My Best Summer (2019)“รักเธอเป็นคนแรกให้แยกมันคงยาก” ประโยคที่คงพออธิบายความรู้สึกความสัมพันธ์ของสองตัวละครเอก ที่ความรักเริ่มต้นจากวัยมัธยมก่อเกิดเป็นคำสัญญาที่ไม่สามารถทำให้กันได้ จนทำให้พวกเขาต้องแยกจากกันโดยที่ไม่รู้ว่าใครทำอะไรผิดเกิ๋งเกิ๋ง (เหอหลันโต้ว) สาวน้อยที่ย้ายเข้ามาเรียนชั้นมัธยมปลายต่างเมือง ในวันประกาศห้องเรียนเธอได้พบกับ อวี๋ฮวาย (เฉินเฟยอวี่) หนุ่มหล่อที่เข้ามาทักทายเธอก่อน เพราะชื่อของทั้งสองคนนั้นพ้องกับความหมายว่า “จดจำอยู่ในใจเสมอ” แล้วพวกเขายังบังเอิญได้เรียนในห้องเดียวกัน เกิ๋งเกิ๋ง ได้ที่นั่งคู่กับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ส่วน อวี๋ฮวาย ที่ไม่มีใครนั่งร่วมโต๊ะด้วย จู่ ๆ เขาก็ลุกพรวดขึ้นมาพร้อมกับบอกกับครูประจำชั้นว่า อยากนั่งเรียนคู่กับ เกิ๋งเกิ๋ง ทำเอาเพื่อน ๆ ในห้องส่งเสียงเฮกันใหญ่เกิ๋งเกิ๋ง ออกอาการเหวี่ยงใส่ อวี๋ฮวาย เพราะไม่พอใจที่เขาทำให้เธออายต่อเพื่อนร่วมชั้น แต่พอเพื่อนซี้ของเธอคะยั้นคะยอขอเปลี่ยนที่นั่ง เกิ๋งเกิ๋ง กลับไม่ยอมแลกกับเพื่อนซะงั้น (เกิ๋งเกิ๋ง คงคิดในใจว่า แลกก็บ้าแล้ว ฮ่าฮ่า) เกิ๋งเกิ๋ง เป็นเด็กหัวทึบเรียนไม่เก่ง เธอชอบการถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ สวนทางกับ อวี๋ฮวาย ที่เป็นนักเรียนหัวกะทิด้านฟิสิกส์ แต่กลับไม่ค่อยสนใจวิชาอื่น ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ค่อย ๆ พัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ ก็เกิดเรื่องจนได้ เมื่อแม่ของ อวี๋ฮวาย นั้นกลัวว่าเด็กอย่าง เกิ๋งเกิ๋ง จะทำให้ลูกชายเสียการเรียน เธอจึงพยายามขอให้อาจารย์แยกที่นั่งของเด็กทั้งสองคนเสียขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบบทความจากภาพยนตร์ : My Best Summer (2019) “ยังจำคนที่นั่งเรียนข้าง ๆ คุณได้มั้ย” หนังจีนย้อนวัยความรักครั้งแรก ที่หยิบเอาที่นั่งในชั้นเรียนมาเป็นกิมมิกหลัก ซึ่งอาจจะห่างไกลจากในสังคมห้องเรียนแบบไทย ๆ ไปสักหน่อย เพราะส่วนใหญ่แล้วห้องเรียนไทยมักจะไม่ค่อยมี การนั่งคู่กันระหว่างนักเรียนหญิงกับชายเท่าไหร่ ติ๊ต่างสมมติรวมโต๊ะที่นั่งใกล้กันไปด้วยก็แล้วกันเพื่อความอิน ฮ่าฮ่าเป็นหนังย้อนวัยความรักครั้งแรกที่มีส่วนประกอบหลักของหนังแนวนี้ครบถ้วนนะ ทั้งกิมมิกของช่วงเวลานั้นอย่างเพลง โต๊ะเรียน เสื้อผ้าหน้าผม ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนการเลี้ยงรุ่นต้องมา ความรักที่สุดท้ายมีเหตุให้ต้องห่างกัน ก่อนจะกลับมาพบกันใหม่พร้อมกับความหน่วงหัวใจ แต่สำหรับ My Best Summer (2019) บางประเด็นหนังเล่าเรื่องราวแบบหลวม ๆ อย่างความสัมพันธ์ระหว่าง เกิ๋งเกิ๋ง กับสองสาวเพื่อนสนิทเนื้อหาภายในหนังไม่ค่อยมีแอร์ไทม์ ไม่ค่อยมีฉากที่เป็นประสบการณ์ร่วมกัน บางตัวละครอย่างพ่อหนุ่มแว่น ฉายาสี่ตา ก็ไม่รู้ว่ามาสนิทกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ หากมองในชีวิตจริงคงไม่แปลกเพราะเรียนด้วยกันมาตั้งหลายปี แต่พอมาเป็นหนังแล้วตัวละครไม่มีฉากที่เป็นประสบการณ์ร่วมกัน เมื่อถึงฉากดราม่าตอนดูอารมณ์ร่วมเลยไปไม่ถึงในส่วนของมิตรภาพระหว่างเพื่อนขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบบทความจากภาพยนตร์ : My Best Summer (2019) จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างคู่พระนาง เกิ๋งเกิ๋งกับอวี๋ฮวาย ดูเป็นเรื่องของ Destiny จะเรียกโชคชะตาหรือว่าพรหมลิขิตก็แล้วแต่ มันก็ดูจะตกหลุมรักกันแบบไม่มีที่มาที่ไป ส่วนหนึ่งเข้าใจได้ว่า เกิ๋งเกิ๋ง คงจะตกหลุมรัก อวี๋ฮวาย ไม่ยาก เพราะพี่ก็หล่อซะขนาดนั้น แต่ อวี๋ฮวาย น่ะซิไปถูกใจ เกิ๋งเกิ๋ง เอาตั้งแต่ตอนไหนถึงขนาดขอให้เธอย้ายที่มานั่งด้วยเมื่อในทีแรก เกิ๋งเกิ๋ง ดูออกจะเป็นลูกเป็ดขี้เหล่เสียด้วยซ้ำ เท่าที่เคยดูน่าจะเป็นแนวย้อนวัยเรื่องแรกเลย ที่ให้ตัวละครเอกตกหลุมรักกันแบบโชคชะตาเป็นใจ เพราะเรื่องอื่นมักจะใช้พล็อตพระนางไม่ชอบหน้ากันในทีแรก หรือไม่ก็มีเหตุจำเป็นให้ต้องทำกิจกรรมร่วมกัน เลยได้รู้จักตัวตนกันมากขึ้นจนก่อเกิดเป็นความรัก แต่พอหนังเล่าย้อนเรื่องราวของ อวี๋ฮวาย ก่อนหน้าที่เขาจะได้เจอกับ เกิ๋งเกิ๋ง มันก็พออธิบายได้นะว่าทำไมเขาถึงสนใจ เกิ๋งเกิ๋ง มากเป็นพิเศษ เนื้อหาด้านอื่น ๆ หนังทำได้ดีตามมาตรฐานหนังย้อนวัยความรักครั้งแรก ไม่ว่าจะความเซอร์วิสชวนจิ้น โมเมนต์น่ารักระหว่างคู่พระนาง รวมทั้งดราม่าช่วงท้ายการกลับมาพบกันอีกครั้ง ที่เอาจริงจะว่าบทมันน้ำเน่าไหมมันก็ใช่นะ แต่มันก็เป็นน้ำเน่าที่ใช้ได้ผลคือมันสร้างอารมณ์ซึ้ง กินใจ ทำให้ผู้ชมรู้สึกร่วมได้จริงแล้วดราม่านี้มันก็สะท้อนมุมองบางอย่าง ที่หนังเรื่อง Sunny (2011) เคยหยิบมาใช้ ในประเด็นความผูกพันระหว่างเพื่อนก็คือ หากเพื่อนของเราในวันวานที่ภาพจำเขา…ของเรามันสวยงาม แต่หากในวันนี้มันไม่ดีเหมือนวันนั้น เขาไม่ประสบความสำเร็จอะไรในชีวิตล่ะ ความเป็นเพื่อนมันจะยังคงอยู่ไหม ส่วนใน My Best Summer (2019) เรื่องนี้ไม่ได้เล่าประเด็นนี้ซ้ำในมุมของเพื่อน แต่เลือกเล่าในมุมของคนรัก ที่ความรู้สึกจะยังคงเหมือนเดิมอยู่ไหม หากวันนี้ไม่ได้มีชีวิตที่ดีเหมือนวันนั้น (แหม่…นึกถึงเพลง วันนั้นอย่าลืมวันนี้ ของพลพล ขึ้นมาเลย)ขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบบทความจากภาพยนตร์ : My Best Summer (2019) สรุปแล้ว My Best Summer (2019) ถามว่าหนังเป็นอย่างไร ตัวผมคงตอบว่ายังให้ผ่านมาตรฐานหนังรักย้อนวัยนะ หากดูแบบคนดูหนังเพื่อความบันเทิงไม่คิดมาก ก็ถือว่าหนังทำออกมาได้สนุก ดูเพลิน น่ารักดีเลยล่ะ ที่เห็นผมบ่น ๆ ผมก็ชอบและบันเทิงไปกับหนังนะ เอาง่าย ๆ ว่าสายฟินน่าจะถูกใจหนังรักย้อนวัยเรื่องนี้แน่นอนDirectors: Disa Zhangขอบคุณเครดิตรูปภาพหน้าปกจากภาพยนตร์ : My Best Summer (2019) เขียนโดยแอดมิน เพจ ปีนรั้วดูหนัง