รีเซต

เข็ม กฤตธีรา เผยบทเรียนความรัก ผิดหวังซ้ำ ๆ เผยทุกวันนี้โสดก็มีความสุข (มีคลิป)

เข็ม กฤตธีรา เผยบทเรียนความรัก ผิดหวังซ้ำ ๆ เผยทุกวันนี้โสดก็มีความสุข (มีคลิป)
Entertainment Report_2
18 พฤศจิกายน 2564 ( 10:07 )
163

ข่าวบันเทิงวันนี้

"เข็ม กฤตธีรา อินพรวิจิตร" อดีตพิธีกรสาวคนสวย ที่หายจากหน้าจอไปนานกว่า 10 ปี และวันนี้จะมาเปิดเผยบทเรียนความรักในอดีต เลือกคนผิด ผิดหวัง ซ้ำซ้อน จนต้องหันไปเรียนจิตวิทยา พร้อมเผยชีวิตสาวโสดสุดแฮปปี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าแฮปปี้ขนาดนี้จะถึงขั้นปิดตายความรักเลยหรือเปล่า ซึ่งงานนี้เจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการคุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และบูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ทำยังไงถึงสวยขนาดนี้?
เข็ม : จริง ๆ ชอบศึกษาเรื่องเวชศาสตร์ชะลอวัยอะไรพวกนี้ แล้วก็พยายามจะออกกำลังกาย นอนเยอะ ๆ พยายามทำนู้น ทำนี่ มันก็โอเคนะ เลยเลข 5 มาแบบชิล ๆ

ไม่เห็นหน้าในการเป็นพิธีกรนานแล้วนะ ตอนนี้ทำอะไรอยู่บ้าง?
เข็ม : เยอะมาก อันนี้ชุดตัวเอง ออกแบบเอง ช่วงมีโรคระบาด 2 ปี เรียนเยอะมาก เป็นช่วงเวลาที่เรามีความสุข จริง ๆ ก็ไม่ได้ห่างหายจากหน้าจอเท่าไหร่ เพียงแต่ว่าทำรายการเองเล็ก ๆ แล้วก็หยุดไปช่วงโควิดพอดี เพราะว่ามันเป็นรายการท่องเที่ยว ไปเที่ยวต่างประเทศ ไปอะไรอย่างนี้ พอมันมีโรคระบาดมันเลยหยุดไป ก็เลยว่างๆ ลงเรียนเยอะ แล้วมีบริษัทที่ทำเกี่ยวกับให้ตัวเองดูเด็กตลอดเวลา

 

ขอบคุณคลิปจากรายการ คุยแซ่บshow 

เรียนนี่คือเรียนอะไร?
เข็ม : เรียนหลายอย่าง เรียนจิตวิทยา แล้วที่เรียนล่าสุดยังไม่จบ คือ จิตวิทยาสุนัข คือเรียนเพื่อให้เข้าใจสุนัข จริงๆ เราลงเรียนของอเมริกาเลย ครั้งแรกก็งง ๆ คิดว่าเป็นการฝึกสุนัข ก็เข้าไปลงทะเบียนเรียบร้อยเลย จ่ายเงินเรียบร้อย ก็เริ่มเรียนวันแรก มันเป็นการเข้าใจสุนัขที่เราสามารถเอามาใช้กับคนได้

มีการเรียนเกี่ยวกับกัญชาศาสตร์?
เข็ม : จริง ๆ มันเป็นกัญชาเชิงธุรกิจ ซึ่งตอนนี้กำลังจะเปิดแน่ๆ ในอนาคต แล้วเผอิญมีเพื่อนทำสถาบัน AGI เข็มลงเรียนเป็นรุ่น2 ก็ได้ไปศึกษาจริงๆ ว่าจริงๆ แล้วมันลงลึกกว่านั้นนะ มีทั้งกัญชา กัญชง มีทั้งกระท่อม ซึ่งตอนนี้มันฮิตมาก ถามว่าทำไมต้องไปเรียน คือตัวเองต้องใช้ เพื่อช่วยในการนอนหลับ ซึ่งเราก็เพิ่งเรียนไป ได้รู้คร่าว ๆ
 แล้วแหละว่าตอนนี้มันอยู่สเตจไหน เหมือนว่าเราใช้มันทำในเชิงธุรกิจอะไรได้บ้าง ก็จะมีคนที่อยู่ในแวดวงนี้มาวิธีแชร์แบ่งปัน แล้วที่เรียนอีกอันนึงคือ โคกหนองนา เป็นโครงการพระราชดำริ เหมือนกับว่าเราเรียนเพื่อเราจะอยู่กิน แบ่งปัน เหมือนเป็นธรรมะธุรกิจ ทุกอย่างที่เข็มทำตอนนี้จะเป็น Social Enterprise ทั้งหมด ซึ่งจะต่างกับจิตอาสานะคะ Social Enterprise คือ พออยู่ พอกิน พอมีรายได้ ไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่ว่าเราอยู่ได้อย่างมีความสุข

