ป้ายยาทำความรู้จัก The Last of Us ฉบับคนแสดงเพื่อคุณจะได้ดูซีรีส์นี้สนุกขึ้น
เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยกับซีรีส์คนแสดง ‘The Last of Us’ ภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเกมในชื่อเดียวกัน ที่ตั้งแต่มีการประกาศสร้างซีรีส์นี้ออกมาเราก็ได้เห็นข่าวความคืบหน้าการคัดนักแสดง เนื้อหาเรื่องราวภาพหลุดที่มีออกมาอย่างมามากมาย จนตัวอย่างแบบเป็นทางการเปิดเผยก็ทำเอาแฟนเกมต่างคาดหวังในสิ่งที่ซีรีส์ต้องการสื่อออกมา ซึ่งคนที่เป็นแฟนเกมก็คงไม่ต้องพูดอะไรกันมากเพราะคงต้องรอดูกันอยู่แล้ว ส่วนใครที่ไม่เคยเล่นเกมไม่รู้จักซีรีส์นี้มาก่อน เราก็ขอทำการป้ายยาคุณเสียแต่ตอนนี้เลยว่าซีรีส์ ‘The Last of Us’ นี้น่าดูขนาดไหน กับเนื้อหาต่าง ๆ ที่เราเอามาบอกคุณเพื่อให้คุณทำความรู้จักซีรีส์นี้ให้มากขึ้นก่อนไปดู ที่เมื่อคุณอ่านจบคุณอาจจะอยากดูมากขึ้นก็ได้ ส่วนคนที่เล่นเกมมาแล้วก็จะได้รับรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซีรีส์มากขึ้นแน่นอน จะมีข้อมูลอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้นมาดูไปพร้อมกันเลย
ทำความรู้จัก The Last of Us เรื่องราวที่นักเล่นเกมหลงรัก
เริ่มต้นเรื่องแรกเรามาทำความรู้จัก ‘The Last of Us’ จุดเริ่มต้นของซีรีส์ที่ถูกวางจำหน่ายในปี 2013 บนเครื่อง ‘PlayStation 3’ ที่ในตอนนั้นตัวเกมได้ผลตอบรับในแง่บวกจากแฟนเกมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นระบบการเล่นที่เป็นเกมแอ็กชันเดินหน้าผ่านไปเรื่อย ๆ กับการเดินทางในโลกที่ล่มสลาย ซึ่งเราไม่ได้เจอแค่เหล่าซอมบี้เท่านั้นแต่ยังมีมนุษย์ด้วยกันที่คอยฆ่าเพื่อแย่งชิงปล้นสิ่งของจากเรา แต่สิ่งที่เป็นการเชิดหน้าชูตามากที่สุดคือเนื้อเรื่องของเกม ที่แม้จะมีเรื่องราวง่าย ๆ กับการเดินทางของชายผู้สูญเสียลูกสาวกับเด็กหญิงที่ขาดพ่อแม่ที่ต่างมาเติมเต็มกันและกัน แต่สิ่งที่อยู่ระหว่างทางที่ทั้งสองต้องเจอคือสิ่งที่ดีงามไปจนถึงความโหดร้าย ที่สร้างความประทับใจและสิ้นหวังให้กับคนเล่นเกม จนทำให้ตัวเกม ‘The Last of Us’ ถูกพูดถึงและเอามาทำใหม่ให้เราได้แล่นตลอด อย่างล่าสุดเกม ‘The Last of Us’ ภาคแรกก็เอามาทำใหม่ทั้งหมดเปลี่ยนกราฟิกให้ดูสวยสมจริงบน ‘PlayStation 5’ หรือถ้าใครมีเครื่อง ‘PlayStation 4’ ก็มีให้เราได้เล่น ที่เมื่อดูจากตัวอย่างและตอนแรกที่ฉายออกมาก็พอจะเดาได้ว่าเรื่องราวในซีรีส์ต้องตรงกับเกมมาก ๆ ดังนั้นถ้าคุณอยากรู้เรื่องราวในก่อนซีรีส์ก็ไปหาเกมมาเล่นก่อนได้เพราะให้อารมณ์ไม่ต่างกันเลยทีเดียว
