รีวิวหนัง "The Substance สวยสลับร่าง" เปิดโหมดแอคชันโหด ฉบับใช้ความสวยสังหาร!

ได้ยินเสียงร่ำลือมาตั้งแต่เทศกาลหนังเมืองคานส์ที่ผ่านมา ว่านี่คือหนังที่เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมได้ไม่น้อย พร้อมกับคว้ารางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปีแบบโดดใจคณะกรรรมการมา สำหรับ "The Substance สวยสลับร่าง" หนังระทึกขวัญที่หยิบเอาบรรทัดฐานแห่ง Beauty Standard มาตีแผ่บนจอใหญ่ได้อย่างแสบสันต์ และล้นไปด้วยอรรถรสที่ทำให้คนดูต้องบันเทิงและเหวอออกจากโรงหนังตาม ๆ กัน

The Substance สวยสลับร่าง เป็นเรื่องราวของ อลิซาเบธ สปาร์เคิล อดีตนักแสดงชื่อดัง ที่บัดนี้ผันตัวมาเป็นอินฟูลเอนเซอร์สายสุขภาพที่เผชิญหน้ากับปัญหาวัยกลางคน เมื่อช่องโทรทัศน์ทำการไล่เธอออกจากหน้าที่ เพราะเธอร่วงโรยไปตามกาลเวลา นั่นทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดชอกช้ำเป็นอย่างมาก ที่ชีวิตดูเหมือนไร้ค่าเพราะความแก่โรยรา

กระทั่งเธอได้รู้จักกับเทคโนโลยีลอกคราบที่ชื่อว่า เดอะ ซับสแทนซ์ ที่เพียงแค่เข้าคอร์สนอนเพาะบ่มอยู่ในถุงเพาะเลี้ยงตามเวลาที่กำหนด สารอาหารจะช่วยให้ร่างกายฟูมฟักร่างวัยเยาว์ออกมาเป็นการลอกคราบตัวตนออกมา กลายเป็นหญิงสาวที่ชื่อว่า ซู พวกเธอทั้งสองได้เชื่อมโยงกันเป็นหนึ่งเดียว เพียงแต่ต้องมีคนใดคนหนึ่งต้องอยู๋ในภาวะจำศีล ในช่วงระหว่างที่คนหนึ่งต้องออกไปใช้ชีวิต

ผู้กำกับหญิงชาวฝรั่งเศส "โคราไล ฟาร์เจต" มารับหน้าที่สร้างและเขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วยมือของเธอเอง ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านักสร้างหนังฝั่งยุโรปมักจะเต็มไปด้วยความจัดจ้านในการบรรเลงสีสันลงในผลงานตัวเองได้อย่างเต็มที่ กับผลงานเรื่องนี้ก็เช่นกัน เป็นการแต่งแต้มที่ค่อนข้างหนักมือและจัดเต็มในชนิดที่ว่าถูกใจนังช้อยยิ่งนัก นี่คือหนังที่อาจจะไม่ใช่หนังเชิงพาณิชย์จ๋า ๆ แต่ก็ไม่ใช่หนังอินดี้หรือหนังที่เข้าถึงได้อย่างแต่อย่างใดเลย

หนึ่งในความสตรองของหนังเรื่องนี้ก็คือบทหนัง ที่เรียกได้ว่าสมราคาที่คว้ารางวัลจากคานส์มาได้ เพราะนี่คือหนังที่มีเส้นเรื่องและประเด็นที่แข็งแรงมาก ๆ เรื่องหนึ่งในรอบปีนี้เลย พล็อตหนังอาจจะไม่ได้ซับซ้อนอะไรจนคาดไม่ถึงขนาดนั้น แต่ระหว่างทางการร้อยเรียงเรื่องกับสถานการณ์ต่าง ๆ ของตัวละครต่างหาก ที่ทำให้กลายออกมาเป็นเสน่ห์ของบท และทำให้มิติถูกทับถมกันมากขึ้นเรื่อย ๆ สู่ชั้นเชิงของบทหนังที่แจ่ม ทำได้และทำถึง

จังหวะลีลาการเล่าเรื่องของ The Substance แทบไม่มีช่วงที่น่าเบื่อเลย ทุกย่างก้าวของหนังเรื่องนี้ได้นำทางคนดูไปในทิศทางที่รู้สึกว้าวกับการตัดสินใจของตัวละคร ภายใต้แรงกดดันมหาศาลของสังคมปิตาธิปไตยที่บีบรัดเกือบจะหายใจไม่ออก สตอรี่ฉับ ๆ ไปอย่างรวดเร็วและเพลิดเพลินมาก ยิ่งมาผนวกเข้ากับองค์ประกอบงานสร้างที่ค่อนข้างดีงามตลอดทั้งเรื่อง ยิ่งเป็นการช่วยส่งเสริมกันเป็นอย่างดี

เราอาจจะต้องยกนิ้วให้กับงานโปรดักชันดีไซน์ของ The Substance ที่ออกแบบฉากและสไตล์ รวมทั้งซีเควนท์ต่าง ๆ ออกมาได้ถึงใจยิ่งนัก ทุก ๆ ฉากของหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยสัญลักษณ์เชิงสะท้อนต่อแนวคิดของตัวละครแบบกว้าง ๆ สีสันที่จัดจ้านฉูดฉาดยิ่งทำให้ดึงดูดใจยิ่งนัก ยิ่งได้งานภาพถ่ายของ "เบนจามิน กราคอน" (จาก Promising Young Woman) ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งองค์ที่ช่วยยกระดับความปังให้กับหนังเรื่องนี้ออกมาได้เข้าใกล้ความสมบูรณ์ขึ้นไปอีก

ในพาร์ทการแสดงก็ต้องลุกขึ้นปรบมือให้กับ "เดมี มัวร์" อย่างกึกก้อง เพราะนี่น่าจะเป็นหนึ่งบทบาทที่ดีที่สุดในอาชีพนักแสดงของเธอเลยก็ว่าได้ ซึ่งเราก็รอให้เธอได้มีโอกาสได้แตะต้องบทแบบนี้ได้สักที และแม่เดมีก็รับมือกับมันได้อย่างสุดจึ้ง ราวกับว่าบทนี้เกิดมาเพื่อเธอโดยแท้ เพราะใคร ๆ ก็มักจะมองเธอว่าเป็นสายสวยสองพันปี ดังนั้นการแสดงในเรื่องนี้ไม่ต่างกับหยิบเอาแรงกดดันจากชีวิตจริงมาถ่ายทอด และระเบิดพรั่งพรูออกมาได้อย่างสุดโต่ง ทั้งที่มันเป็นบทที่สุดขั้วและสุดขั้นจริง ๆ

อีกคนที่ละลายตาไปไม่ได้เลยเช่นกัน "มาร์กาเร็ต ควอลเลย์" คิดว่าน่าจะถึงแก่เวลาที่สาวคนนี้จะได้แสงสปอตไลท์สาดส่องมาที่ตัวเธอแล้ว หลังจากที่สั่งสมประสบการณ์มีผลงานที่หลากหลายมาก ๆ ในช่วง 4-5 ปีมานี้ และผลงานเรื่องนี้เธอก็สามารถแสดงให้เห็นได้แล้วว่าเธอเอาอยู่กับบทนี้ได้ดีแค่ไหน เพราะนอกจากความสวยดุจดั่งหลุดออกมาจากแม็กกาซีนแฟชั่น การแสดงของเธอก็ทำออกมาได้น่าสนใจ เหมาะกับเสน่ห์อันงดงามของเธอที่เหมือนกับเกิดมาเพื่อบทนี้เช่นกัน

และจะพูดถึงอีกคนแบบสั้น ๆ นั่นก็คือ "เดนิส เควด" ที่อาจจะไม่ได้มีซีนเยอะแยะมากมายเท่าไหร่ แต่รับรองเลยว่าเขาออกมาครั้งไหนก็โดดเด่นจริง ๆ นี่แหละคือนักแสดงมืออาชีพของแท้ ที่สามารถถ่ายทอดบทบาทชายเป็นใหญ่ในอุตสาหกรรมบันเทิงได้อย่างน่าขยะแขยงดีจริง ๆ นี่คือคำชมจริง ๆ

นั่นจึงทำให้ The Substance สวยสลับร่าง ได้วิ่งแซงโค้งเข้ามาเป็นหนึ่งในทำเนียบหนังเรื่องโปรดประจำปี 2024 ของเราไปอีกเรื่องแล้ว เพราะนี่คือหนังที่กระโจนใส่ต่อมอารมณ์ของเราได้อย่างตรงไปตรงมาแทบจะทุกจุด หนังยังเต็มไปด้วยองค์ประกอบที่ดีงาม งานกำกับออกมาดี บทหนังแข็งแรง การแสดงที่น่าทึ่ง รวมทั้งานสร้างอื่น ๆ ในหนังก็ผนวกเข้ากันได้อย่างปังจริง ๆ เป็นหนังที่เสียดสีได้อย่างแสบสันต์ พร้อมกับพาคนดูทะลุทะลวงไปสู่ปลายทางที่สุดโต่ง บนเส้นทางที่ไกลมาก ไกลแบบที่คนดูอย่างเรา ๆ ก็รออยู่เช่นกันว่าหนังจะพาไปแลนดิ้งที่ตรงไหนให้มันเปรี้ยงปัง!