ที่เรียนจิตวิทยา เพราะว่าสมัยก่อนเราเคยผิดหวังกับความรัก?
เข็ม : จริง ๆ เราเรียนจิตวิทยา เพราะเรามีคำถาม มันเกิดจากการชอบตั้งคำถาม ด้วยนิสัยของการเป็นพิธีกร และด้วยนิสัยของตัวเองด้วย เราเลยรู้สึกว่าทำไมฉันถึงยอม ทำไมฉันถึงไม่เลิก เมื่อเรามีคำถามซ้ำ ๆ บ่อย ๆ กับตัวเอง เราจะเริ่มไม่อยากรู้เหรอ เราต้องอยากรู้สิ เพราะฉะนั้นก็เรียนให้มันรู้ไปเลย

แล้วเรียนมาได้นานเท่าไหร่แล้ว?
เข็ม : ประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว แล้วช่วงที่มีข่าวเยอะ ๆ เบรกตัวเองออกไปพักผ่อน ไปต่างประเทศ แต่มันยังอยู่ มันยังรู้สึกว่าตัวเองไม่ประสบความสำเร็จอะไรบางอย่าง มันเหมือนอยู่ได้แหละ แต่มันยังคาๆ อยู่นิดๆ มันเหมือนเป็นตะกอน มันต้องทำยังไง

งั้นแสดงว่าอนาคตมองตัวเองว่าจะเป็นจิตแพทย์?
เข็ม : ไม่มอง แต่ถ้าสมมติว่าย้อนกลับไปตอนเรียนจบใหม่ ๆ จะไม่เรียนศิลปะ จะเรียนเอาไว้เป็นทางเลือก แต่ว่าอยากเรียนอาชญาวิทยา คือเหมือนกับดูคนที่เป็นฆาตกรว่าทำไมเขาทำแบบนี้ รู้สึกว่ามันเป็นความอยากรู้ของเรา เคยไหมแบบทำไมเขาต้องด่า เขาต้องมีอะไรแน่ๆ แต่ ณ วันนี้เรารู้แล้วทำไมเขาถึงด่าเรา ชีวิตมันมีความสุขมากเลยเมื่อเรารู้ว่าทำไมคนนี้ ถึงเป็นอย่างนี้ แล้วเราจะไม่โกรธใคร

ฆาตกรฆ่าคนกับคนที่ทำร้ายหัวใจเราอันไหนโหดกว่ากัน?
เข็ม : พอกัน

รู้สึกว่าพี่เรียนจิตวิทยามาส่วนหนึ่งเพื่อบำบัดความรู้สึกตัวเอง จากเรื่องความรัก?
เข็ม : แต่มันนานแล้วนะ แต่เพื่อให้เราเข้าใจตัวเองจริง ๆ สมมติว่าเรามีแฟนมาทั้งหมด 4 คน ทุกคนนิสัยเหมือนกันหมดเลย มีความคล้ายกันหมดเลย จะว่าสเปกมันก็ยังไม่ใช่ แต่ว่าเป็นมากเป็นน้อยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตรงนั้น สมมติเรามีชื่อเสียงเรื่องนี้ก็จะดังมาก แต่ทุกคนเหมือนกันหมดเลย ไม่สงสัยเหรอ ทำไมฉันถึงต้องเลือกคนแบบนี้ มันต้องมีเหตุสิ ต่อให้มานั่งตรงนี้ ชอบทั้งคู่เลย แต่สุดท้ายก็เลือกคนนี้ มันเป็นอัตโนมัติเลย

สุดท้ายคือเลือกคนผิดที่สุด?
เข็ม : มีคนดีกับคนไม่ดี ต่อให้เราไม่รู้ว่าเขาดีหรือไม่ดีนะ แต่เราก็จะเลือกคนไม่ดีไว้ก่อน

ทำไมเราถึงชอบเลือกคนที่ผิดกับชีวิตเรา?
เข็ม : เราไม่ได้ชอบนะ มันเป็นปม มันเป็นความทรงจำในสมอง มันเป็นวิทยาศาสตร์เลย สมองเราเป็นคนเลือก เคยไหมที่เขาบอกว่าห้ามเด็กดู ความรุนแรง สมองเด็กจะพัฒนาเต็มที่ตอน 3 ขวบ เด็กดูอะไรเกี่ยวกับความรุนแรงทางทีวีแล้วเขาจะจำ หรือเด็กที่โตมาในครอบครัวที่พ่อกับแม่ทะเลาะกัน พอถึงจุดนึงแล้วพ่อทำร้ายแม่เด็กจำ แต่อีกวันเด็กลืม แต่สมองเด็กไม่ได้ลืมนะคะ มันถูกจำไว้แล้วเรียบร้อย เมื่อเด็กคนนั้นโตถึงวัยนึง เกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กัน เด็กคนนั้นจะตบบ้าง มันจะเกิดขึ้นจริง ๆ แล้วมันเป็นวิทยาศาสตร์แล้วมันก็ถูกสอนอยู่ในวิชาจิตวิทยา

สมัยก่อนที่เข็มเลือกคนด้วยสมอง แต่ไม่ใช่หัวใจ?
เข็ม : ไม่ใช่ อย่างนี้สมองมี 3 ส่วน มันจะมีส่วนสมองที่เป็นอารมณ์ หรือที่เราเรียกเล่นๆ เวลาเรียน เราจะเรียกว่าสมองหมา ทำอะไรปั๊บรีแอค คนที่แต่งงาน คนที่เจอคนที่เราชอบ เราจะตัดสินเขาจากอารมณ์ก่อน สมองกลางน่าจะเป็นเหตุ เป็นผล สมมติเราตัดสินใจแต่งงาน เราจะเอาอารมณ์ก่อน แล้วจะมีเหตุ มีผล มาซับพอร์ต สมองส่วนหน้า คือ การแยกแยะ แยกว่าอันนี้ถูกทาง อันนี้ไม่ถูกทาง อันนี้ดีอันนี้ไม่ดี ฆาตกรจะไม่ค่อยได้ถูกพัฒนาสมองส่วนหน้าที่เข็มเรียนมา เข็มบอกก่อนนะว่าเข็มไม่ได้เก่งเรื่องนี้ แต่ว่าอันนี้แชร์ให้ฟังจากที่เราเรียนมา

ที่พี่บอกว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทำไมเรายังอยู่ ไม่เลิกกับเขา ตอนนั้นพี่คิดอะไรอยู่?
เข็ม : เราต้องการจะซ่อมตัวเองในวัยเด็กที่เราไม่รู้ว่าเราต้องการจะซ่อม สมมติว่าคุณพ่อหย่ากับคุณแม่ คุณพ่อออกไปจากชีวิตเรา แล้วเราก็คิดว่าเด็กจะโทษตัวเอง จะไม่โทษพ่อ โทษแม่ จะมาโทษตอนโตแล้ว วัยรุ่น แต่ว่าเด็ก็จะโทษตัวเองฉันทำอะไรผิด ทำไมพ่อถึงออกไปจากบ้าน ฉันทำอะไรผิดทำไมแม่ถึงไม่สนใจฉัน ฉันทำอะไรผิดทำไมคุณยายถึงตีฉัน เด็กจะโทษตัวเอง เพราะฉะนั้นเราจะรู้สึกว่าเราไม่ดีพอ การที่เราดีพอ เราจะต้องดีงพ่อเราไว้ได้สิ มันก็เลยกลายเป็นว่าเราพยายามดึงคนที่อยู่ในชีวิตเรา โดยการที่เรายอม