เรื่องย่อ The Last of Us
ในส่วนของเนื้อเรื่องของซีรีส์นั้นจะใช้โครงสร้างเดียวกับเกม ก็ต้องย้อนกลับไปเมื่อปลายเดือนกันยายนปี 2013 ได้เกิดเหตุเชื้อไวรัสระบาดโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งมันแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ก่อนที่การติดเชื้อผ่านการถูกกัดจะแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งคนที่ติดเชื้อจะมีอาการคลุ้มคลั่งไล่กัดคนอื่นแบบไม่ได้สติ ที่เปลี่ยนจากค่ำคืนธรรมดาในวันเกิดของ โจเอล (Joel) ให้เป็นนรกที่เขาไม่มีวันลืม เพราะโจเอลต้องสูญเสียลูกสาวจากการพลั้งมือฆ่า (แบบจงใจ) ของทหาร จนเวลาผ่านมา 20 ปีโลกได้ล่มสลายอย่างสมบูรณ์แบบและโจเอลก็เปลี่ยนจากชายผู้รักสงบมาเป็นคนขนของเถื่อน ตัดมาที่ เอลลี่ (Ellie) สาวน้อยที่เติบโตบนโลกที่ล่มสลายเธอได้หนีมาเที่ยวกับเพื่อนสาวจนถูกซอมบี้กัดแต่เธอไม่ติดเชื้อ เอลลี่จึงเป็นทางรอดเดียวของโลกนี้ในการสกัดยารักษา ที่ทางฝ่ายต่อต้านรัฐบาลต้องการนำมันมาใช้เพื่อช่วยโลก แต่สถานที่ที่สกัดยารักษานั้นอยู่อีกฟากของประเทศการเดินทางพาพัสดุมีชีวิตไปส่งจึงเริ่มต้นขึ้น นั่นคือจุดเริ่มต้นของเกมและซีรีส์ ที่ระหว่างการเดินทางของทั้งคู่นั้นจะนำพาทั้งสองไปเจอโลกของความรักความห่วงใยความหวัง ไปพร้อมกับความโกรธเกลียดสิ้นหวังและความตาย ที่นับจากนี้ไปก็ขอต้อนรับเข้าสู่จักรวาล ‘The Last of Us’
ซอมบี้ที่ไม่ใช่ซอมบี้ทั่วไปที่เรารู้จัก
สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกมไม่รู้จักซีรีส์นี้ ‘The Last of Us’ ตัวเรื่องของซีรีส์นี้จะเป็นหนังซอมบี้เอาชีวิตรอดในโลกที่ล่มสลาย ที่ตัวซอมบี้ในเรื่องนี้จะต่างออกไปจากหนังซอมบี้เรื่องอื่น ตรงที่ซอมบี้เรื่องนี้จะมีระยะการเพาะตัวกลายพันธุ์ที่มีหลายระยะ โดยเราจะขอนับเฉพาะระยะที่เป็นอันตรายและปรากฏแค่ในภาคแรก เริ่มจากระยะแรกคนที่ถูกกัดจะติดเชื้อเกิดเป็นคนบ้าไล่กัดคนที่ถูกเรียกว่า ‘Runner’ ระยะสองที่ติดเชื้อมานานสัปดาห์ถึง 1 ปีมันจะมีเห็ดขึ้นตามตัวนิดหน่อยแต่ผอมแห้งวิ่งด้วยมือเท้าคล้ายลิงไม่ไม่บ้าคลั่ง แถมมีสติปัญญาคอยซุ่มโจมตีหนีเมื่อสู้ไม่ได้ที่เรียกว่า ‘Stalker’ มาถึงระยะสามนั้นจะน่ากลัวที่สุดเพราะมันสามารถฆ่าเราได้ด้วยการกัดเพียงครั้งเดียวที่เรียกว่า ‘Clicker’ (รูปประกอบด้านล่าง) พวกมันจะไม่มีความเป็นมนุษย์อยู่แล้ว หัวจะกลายเป็นดอกเห็ดที่ใช้การกระทบฟันให้เกิดเสียงสะท้อนเพื่อหาเหยื่อและจับเสียงรอบ ๆ ตัว และระยะสุดท้าย ‘Bloater’ (รูปประกอบด้านบน) เป็นร่างวิวัฒนาการถึงจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร ที่ตัวของมันจะบวมอืดมีเห็ดเกาะทั้งตัวเพื่อเป็นเกราะป้องกันตัว พร้อมพลังโจมตีที่รุนแรงซึ่งสามารถฉีกร่างเราได้ง่าย ๆ แถมยังปาเชื้อเห็ดเพื่อโจมตีระยะไกลได้ด้วย ที่บอกเลยว่าใครเจอเจ้าตัวนี้เตรียมตัวตายสถานเดียว ซึ่งในซีรีส์เราจะได้พบทุกตัวแน่นอน
นักแสดงมากฝีมือ
คราวนี้มาดูนักแสดงที่มารับบทในซีรีส์กันบ้างเพื่อเป็นการรับประกันในฝีมือ เริ่มจากตัวเอกของเกมอย่างโจเอลก็ได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง เพโดร ปาสคาล (Pedro Pascal) เจ้าของบทชายสวมหน้ากากในซีรีส์ ‘The Mandalorian’ ที่ขนาดพี่แกใส่หน้ากากเกือบทั้งซีรีส์ (มีเปิดหน้าไม่กี่ครั้ง) ยังแสดงพลังความเป็นนักแสดงออกมาได้ แล้วนี่พี่แกมาเล่นบทที่ไม่ต้องสวมหน้ากากจะโดดเด่นขนาดไหน กับสาวน้อยมากฝีมือที่มารับบทเอลลี่สาวน้อยปากแจ๋วที่ได้ เบลล่า แรมซี่ (Bella Ramsey) สาวน้อยตัวเล็กจิ๋วแต่บทขโมยซีนผู้ใหญ่ในซีรีส์ ‘Game of Thrones’ มาแล้ว ที่บอกเลยว่าสองคนนี้ดึงพลังตัวละครจากเกมออกมาได้อย่างแน่นอน นี่ยังไม่นับเหล่านักแสดงที่รับบทในเกมและต้องมารับบทในซีรีส์อีกครั้งก็มีหลายคน รวมถึงเหล่านักแสดงที่เป็นตัวละครในเกมมาร่วมรับเชิญมากมาย ที่บอกเลยว่าฟินทั้งคนดูภาพยนตร์และคนเล่นเกมแน่นอน แถมยังได้คนสร้างเกมนี้มาเป็นคนควบคุมเขียนบทซีรีส์อีก ยิ่งรับประกันความสนุกตราตรึงหัวใจแน่นอน
เนื้อเรื่องในซีรีส์จะไปถึงตรงไหนในเกม
มาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนคงอยากจะทราบแน่ ๆ ว่าตัวซีรีส์ ‘The Last of Us’ จะเดินทางมาถึงตรงจุดไหนของเกม ที่เอาแบบไม่สปอยล์เนื้อหากับสิ่งที่คนเล่นเกมเห็นในตัวอย่างมาที่ทาง ‘HBO’ ต้องการบอกใบ้คนที่เล่นเกมกับฉากต่าง ๆ ที่ตัดสลับไปมาอย่างรวดเร็ว เราก็พอจะบอกได้ว่าตัวซีรีส์นั้นจะดำเนินไปจนจบเกมแน่นอน และทุกอย่างจะจบสรุปแบบไม่มีอะไรค้างคาติดใจ ทุกอย่างที่มีทุกสิ่งที่เป็นจะจบแบบตราตรึงหัวใจแน่นอน ซึ่งเมื่อตัวซีรีส์จบแล้วจะมีภาคต่ออีกไหมคำตอบก็คือมีแน่นอน เพราะตัวซีรีส์ได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาด (ล่าสุดมีข่าวว่าเว็บไซต์ทางช่อง ‘HBO’ ล่มเพราะคนแห่ไปดูซีรีส์นี้ตอนแรก) และเรื่องราวในเกมภาค 2 ก็มีไปนานแล้ว รอเพียงแค่ทางทีมพัฒนาจะเริ่มทำภาค 2 ตอนไหนเท่านั้น ที่บอกเลยว่าภาค 2 นั้นสุดกว่าหนักกว่าโหดกว่าภาคนี้มาก ๆ จนมีคนพูดว่าภาคแรกของ ‘The Last of Us’ คือความรักความหวังความห่วงใย ภาค 2 ของ ‘The Last of Us’ คือความโกรธเกลียดชิงชังสิ้นหวัง ที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิงที่กว่าจะไปถึงตรงนั้นก็ขอให้คุณซึมซับความอบอุ่นหัวใจของภาคแรกนี้ไปก่อน ที่บอกเลยว่าคุณจะหลงรักซีรีส์นี้เหมือนที่คนเล่นเกมหลงรักและเกลียดชังมันมาแล้ว
คำวิจารณ์ในเชิงบวก
ถึงกับต้องหรี่ตาแล้วร้องออกมาดัง ๆ ว่า “แหม ๆ จะอวยอะไรกันขนาดนั้น” เมื่อมาเห็นคะแนนวิจารณ์ของซีรีส์ ‘The Last of Us’ ที่ทางเว็บไซต์มะเขือเน่า (สด) อย่าง ‘Rotten Tomatoes’ ทั้งฝั่งนักวิจารณ์กับฝั่งคนดูต่างเทคะแนนให้ซีรีส์เรื่องนี้แบบอวยไส้แตก จนซีรีส์ที่ทำจากเกมเรื่องอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ที่ชื่อ “ผีชีวะ” มองตาปริบ ๆ ด้วยความอิจฉา เพราะซีรีส์เรื่องนี้ได้คะแนนฝั่งนักวิจารณ์สูงถึง 99% กับคำชมมากมายว่า “ซีรีส์ ‘The Last of Us’ สร้างความสมดุลระหว่างความหวาดกลัวกับความเป็นมนุษย์ ที่ทำได้อบอุ่นหัวใจอย่างลงตัว” หรือ “ไม่ต้องกังวลหากคุณไม่ใช่เกมซีรีส์นี้ ตัวซีรีส์มีการดัดแปลงจากวิดีโอเกมจนทำให้คุณประทับใจ รวมถึงเหล่านักแสดงกับการเพิ่มองค์ประกอบที่คุ้นเคยในเกมให้กลายเป็นภาพยนตร์ได้อย่างลงตัว” ขณะที่บางส่วนที่ให้มะเขือเน่าบอกว่า “ตัวซีรีส์หยิบยืมองค์ประกอบของหนังซอมบี้มาใช้ ขณะที่ตัวซีรีส์ก็ไม่มีการนำเสนอที่แปลกใหม่แถมซ้ำซากจำเจ” กับบางส่วนที่พูดถึงความเหมือนเกมจนเกินไป ขณะที่ฝั่งคนดูทั่วไปก็ไม่น้อยหน้าให้ 96% พร้อมคำชื่นชมแทบลอยติดลมบนทั้งคนเล่นเกมและคนที่เพิ่งเริ่มดูซีรีส์นี้ครั้งแรก ที่ต่างพึงพอใจกับตอนแรกเป็นอย่างมาก
ความรู้สึกหลังดู The Last of Us ในมุมมองของคนเล่นเกม
