจะขับขี่บนท้องถนน”