ที่ทราบมาแฟนเก่าของพี่ พี่จับได้คาหนัง คาเขาเลยแต่ไม่เลิก?
เข็ม : ทุกคนเลย

จับได้ไม่เท่าไหร่ แต่ไม่เคยโทษผู้ชายด้วยว่าเขาผิด?
เข็ม : โทษตัวเอง ไม่โทษผู้หญิง คือมันเป็นมุมคล้าย ๆ กับว่าเหรียญมันมีสองด้าน แต่เราจะเป็นมุมว่าจริงๆ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเราอะ ทุกคนถูกหมดเลยนะ แต่มุมมองคนละมุม ทุกคนพูดความจริงหมด แต่เป็นมุมมองด้านตัวเอง

ทำไมพี่คิดว่าต้องเป็นพี่ที่ผิด?
เข็ม : เรารู้สึกว่าถ้าคนจับทางเราได้สมัยก่อนนะ เราจับได้แล้ว เราต้องเลิกซิ เรารู้ด้วยนะว่าเราจะต้องเลิก แต่เราก็หาเหตุผล สมองเริ่มมาละหาเหตุผลมาซัพพอร์ตว่าเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจ เราอาจจะทำได้ดีกว่านี้ เราต้องทนกว่านี้ จนสุดท้ายนี่แบบพีคสุด ๆ แล้วนะ เคยโดนแบบว่าจอดรถแล้วผลักลงจากรถ คือเราจับได้ว่าจริง ๆ เขามีแฟนแล้ว แต่เขาบอกว่าเขาเป็นโสด เขามีทุกอย่างมาพิสูจน์กับเราเลย

ใครผลักใครลงจากรถ?
เข็ม : ผู้ชายผลักลงมาเลย แบบพูดจับได้ไง เราก็ยืนงง ๆ แล้วเราก็แบบควรจะโทษตัวเองไหม ไม่ เราไม่ควรจะโทษตัวเอง แต่เรารู้สึกว่าฉันไม่น่าพูดอย่างนั้นเลย ฉันน่าจะทนอีกนิดนึง

แต่ละคนให้เวลาเขาเท่าไหร่?
เข็ม : ถ้าไม่รู้ตัวก็ไปเรื่อย ๆ

ไม่มีใครเตือนสติด้วย?
เข็ม : ก็มีนะ บางทีเพื่อนเอายันต์อะไรมาไม่รู้ แล้วจับไปงานบวช บอกนี่โดนของ

แล้วอะไรเป็นจุดที่เตือนสติเรา แบบพอแล้ว?
เข็ม : เหมือนเรากระโดดลงจากหน้าผา ถ้าไม่กระแทกพื้นไม่รู้ตัว เรากระแทกพื้นทุกครั้งเลย ขนาดเจอไลน์เพื่อนสนิท เป็นเพื่อนรักมาก แคปหน้าจอส่งไลน์สมัยไอโฟน1 ตอนนั้นยังไม่มีไลน์ แคปส่งมาให้ คุยเลย จีบเพื่อนเราไปด้วย เธอไปทำอะไรหรือเปล่า โทษเพื่อน ซึ่งเข็มคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้หลายคนเจอนะ เราจะโทษ และเป็นวลีที่ว่า เนี่ยทะเลาะกัน เดี๋ยวก็ดี เป็นหมา จริงๆ เข็มว่าคนเราแค่อยากมีใครสักคนที่ฟัง ก็เลยเหมือนพูดทุกอย่าง พูดออกไปแล้วสุดท้ายคนที่สามก็เป็นหมาไป

