A Legend พลิกตำนาน ฟัดทะลุเวลา กำกับโดย สแตนลีย์ ตง ผู้ให้เสียงพากษ์นักแสดงนำหลัก : เฉินหลง / น้าติ่ง สุภาพ และ ทีมพากษ์ มาสเตอร์ สตูดิโอ ทุกท่าน ที่ไม่ได้กล่าวถึงในที่นี้ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เบื้องหลังความสำเร็จ ของหนังภาคนี้ ด้วยฝีมือการกำกับของ ผู้กำกับ สแตนลีย์ ตง ที่ได้มาทำหน้าที่นี้ตั้งแต่ วิ่งสู้ฟัด และ ใหญ่ฟัดโลก เป็นทั้งผู้ดำเนินงานสร้าง ออกแบบฉากต่อสู้ และเขียนบทภาพยนตร์ ทำให้เราได้เห็นฉากสวยๆ เอฟเฟคดีๆ และการดำเนินเรื่องที่สลัลซับซ้อน และเพราะคำว่า "ฟัด" คำนี้แหละที่ได้กลายมาเป็นจุดขายให้กับหนังและนักแสดงเรื่องนี้ จนโด่งดังมาถึงปัจจุบัน ผมอาจจะบอกได้ว่า จะมีหนังสักกี่เรื่อง ที่เลือกฉากถ่ายทำสถานที่ สวยๆได้มาก เท่าเรื่องนี้อีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ฉากสุสานทหาร จิ๋นซี ฮ่องเต้,ฉากวิวทิวทัศน์ของภูเขา หรือ ฉากม้าวิ่งกันเป็นฝูงผ่านเส้นทางสายน้ำ จนน้ำสาดกระเซ่น ที่ดูเหมือนหลุดออกมาจากภาพวาด ที่เราเคยเห็นกันตามบนผนังร้านขายศิลปะ แต่อันนี้เรียกว่าเป็นศิลปะที่มีชีวิต ที่ทำให้เรารู้สึกไปตามโสตสัมผัส ที่เรามองเห็น เสียงที่เราได้ยิน และบางฉากที่แสดง ภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม จนลืมไปว่า เรากำลังดูหนังอยู่ กับฉากบรรยากาศไกลสุดลูกหูลูกต่าง มีแม่น้ำกั้นเป็นทางยาว ไปตามแนวภูเขา เหมือนกำลังเชิญชวนให้เราลองไปเที่ยวสักครั้ง ตลอดระยะเวลาที่เราเฝ้าติดตามผลงานมาตลอด เรามองเห็นการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่รูปร่าง หน้าตา ทรงผม บุคคลิกภาพ ที่เป็นที่น่าจดจำ ว่ามีหนึ่งเดียวในโลกใบนี้ ที่ซื้อใจคนดู โดยการเอาชีวิตไปเสี่ยงตาย ในหนังแต่ละฉาก แต่ละตอน พลอยให้เราได้ลุ้นระทึก ไปกับความกล้าได้กล้าเสีย ของเขาไปด้วย ทำให้เราได้เห็นฉากที่ต้องใช้สตั้นแมน แต่เขาเลือกที่จะแสดงเองเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น การกระโดดหน้าผา, ดำน้ำใต้พื้นน้ำแข็ง โดนระเบิดตกลงไปในธารน้ำแข็ง เป็นต้น เหล่านี้ทำให้เราได้ลุ้นระทึก ไปตลอดทั้งเรื่อง จนถึงตอนนี้ เทคนิคการถ่ายทำก็เปลี่ยนไป มีความทันสมัยมากขึ้น จนไม่เชื่อแน่ๆ ว่าเดี๋ยวนี้เขาทำได้แม้กระทั่ง ปั้นหน้าคนให้เด็กลงเป็นสิบปี ก็ยังได้ เมื่อเรามาพูดถึงจุดนี้ เห็นครั้งแรก ผมถึงกับมองเป็นตาเดียวว่า นี่เฉินหลง จริงๆใช่ไหม ซึ่งในภาคนี้เราจะเห็นตัวเอกของเราหน้ายังหนุ่มมาก แต่ถ้าดูให้ดีๆ มันเหมือน จะเป็นหน้าเดียวตลอดทั้งเรื่อง สังเกตุได้ว่า การแสดงสีหน้าต่างๆ ยังคงทำออกมาได้ ไม่เป็นธรรมชาติ ขนาดรอยตีนกา ยังไม่มีเลย จะบอกว่าเป็นเทคนิคที่นำมาใช้ครั้งแรกก็คงไม่ผิดนัก แต่ถ้าให้ดีน่าจะแสดงสีหน้าได้มากกว่านี้ก็จะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น จุดเด่นของเรื่องนี้ที่ดึงดูดสายตาคนดูตลอดเวลาก็คือ ฉากวิวทิวทัศน์ของภูเขา ที่พักติดหน้าผาวิวแบบพาโนรามา สามร้อยหกสิบองศา สุสานทหารจิ๋นซี ฮ่องเต้ ป่าหินแม่น้ำเหลือง และสิงห์แกะสลักน้ำแข็ง การเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ของสุดยอดสตั้นแมนคนนี้ ที่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอีกแล้วในฉากใต้น้ำแข็ง ที่มีความเย็นติดลบ ซึ่งมันมีความเสี่ยงเอามากๆ กับการเล่นตลกร้าย ของนักแสดงที่เล่นร่วมกันในฉาก ทำให้เราลุ้นอย่างมาก ว่าเขาจะขึ้นมาได้เมื่อไหร่ ถ้าเกิดพลาดนั้นคือตายจริงๆเลยนะ ในการเจาะน้ำแข็ง มันต้องใช้เวลา และไหนจะเอาขึ้นมาทำตัวให้อบอุ่นอีก ผมว่าฉากนี้เฮียแกเอาตัวเอง ไปเสี่ยงมากจริงๆ แต่ก็นะ นี่แหละ ความทุ่มเททุ่มใจของเขา ทำให้กลายเป็น ความประทับใจ และคอยติดตามผลงานของเขา มาตลอด หนังที่จะทำให้ประทับใจคนดู เหมือนไขคดีดังให้กระจ่าง และทำให้คนดูเข้าใจ ไม่ติดค้าง ในฉากจบ ที่แสดงให้เห็นถึง วิธีการถ่ายทำ ในฉากที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากของตัวผู้แสดงเอง ที่ต้องผูกอยู่กับลวดสลิงและต้องโหนไปโหนมา และเทคนิคการทำฉากหวือหวาอลังการ สิ่งเหล่านี้ทำให้คนดูกระจ่างและเข้าใจมากยิ่งขึ้น ว่าฉากนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ต้องใช้ทีมงานมากแค่ไหน เพื่อเซฟความปลอดภัย คุ้มค่าอีกหนึ่งเรื่องครับ ไม่ผิดหวังกับฉากอลังการงานสร้างและความระห่ำบนจอ ของพระเอกเรา ⭐ความพึงพอใจ 8/10 ⭐เนื้อเรื่อง 8/10 ⭐ความคุ้มค่า 8/10 ⭐เทคนิคการถ่ายทำ 9/10 ภาพประกอบบทความ Master Studio (1)(2)(3)(4) ภาพประกอบบทความ Master Studio (1) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !