ช่วงนี้โควิดระบาดหนักมาก มีรถพยาบาลวิ่งผ่านหน้าบ้านผู้เขียนทุกวันทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืนเลยค่ะ ก็เลยอยากจะแนะนำหนังแนวรอมคอมคอเมดี้ฟีลกู๊ดไม่อยากให้ทุกคนเครียดกัน และสามารถรับชมได้ทางช่อง Netflix (สามารถรับชมผ่านกล่องทรูไอดีได้แล้วนะคะ) ที่เป็นเรื่องที่ผู้เขียนชื่นชอบที่สุด 5 เรื่องที่ได้ทั้งความสนุก ความบันเทิง ความรู้สึกดีๆกลับไป และข้อคิดหรือแง่มุมต่างๆในการใช้ชีวิตเพื่อเป็นแรงบันดาลใจและกำลังใจในการสู้ชีวิตต่อนะคะ1. Senior Yearเล่าเรื่องราวของกัปตันเชียร์ลีดเดอร์ที่สลบไปเป็นเวลา 20 ปี ก่อนจะตื่นมาเป็นคนที่อายุ 37 ทั้งๆที่ภายในจิตใจของเธอยังอายุ 17 ปีอยู่ ซึ่งจากเรื่องย่อ ก็ออกจะดูเหมือนหนังสยองขวัญหน่อยๆ แต่เนื้อหาจริงๆกลับฟีลกู๊ดมากเลยความรู้สึกที่ได้ดู เป็นหนังสนุกเนื้อหาดีๆอีกเรื่องหนึ่ง ที่รู้สึกเหมือนย้อนระลึกความทรงจำของตัวเองกลับไปวัยเด็กสมัยที่หนังไฮสคูลยังบูม ซึ่งในหนังก็มีฉากล้อเลียนหนังแนว Mean girl ที่มีเนื้อหาตลกเป็นอย่างมาก ซึ่งต้องชื่นชมฝีมือการแสดงของเรเบล วิลสันเลย ซึ่งแสดงความแข็งแกร่งมากๆทั้งทักษะฝีมือการแสดงและการร้องเพลง การเต้นแบบทรงพลังแบบ Musical ซึ่งทำให้นึกถึงบทบาทของเธอในหนังเรื่อง The Pitch Perfect ด้วย โดยรวมก็เป็นหนังฟีลกู๊ดอีกเรื่องที่ดูจบแล้วได้ข้อคิดในแง่มุมต่างๆของหนังกลับมาพอสมควรนะ ว่าคนเราควรให้ความสำคัญกับเพื่อนที่อยู่ข้างๆ ครอบครัวที่อยู่ข้างเราจริงๆ มากกว่าการทำผิวให้เป็นสีแทนเสมอกัน การทำทรงผมที่ทุกคนอิจฉา ตำแหน่งพรอมควีน และการเป็นคน Poppular ที่ไม่มีใครสนใจจริงๆนอกจากชื่อเสียงของเรา ซึ่งก็ทำให้นึกถึงยุค Pop Culture ก่อนที่จะเกิดกระแสสังคม #LeaveBrithneyAlone ด้วยคะแนนรีวิว 10/10 2. He's All Thatดัดแปลงมาจาก She's All That ในปี 1999 ที่มาพร้อมกับเพลงติดหูอย่างเพลง Kiss Me ในตำนาน พลอตเรื่องก็ง่ายๆไม่มีอะไรซับซ้อน สาวป๊อบในโรงเรียนที่โดนแฟนทิ้ง เสี่ยงที่จะเสียงานอินฟูลไรเซอร์ จึงพนันกับเพื่อนว่าจะเปลี่ยนหนุ่มเห่ยของโรงเรียนให้กลายเป็นหนุ่มที่ป๊อบปูล่าและมีชื่อเสียงขึ้นมาในโรงเรียน และคนๆนั้นก็คือคาเมร่อน หนุ่มเซอร์ มนุษย์สัมพันธ์แย่ ที่มีนิสัยเนิร์ดๆและไม่ค่อยสุงสิงกับใครในโรงเรียนความรู้สึกของผู้เขียนหลังจากดูจบคือเป็นหนังรอมคอมทั่วไปที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่ นอกจากการใส่ประเด็นการใช้สื่อ social media ที่มีผู้ติดตามให้เป็นประโยชน์ และการให้คุณค่า ความสำคัญกับคนสำคัญที่อยู่ในชีวิตจริงโดยไม่ต้องสนใจยอดวิว ยอด Like หรือสายตาของคนอื่นในอินเทอร์เน็ต ที่ไม่เคยเจอกันหรือคุยกันเลยในชีวิตจริงๆ คิดว่าหนังมีฉากจบแบบสูตรสำเร็จฉบับหนังรอมคอมอยู่แบบที่ไม่ได้ดีมากแต่ก็ไม่ได้แย่มาก โดยรวมก็ดูได้เรื่อยๆ เนื้อหาสนุก ดูเพลินๆได้ ไม่ถึงกับว้าวมาก และยังมีฉากน่าจดจำในเรื่องที่ค่อนข้างน้อยถ้าเทียบกับเวอร์ชันเดิมหรือหนังเรื่อง She's All That ก็เรียกได้ว่าอยู่ในยุคที่ผู้หญิง make over ผู้ชาย และเปลี่ยนลุคจากผู้ชายธรรมดาให้กลายมาเป็นเจ้าชายที่ Poppular ในสายตาของคนหลายๆคนในโรงเรียนและในโลกออนไลน์ คะแนนรีวิว 8.5/10 3. We're The Millers https://youtu.be/0Vsy5KzsieQเล่าเรื่องของเดวิดที่เป็นนักค้ายา เขาต้องดีลงานครั้งใหญ่เพื่อปิดจ๊อบของตัวเองและวางมือจากอาชีพนักขนยาสักที แต่ปัญหาคือเขาจะขนยาขนาดใหญ่ข้ามด่านได้ยังไง เขาจึงตั้งครอบครัวกำมะลอ ครอบครัวมิลเลอร์ขึ้นมาหลอกตำรวจ และขับรถส่งยาไปด้วยแต่เป็นรถครอบครัวเพื่อไม่ให้ใครสงสัยแทน แต่หลังจากเดินทางไปก็เกิดความรู้สึกผูกพันเป็นครอบครัวจริงๆซะงั้นความรู้สึกที่ได้ดู ฮา ป่วน สนุก และตลกมากๆกับครอบครัวมิลเลอร์ หลงรัก Emma Roberts มากขึ้นจากซีรีส์เรื่องนี้เลย หลังจากรู้จักเธอในผลงานเรื่อง Scream Queen เพราะเธอเล่นได้ฮามากๆ อีโมมากๆ และน่ารักมากๆ หนังมีฉากที่น่าจดจำและตลกฮาๆหลายๆฉาก ไม่ว่าจะเป็นฉากที่ล้อเลียนหนังเรื่อง Hang over ทั้งการเล่นมุกแบบ dirty joke แต่ตลกมากๆ การเจอครอบครัวของตำรวจเพี้ยนระหว่างทางแล้วลูกคนโตเกิดตกหลุมรักลูกสาวคนเดียวของครอบครัวอีกครอบครัวหนึ่งเข้า การเล่าเรื่องแบบแปลกๆเพี้ยนๆพิศดาร แต่กลับตลก ฮา เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูเป็นอย่างมาก สิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชมคือการแสดงของนักแสดงที่สามารถรับส่งบทได้อย่างเป็นธรรมชาติ และมุกตลกจิกกัดแบบแสบๆที่คนที่ชอบหนังสไตล์ American Dirty Joke ไม่ควรพลาดคะแนนรีวิว 9.8/10 4. The Dictatorเล่าเรื่องของ Aladeen ผู้นำเผด็จการที่ปกครองประเทศภายใต้ระบอบเผด็จการมายาวนาน 40 ปี ก่อนที่จะเดินทางไปเข้าร่วมประชุมในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เพราะทำเคราหายจึงไม่มีใครจำหน้าได้ และต้องใช้ชีวิตเร่ร่อนในประเทศเมืองใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาแทนความรู้สึกที่ดูคือหนังล้อเลียนชีวิตของเผด็จการเป็นอย่างมาก ซึ่งก็ถ่ายเนื้อหาออกมาได้ตลกใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นฉากเผด็จการไม่มีความรัก และโหยหาการกอดและถูกกอดแบบคนรักมากแค่ไหนในเวลากลางคืน หรือจัดขบวนต้อนรับที่ยิ่งใหญ่ให้กับตัวเองตอนที่เดินทางมาอเมริกาโดยไม่มีใครมาสนใจหรือต้อนรับ หรือไม่ชอบใครก็สั่งกำจัด ให้ลูกน้องนำตัวคนๆนั้นไปประหารชีวิต ซึ่งก็เป็นหนังเนื้อหาเบาๆ สบาย สนุก บันเทิง แก้เครียด และถ่ายทอดเรื่องราวและชีวิตของเผด็จการออกมาตรงๆอีกด้วย วิธีการเล่าเรื่องก็ทั้งเกรียนและทั้งกวน หลายคนอาจจะสนุกได้ แต่สำหรับผู้เขียนมองว่าความตลกทำออกมาได้กลางๆ ไม่ได้ฮาจนท้องแข็งอะไรขนาดนั้น ส่วนตัวชอบมุกแบบ Hangover มากกว่า มุกที่ผู้เขียนชอบที่สุดในเรื่องคือท่านผู้นำต้องการจะกระโดดสะพานฆ่าตัวตายหลังจากรู้ว่าประชาชนเกลียดตัวเองในประเทศมากแค่ไหน แต่ก็มีคนช่วยชีวิตไว้ด้วยมุก ตัวตนของท่านก็เหมือนทุเรียนที่แม้ภายนอกจะมีเปลือกหนามที่มีกลิ่นเหม็นแล้ว แต่ข้างในกลับมีกลิ่นที่เหม็นเน่ามากกว่า ซึ่งใครที่ชอบหนังแนวตลกเหยียดเชื้อชาติก็คงจะชอบหนังเรื่องนี้ ส่วนตัวมองว่ากลางๆ ไม่ถึงขั้นดีสุด แต่ก็ไม่ได้แย่มาก และแอบมองว่ามีหลายเรื่องที่มันตลกร้ายจริงๆในหนังคะแนนรีวิว 6.5/10 5. The Addams Familyเล่าเรื่องราวของครอบครัวตระกูล Adams ที่เป็นผีทั้งตระกูล โดยเน้นที่เรื่องราวสบายๆ และนิสัยแปลกๆของคนในตระกูล Addams ที่ตลกและสนุกดีความรู้สึกที่ได้ดูคือชอบมากๆ ชอบจนอยากจะหยิบมาดูซ้ำอีกรอบและสามารถชมได้แล้วทางช่องสตรีมมิง Netflix มีทั้งหมดสองภาค เล่าเรื่องราวประหลาดของตระกูล Addams ที่อาศัยอยู่ในคฤหาสถ์ผีสิงหลังใหญ่โตที่มีทั้งความเก่า ความขลัง และความโอ่อ่า อีกทั้งนิสัยของคนในตระกูลนี้ก็แปลกๆ ถึงขั้นเพี้ยนด้วย ก็เป็นหนังเก่าปี 90s ที่มีความกวน ความตลกร้าย และความคลายเครียดดี เป็นหนังคลาสิกตลกๆที่หยิบมาดูกี่รอบก็ไม่เบื่อเลย รู้สึกเหมือนเจอเพื่อนเก่าที่เราคุ้นเคยสมัยเด็กๆ ตัวละครที่ผู้เขียนชอบที่สุดในเรื่องของ Wednesday ค่ะ เด็กผู้หญิงที่ใส่เสื้อผ้าสีดำ และผูกเปียตลอดเวลา เธอชอบเก็บตัวและอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องลึกลับและการหาสมบัติ Netflix กำลังจะมีซีรีส์เรื่องของเธอในเร็วๆนี้นะ คะแนนรีวิว 10/10 จบไปแล้วนะคะกับ 5 หนัง รอมคอมคอเมดี้ฟีลกู๊ดที่ชื่นชอบบน Netflix ที่ผู้เขียนนำมาแนะนำ หากใครอยากให้รีวิวเรื่องไหนหรือชอบหนังแนวไหนก็คอมเมนท์กันมาได้เลยนะบทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิว First kill season 1 (2022) รับชมได้ทางช่อง Netflixรวมโมเมนท์คู่ Calitte ที่ผู้เขียนชอบจาก First kill (2022)รีวิว You Don't Know me (2022) คลั่งรักผู้หญิงอยู่ดีๆ ต้องกลายมาเป็นฆาตกรทั้งๆที่ไม่ได้ทำส่องประวัตินักแสดง First kill (2022) ทางช่อง Netflixขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canvaรูปประกอบภาพหน้าปกที่ 1 โดย IG : rebelwilson / 2 / 4 / 5 โดย Netflix / 3 โดย Youtube : Warner Bros. Picturesรูปภาพประกอบที่ 1 โดย IG : rebelwilson / 2 / 4 / 5 โดย Netflix / 3 โดย Youtube : Warner Bros. Picturesจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลก์คนที่ชอบ 'ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี'คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565