ถ้าคนดูอยู่ในวังวนเดียวกับเรา อยากบอกอะไรเขา?
เข็ม : เวลาที่คนมาแนะนำว่าต้องรู้คุณค่าตัวเอง ต้องรู้จักตัวเอง ต้องรักตัวเอง ไม่มีใครทำได้ ไม่มีใครที่อยู่ดี ๆ ฉันจะรักตัวเอง ฉันจะเลิกกับคนนี้แน่ ๆ ไม่มีใครทำได้จากคนที่หลุดมาแล้วนะ เราต้องรู้ก่อน สมมติว่าเราอยู่ในส้วม คนที่อยู่ตรงนั้นจะไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ในส้วม จะไม่รู้ว่าตัวเองเหม็นเน่าขนาดไหน แต่เราคิดว่าเราอยู่ในห้องสวยงาม  ห้องนอน แอร์เย็นฉ่ำ เราต้องรู้ตัวเอง ยอมรับตัวเองขึ้นมาจริงๆ นั่งอยู่กับตัวเอง ยอมรับว่าเห้ยมันไม่ไหวแล้วหรือเปล่า ต้องอยู่กับตัวเองให้ได้ก่อน คุยกับตัวเองว่าสมมติฉันโดนสามีซ้อมมันโอเคเหรอ ถ้าเราคิดว่ามันโอเค ใครมาพูดกับเรา เราก็ไม่มีทาง ต้องให้รู้ว่าอยู่ในส้วมถึงจะออกจากตรงนั่นได้ ตราบใดที่เรายังคิดว่าส้วมคือวิมานเราก็ออกไม่ได้ สมมติเรามีความอิจฉา ริษยา รู้สึกว่าคนนี้มันสวยกว่า รู้สึกอิจฉาปั๊บมนุษย์ส่วนใหญ่จะไม่ยอมรับว่าตัวเองอิจฉา แต่เราสามารถยอมรับกับตัวเองได้ นั่งคิด นี่เป็นความอิจฉาใช่ไหม ถ้าเรารู้ว่าเราอิจฉาเขา เราจะเลิกอิจฉาได้ แต่คนจะไม่ค่อยยอมรับว่าตัวเองอิจฉานะ โกรธอยู่นะ พี่เข็มพูดเสมอนะว่าพี่เรียนจิตวิทยาเชิงบวก แต่ก็ไม่ใช่คนดีนะ เป็นคนปกติ ก็ยังมีแบบด่ามากๆ ก็สวนบ้าง

วิเคราะห์คนมาก็เยอะ เคยวิเคราะห์ตัวเองไหม ว่าทำไมถึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จกับความรัก?
เข็ม : จริง ๆ พอรู้เหมือนกัน แต่ไม่อยากบอกหมด เดี๋ยวคนจะรู้ เคยคิดกับตัวเองเหมือนกันนะ ถ้าเราแยกความเหงาก้อนนึง อยากมีเพื่อนก้อนนึง ไม่มีอะไรทำก้อนนึง แล้วเราลองเลือกสิ มันถูกทดแทนได้ด้วยอย่างอื่น ถ้าเราไม่มีความเหงาเราจะอยากมีแฟนไหม อะไรคือความเหงา แยกไปอีก เพราะฉะนั้นพอเราเจอคุณค่าของตัวเอง เราจะไม่เหงาไงแล้วจะหาแฟนไปทำไม ถ้าสมมติรู้สึกว่าฉันต้องมีใครสักคนอยู่ในชีวิต ต้องมีใครสักคนอยู่ข้างๆ ไว้ดูแลฉัน ก็ดันดูแลตัวเองได้อีก

แสดงว่าตอนนี้คือโสด?
เข็ม : โสดมา 10 ปีได้แล้ว เข็มแชร์เรื่องนึง เข็มเคยโดนคนด่า แล้วมีคนมาเล่าให้ฟัง เขาคงไปเสพเรื่องราวของเรามา แล้วเขารู้สึกว่าเขาไม่ชอบเราเป็นทุนเดิม แค่เรื่องจอดรถ สตาร์ทรถหน้าบ้าน เราก็พยายามรู้สึกว่าทำไมต้องโกรธ แต่ก็จะมีคนด่าเราว่า โอ๊ย...ลูกก็ไม่มี ผัวก็ไม่มี แฟนก็ไม่มี อะไรอย่างนี้ เขาคิดว่าเราจะต้องเจ็บปวดมาก แต่เรากลับรู้สึกว่าสุดท้ายมันเป็นมุมมองของคนด่านะบางเรื่อง คือชีวิตของเขาถูกเติมเต็มด้วยสามีกับลูก เขาก็เลยคิดว่าพี่เข็มต้องเป็นแบบนี้ คือมนุษย์เกิดมาพร้อมการตัดสินคนอื่นและถูกตัดสิน ลองกลับไปคิดเล่นๆ ก็ได้ว่าเราเคยตัดสินใครไหม ไม่มีใครไม่เคยตัดสินใครเลย แค่ง่ายๆ ทำงานอยู่ที่บริษัทนึงเรามีเพื่อนแล้ว อยู่มาวันนึงมีคนมาสมัครงาน เด็กใหม่เข้ามาเลย ผมแดง  แต่งตัวแบบสไตล์เขา ทุกคนจะตัดสินไปแล้ว หรือถ้าเราจะไม่พูดกับใคร แค่เราเหลืบตามองเราก็ตัดสินเขาไปแล้ว เพราะฉะนั้นการถูกตัดสินเป็นเรื่องปกติ แต่คนตัดสิน เขาตัดสินจากมุมมองของตัวเอง อย่างเราคิดว่าเป็นโสดแล้วแฮปปี้ แล้วถ้าพี่เข็มไปด่า เป็นไงละเป็นโสด แล้วไงอะ มันไม่เจ็บไง คือเราเป็นคนไม่โกรธ

