เพโดร พาสคาล เซ็นสัญญารับบทเป็น รีด ริชาดส์ ในหนัง "Fantastic Four" แล้ว
มาร์เวลวางกำหนดฉาย ‘Fantastic Four’ ไว้ในปี 2025 หลังจากได้ แมตต์ แช็กแมน (Matt Shakman) จาก ‘The Boys’, ‘Game of Thrones’ และ ‘Wanda Vision’ มารับหน้าที่ผู้กำกับแล้ว รายต่อมาก็คือ วาเนสซา เคอร์บี้ (Vanessa Kirby) มารับบท ซู สตอร์ม แล้ว ล่าสุดมาร์เวลก็ได้นักแสดงในบท รีด ริชาดส์ (Reed Richards) บทสำคัญในฐานะผู้นำกลุ่ม Fantastic Four เรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือ เพโดร พาสคาล (Pedro Pascal) นักแสดงงานชุกที่สุดในยุคนี้นั่นเอง ข่าวนี้ได้รับการเปิดเผยจาก Daniel RPK จากเว็บไซต์ /Film ว่า เพโดร พาสคาล ได้เข้าเจรจากับทางมาร์เวล และได้บรรลุถึงข้อตกลง เซ็นสัญญารับบทเป็น รีด ริชาดส์ เรียบร้อยแล้วด้วย
รีด ริชาดส์ นับได้ว่าเป็นบทสำคัญที่สุดของทีม Fantastic Four ที่แฟน ๆ เฝ้าติดตามมายาวนานว่านักแสดงรายไหนจะเป็นผู้ที่มารับบทนี้ ครั้งหนึ่ง ก็มีการคาดเดาว่าน่าจะเป็น จอห์น คราซินสกี้ (John Krasinski) นักแสดงและผู้กำกับ ‘A Quiet Place’ แล้วก็เป็นที่พึงพอใจต่อบรรดาแฟน ๆ หลังจากที่เขามาปรากฎตัวเป็น รีด ริชารดส์ จริง ๆใน ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ แต่แล้วชื่อของเขาก็เงียบหายไป ชื่อต่อมาก็คือ อดัม ไดรเวอร์ (Adam Driver) จาก ‘Star Wars’ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเต็ง แต่พอมาถึงสัปดาห์ที่ผ่านมานี่เอง ก็มีชื่ออื่นขึ้นมาอยู่เป็นตัวเต็งแทนไดรเวอร์เสียแล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย แต่ก็เป็น เพโดร พาสคาล นี่เอง
แต่กว่าจะได้เข้ากล้อง ‘Fantastic Four’ พาสคาลก็ต้องสะสางภารกิจก่อนหน้ามากมายให้เสร็จสิ้นเสียก่อน ทั้งการเป็น ดิน จาริน ใน ‘The Mandalorian’ ซีรีส์ที่อยู่ภายใต้ชายคาดิสนีย์เช่นเดียวกัน และการรับบทนำใน ‘The Last of Us’ ซีรีส์สุดฮิต และ ‘Gladiator 2’ ที่มีกำหนดเข้าฉายพฤศจิกายน 2024 ปีหน้านี้ แค่นี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่า พาสคาลเป็นนักแสดงที่งานชุกที่สุดแล้วในยุคนี้ แล้วก็ยังเพิ่มบท รีด ริชาดส์ เข้าไปในรายการอันยาวเหยียดของเขาอีกเรื่องด้วย แต่ก็พอเข้าใจได้ว่า พาสคาลเล็งเห็นความสำคัญของบท รีด ริชาดส์ ที่น่าจะกลายเป็นบทบาทสำคัญของเขาแทน ‘The Mandalorian’ ที่อาจจะจบลงในไม่ช้านี้
อาจกล่าวได้ว่า เพโดร พาสคาล เป็นนักแสดงที่งานชุกที่สุดในฮอลลีวูดแล้วขณะนี้ เขามีงานในอนาคตจากนี้ไปถึงปี 2025 ถึง 9 เรื่อง มีทั้งที่อยู่ในขั้นตอนเตรียมการสร้าง กำลังถ่ายทำ และที่ถ่ายทำเสร็จแล้ว พาสคาลเป็นนักแสดงที่ก้าวมาจุดสูงสุดในอาชีพได้รวดเร็วมาก ทั้งที่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เขายังเป็นนักแสงโนเนมอยู่เลย เขาเริ่มเป็นที่รู้จักจากบท โอเบริน มาร์เทล ในซีรีส์ ‘Game of Thrones’ ส่งผลให้เขาได้รับความสนใจจากบรรดาผู้สร้าง เลือกให้เขาไปรับบทนำใน ‘Narcos’ และ ‘Kingsman: The Golden Circle’ จากนั้นเขาก็มีงานต่อเนื่องมาโดยตลอดทั้ง ‘The Great Wall’ และ ‘The Equalizer 2’ แล้วในที่สุดก็ได้รับบทนำใน ‘The Mandalorian’
จากนั้นเขาก็ได้ไปประกบคู่กับนักแสดงระดับแถวหน้าอย่างเช่น กัล กาดอต ใน ‘Wonder Woman 1984’ และ นิโคลาส เคจ ใน ‘The Unbearable Weight of Massive Talent’ ไม่จบแค่นั้น เขาได้รับเลือกให้รับบทนำในซีรีส์ที่ผู้ชมทั่วโลกจับตามองอย่าง ‘The Last of Us’ และเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงของ HBO ด้วยความที่พาสคาลเป็นนักแสดงที่มีความสามารถรอบด้าน รวมถึงพรสวรรค์ทางด้านการแสดง ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งให้เขาประสบความสำเร็จในฮอลลีวูด และมีอนาคตในเส้นทางสายนี้ที่สดใสในวัย 48 ปี