คราวนี้มาดูความรู้สึกหลังจากที่ได้ดู ‘The Last of Us’ ตอนแรกไปเรียบร้อยในฐานะของคนที่เล่นเกมนี้มาแล้ว ก็บอกเลยว่ามันคือการดัดแปลงที่ลงตัวและเป็นการขยายเรื่องราวเนื้อหาที่เกมไม่ได้เล่าในฉากต่าง ๆ ให้คนที่เล่นเกมได้เห็นมุมมองที่เกมไม่ได้บอกให้เราได้รู้ รวมถึงการตัดฉากรวบรัดในหลาย ๆ ส่วนที่ในเกมเล่าเยิ่นเย้อรวมถึงส่วนที่เราจะได้ควบคุมในเกมทิ้งไปและตัดสรุปเนื้อเรื่องไปเลย ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่าทำออกมาได้ลงตัว ที่บอกเลยว่ามันคือการถอดความจากตัวเกมมาตีความใหม่ และเพิ่มฉากองค์ประกอบใหม่ ๆ ลงไปจนแม้แต่แฟนเกมยังขนลุกกับรายละเอียดที่ถูกเพิ่มเข้ามา ซึ่งถ้าใครบอกว่ามันเหมือนเกมมากเกินไปก็คงต้องบอกว่าใช่และไม่ใช่ เพราะตัวซีรีส์เอาเกมมาตีความใหม่ให้เป็นรูปแบบซีรีส์เอง ที่เหมือนแค่องค์ประกอบกับเนื้อเรื่องหลักเท่านั้น นอกนั้นคือการตีความใหม่ที่เป็นส่วนของเกม 40% แต่งเพิ่มเนื้อหาตีความใหม่รวบรัดเรื่องราว 60% ที่แค่ตอนแรกยังดีขนาดนี้ตอนต่อไปจะขนาดไหนแค่คิดก็ขนลุกแล้ว
สิ่งที่คนเล่นเกมต้องการบอกคนที่เพิ่งเริ่มดู
ปิดท้ายกับความรู้สึกประทับใจของเหล่าแฟนเกมที่เคยเล่นและรู้เรื่องราวทั้งหมดในซีรีส์ ‘The Last of Us’ มาทั้งหมดแล้ว ต้องการบอกกับคนที่ยังไม่รู้จักว่า ต่อไปจากนี้คุณได้พบกับความขัดแย้งต่อต้านความไม่ลงรอย และการไม่ยอมรับจากตัวละครทั้งสอง ก่อนที่ทั้งคู่จะเปลี่ยนมาเป็นความรู้สึกผูกพัน ได้เจอมิตรภาพที่ดีการดิ้นรนเอาชีวิตรอดผู้คนที่ผ่านมาและผ่านไปในการเดินทาง จนไปถึงการต่อสู้เอาชีวิตรอดของทั้งเอลลี่และโจเอลที่ทำให้คุณต้องเป็นห่วงหลงรักและเอาใจช่วยทั้งคู่ เพราะมันไม่ใช่แค่ซีรีส์เอาชีวิตรอดในโลกซอมบี้ แต่มันคือเรื่องราวการเดินทางที่แสนอบอุ่นใจหัว ที่จนถึงตอนจบคุณจะพบคำถามที่หลายคนต้องตีความว่าสิ่งที่โจเอลทำมันคือสิ่งที่ถูกต้องจริง ๆ หรือกันเลยทีเดียว
ก็จบกันไปแล้วกับการป้ายยาให้คนที่กำลังคิดตัดสินใจว่าจะดูซีรีส์ ‘The Last of Us’ ว่าจะดูดีไหมสนุกรึเปล่าได้ตัดสินใจง่ายขึ้น ยิ่งถ้าคุณเป็นแฟนภาพยนตร์ซอมบี้บอกเลยต้องไม่พลาด หรือถ้าคุณชอบภาพยนตร์ที่ดูแล้วได้หลายอารมณ์ความรู้สึก ที่ทั้งอบอุ่นหัวใจลุ้นระทึกเอาชีวิตรอดและทำให้เราสิ้นหวังในเรื่อง ๆ เดียว บอกเลยว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ซึ่งตัวซีรีส์จะมีทั้งหมด 10 ตอนที่เมื่อดูจบคุณจะหลงรักทั้งคู่แบบที่นักเล่นเกมทั่วโลกหลงรักพ่อลูกคู่นี้อย่างแน่นอน