ซึ่งในความไม่โกรธ ล่าสุดแอบรู้มาว่าแฟนของเพื่อนสนิทยังหึงและไม่พอใจพี่เข็ม?
เข็ม : เอาเป็นว่าบ่อย เป็นคนมีเพื่อนผู้ชายเยอะ สมมติว่าเราสนิทกันกับเพื่อน แล้วเวลาที่เราไปไหนมาไหนกับเพื่อน แฟนเขาคงไม่ชอบไงรู้สึกห่วง เราก็เข้าใจเขาเขาคงเสพข่าวมาบ้าง แล้วมีอีกอันเวลาที่คนมาคุยกับเรา ใครที่เสิร์ชกูเกิลก่อนนี่รู้หมด จะบอกเลยว่าเรื่องของเราทั้งหมดตอนนี้เป็นมุมมองของนักข่าวฝ่ายเดียว เขาอ่านเรื่องเป็นมุมเดียวเลย เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ตัวเรา เพราะฉะนั้นคนที่ไปเสิร์ชกูเกิลแล้วมีรีแอคกับเรา เราก็เข้าใจ ไม่เป็นไร

กับคนที่เมาท์เราในอดีต ณ จุดนี้อโหสิกรรมให้ทุกคนหรือยัง?
เข็ม : ไม่อโหสิกรรม เพราะว่ามันเป็นพุทธไง เราเอาแบบเวิลด์วายไหม ไม่ได้คิดอะไรแล้ว แทบจะลืมไปหมดแล้ว ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เป็นคนตรงที่แบบว่าไม่รู้สึกจริงๆ นะ

ตอนนี้โสด ถ้าอนาคตไม่มีลูก ไม่แต่งงาน โอเคไหม?
เข็ม : ก็ต้องคิดสิ โสดมันเป็นทางเลือกของเรา อย่าไปกลัวเรื่องโสด จริง ๆ เราเตรียมทุกอย่างไว้แล้วแหละ คือโสดอยู่คนเดียวโดด ๆ ไม่ได้ มนุษย์เป็นสัตว์สังคม แต่เราก็เตรียมไว้ว่าถ้าเราป่วยโทรหาใคร เบอร์อันนี้เบอร์ใคร คือเราจะต้องเตรียมเอาไว้ บ้านที่อยู่อยู่คนเดียวจริง แต่ขยับไปอีกนิดก็เป็นบ้านคุณแม่ ขยับไปเป็นบ้านคุณน้า 
บ้านคุณลุง เราอยู่ในระแวกเดียวกันหมด สมมติว่าเราแก่กว่านี้เราอาจจะอยู่กับเพื่อน คือมันถูกแพลนไว้แล้ว แล้วมีบ้านที่อเมริกา ถ้ายังไงแก่ ๆ คุณแม่ไม่อยากไปไงก็อยู่เป็นเพื่อนคุณแม่ ดูแลคุณแม่จนสุดๆ เลย พอสุดท้ายอาจจะย้ายประเทศก็ได้

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.05-14.05 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

กดเลย >> community แห่งความบันเทิง 📸เมาท์ข่าวดารา กับเจ๊รุงรังขังรวม
ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ 🍿ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล 😍ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี