เครดิตภาพ LionGateในที่สุดภาค 2 ของหนังที่ผมรอคอยก็มาซักที หลังจากที่แคนิส ชนะการแข่งขันในการแข่งครั้งที่ 74 หากคิดว่าการแข่งขันจะจบ ไม่ครบ หนังมันไม่ง่ายขนาดนั้นแน่นอนเริ่มต้นเมื่อ แคทนิส (Jennifer Lawrence) และ พีตา (Josh Hutcherson) เดินทางกลับเข้าสู่เขต 12 ในฐานะผู้ชนะเกมล่าชีวิตครั้งที่ 74 อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีสโนว์(Donald Sutherland) ที่พบว่าถูกกำลังโดนท้าทายอำนาจอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน เลยตัดสินใจที่จะจัดเกมล่าชีวิตครั้งที่ 75 ด้วยเงื่อนไขใหม่ คือการนำอดีตผู้ชนะจากทั้ง 12 เขตมาต่อสู้กัน ซึ่งก็รวมถึงสองตัวแทนคนสำคัญ ฟินนิก โอแดร์ (Sam Claflin) และ โจแฮนน่า เมสัน (Jena Malone) ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้เอง ก็กลายเป็นชนวนครั้งสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งไปตลอดกาลเครดิตภาพ LionGateในภาคแรกทิ้งค้างผู้ชมไว้หลังจากการแข่งขันครั้งที่ 74 จบสิ้นลงพร้อมด้วยผู้ชนะ 2 คนจากเขต 12 ซึ่งก็คือ แคทนิส และ พีตา ซึ่งถือเป็นการพลิกหน้าประวัติศาสตร์ของเกมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะกฏของเกมบอกเอาไว้ชัดเจนคือจะต้องมีผู้ชนะเหลือรอดออกมาเพียงแค่คนเดียว ไม่ใช่ 2 คน สิ่งที่เกิดขึ้น สร้างความไม่พอใจให้กับ ปธน. สโนว์ เป็นอย่างมาก และนั่นยังเป็นจุดเริ่มต้นของความหวังที่กับทั้ง12 เขตเพื่อหวังให้มีการหลุดจากระบอบเผด็จการบ้า ๆ ซึ่งเป็นชนวนนำไปสู่การก่อจราจลเพื่อหลุดพ้นจากอำนาจ ผลจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ ปธน. Snow สั่งประหารชีวิต Gamemaker ในการแข่งขันครั้งที่ 74 ทิ้งเพราะทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์ Gamemaker ตัวแสบคนใหม่ คิดค้นอุปสรรค์สารพัดและการทรมานผู้เข้าแข่งขันทั้ง 24 คนจาก 12 เขตเพื่อให้ความต้องการไร้สาระของ ปธน. Snow เกิดขึ้นได้ตามความต้องการ เครดิตภาพ LionGateนอกจากอินเนอร์จากนักแสดงหลักแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องชื่นชมมากๆ แน่นอนว่าใครที่เคยอ่านนวนิยายก็ต้องรู้ดีว่าภาคนี้ เมื่อเข้าสู่ลานประลอง คนกับคนไม่ใช่ข้อสำคัญเลย แต่เป็นเรื่องของคนกับอุปสรรค์ที่จะเจอซะมากกว่า หลายฉากที่ผมอ่านเจอในนวนิยาย ทีมงานสามารถทำมันออกมาได้เหนือความคิด เหนือจินตนาการผมอีกนะ จึงทำให้ช่วงกลางของเรื่องจึงเลุ้นระทึกและตื่นเต้นจนเผลอนั่งเกร็งตามขณะที่ดูเลย และผมเชื่อว่าคนที่ไม่เคยอ่านนวนิยาย น่าจะลุ้นไปในฉากการต่อสู้บน บนArenaสิ่งสุดท้ายที่ต้องพูดถึงคือเรื่องของระบบเสียงประกอบภาพยนตร์ที่ยังคงทำได้ดีเหมือนอย่างที่เราได้เห็นในภาคแรก หนังดึงให้คนดูมีอารมณ์ร่วมไปกับการดำเนินเรื่องอย่างไม่ต้องสงสัย ว่ากันง่าย ๆ อินจัดนั่นเอง คะแนนเนื้อเรื่อง 8/10 หนังพาคนดูให้พาไปดูคนที่กำลังเอาชีวิตรอดจากการถูกล่าอย่างมีนัยยะ ทั้งแรงกดดัน ทั้งอุปสรรค ทั้งความต้องการที่จะเอาชนะ ทำให้หนังดูมีเสน่ห์และพาคนดูให้อินตามไปได้อย่างไม่ต้องสงสัย และที่สำคัญ ระบบเสียง ดนตรีประกอบ ต้องเรียกว่าไร้ที่ติจริง ๆ ครับเครดิตภาพ LionGateข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์1. การแข่งขันเพื่อเอาชีวิตรอด ผมเชื่อว่ามนุษย์เรา เมื่อถึงจุดที่เข้าตาจนก็ต้องสู้เพื่อเอาตัวรอด ตามสัญชาติญาณของมนุษย์ครับ นักแสดงของเรื่องก็เหมือนกัน เพียงแต่เป็นการต่อสู้ที่เกิดขึ้นมา ตามความพอใจ และเป็นเกมส์ของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น2. ความวิปริตของผู้นำ คนสติดีที่ไหน เค้าจะมาสร้างเกมส์ให้คนเข่นฆ่ากันครับ ภาคนี้เราจะได้เห็นความวิปริต ความคิดตรรกะป่วย ๆ ของผู้นำในเรื่อง แต่สุดท้ายแล้วคนที่ทำอะไร ก็จะได้ผลตอบแทนเช่นนั้นหนังยังคงความเข้มข้นเช่นเดียวกับภาคแรก เพียงแต่หนังเปลี่ยนแนวการแข่งขัน ให้คนชนะ มาสู้กับคนชนะ ทำให้อุปสรรคที่จะผ่าน ช่างยากเย็น และดึงให้คนดูแบบผมถึงกับนั่งไม่ติดเครดิตภาพปก Liongate