รีวิวหนัง "Tron: Ares ทรอน แอรีส" (ซาวน์)อลังการของเฟรนไชส์ไซไฟที่ยืนหนึ่งความคงกระพัน

ถ้าหากว่าฝั่งญี่ปุ่นจะมีอนิเมะต่อสู้ในจักรวาลอันเป็นปึกแผ่นและเปี่ยมไปด้วยความคลาสสิก ฝั่งอเมริกาน่าจะมีจักรวาลนี้ที่พอจะต่อกรได้ จักรวาลหนังทรอน เฟรนไชส์หนังที่เรืองรองอยู่ในวงการหนังยาวนานมากว่า 40 ปี ที่แม้ว่าจะไม่ได้เป็นการป้อนคอนเทนท์ออกมาต่อเนื่อง แต่ก็ยังหาลู่ทางกลับมาได้เสมอ ปีนี้คัมแบ็กมาใน "Tron: Ares ทรอน แอรีส" บทการต่อสู้ผจญภัยครั้งใหม่ที่ยังเปิดสวิตซ์เชื่อมต่อจักรวาลที่คุ้นเคยอีกครั้ง ที่หวังจะมาเติมเต็มและเติมไฟแห่งโลกดิจิทัลและโลกเอไอให้เรืองรองครั้งใหม่
เมื่อโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์อันมีความคิดซับซ้อนที่มีชื่อว่า แอรีส ถูกส่งตัวจากโลกดิจิทัลมายังโลกแห่งความจริงเพื่อทำภารกิจอันตรายบางอย่าง กลายเป็นชนวนเหตุให้เกิดขึ้นเป็นการเผชิญหน้ากันครั้งแรกระหว่างมนุษยชาติและปัญญาประดิษฐ์ที่มีตัวตน ที่อุบัติครั้งนี้อาจจะเป็นการจุดไฟสงครามระหว่างสองเผ่าพันธุ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยมีชะตากรรมของโลกเป็นเดิมพันที่ท้าทาย
โดยในภาคนี้ดิสนีย์ได้กลับมาเรียกใช้บริการผู้กำกับชาวนอร์เวย์ที่คุ้นเคยกันดี "โยอาคิม รอนนิง" ผู้ที่ญาติดีกับดิสนีย์มาหลายผลงาน อย่าง Pirates of the Caribbean: Dead Men Tell No Tales หรือ Maleficent: Mistress of Evil ที่น่าจะเป็นผู้กำกับที่สตูดิโอไว้วางใจด้วยดี นั่นจึงทำให้เขาสามารถละเลงใส่วิสัยทัศน์ได้อย่างเต็มเปี่ยม อัปเกรดความตื่นตาตื่นใจในองค์ประกอบของเฟรนไชส์นี้ พร้อมทั้งเซอร์วิสแฟน ๆ ได้อย่างจึ้งใจด้วยรายละเอียดงานสร้างที่ชวนอ้าปากค้างในทุกซีน
แต่ปัญหานิดหน่อยติดอยู่ตรงที่บทหนังและสตอรี่ของหนังเรื่องนี้ เพราะกลายเป็นว่าบทหนังของ "เจสซี วิกูทอว์" (จากซีรีส์ Daredevil: Born Again) ยังค่อนข้างติดอยู่ในโหมดเพลย์เซฟมากไปสักหน่อย บนพื้นฐานของบทหนังที่ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่ แต่กลับยังเป็นความยิ่งใหญ่ในระดับที่สร้างอิมแพคระดับที่เบาบางกว่างที่คิด อาจจะเพราะหนังมาพร้อมกับตัวละครที่ต้องแนะนำใหม่ ไม่ต่างกับเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง และน่าเสียดายที่เฟรนไชส์หนังที่ยาวนานกว่า 40 ปีเรื่องนี้ ถึงจะเก่าแก่แต่เต็มไปด้วยรอยต่อเยอะไป กลายเป็นจุดที่บั่นทอนที่ต้องมาหาจุดเชื่อมต่อเฟรนไชส์ทุกครั้งที่กลับมา ค่อนข้างเป็นจุดที่เสียเวลาโดยใช่เหตุ..แต่ก็เลี่ยงไม่ได้
รอยต่อและช่องว่างของเฟรนไชส์หนังนั่นเอง ที่กลายมาเป็นชาเลนจ์ที่ท้าทายของหนังเรื่องนี้ เพราะภาคแรกเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1982 แล้วกลับมาสานต่อในปี 2010 จากนั้นก็ยังทิ้งช่วงห่างไป 15 ปี แล้วกลับมาใน Tron: Ares ครั้งนี้ กลายเป็นว่าระยะวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา มีหนังเพียงแค่ 3 ภาค ที่แทบจะมีแฟนหนังคนละเจเนอเรชันกันทั้งสิ้น และเต็มไปด้วยฟองอากาศที่เกิดขึ้นระหว่างหนังแต่ละภาค ที่เป็นจุดด้อยที่ท้าทายให้แฟนหนังจูนไม่ติด ทั้งแฟนดั้งเดิมและแฟนกลุ่มใหม่ ที่แน่นอนว่าอาจจะยังงง ๆ หรือไม่อินไปด้วยจักรวาลดิจิทัลและโลกในเดอะกริดที่ยังชวนเกาหัวอยู่ไม่น้อย
โปรดักชันดีไซน์และวิชวลเอกเฟกต์ต่าง ๆ ใน Tron: Ares ยังคงเซอร์วิสใส่เต็มแบบไม่ยั้ง นี่น่าจะเป็นจุดที่เฉิดฉายสุด ๆ ของหนังเรื่องนี้แล้ว เพราะภาคนี้ยังคงได้ "ดาร์เรน กิลฟอร์ด" ทีมอาร์ตมือหนึ่งของวงการที่เคยรังสรรค์ Tron: Legacy กลับมาร่วมงานอีกครั้ง พร้อมทั้งยังมีทีมวิชวลฝีมือดีแห่งยุค อย่าง Industrial Light & Magic และ Image Engine ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการหนังฮีโรของมาร์เวลยุคนี้ทั้งสิ้น กลายออกมาเป็นกิมมิกงานสร้างที่ตระการตา เหมาะเจาะกับดูบนจอใหญ่ยักษ์ในโรง IMAX มาก เป็นการเซอร์วิสแฟนได้อย่างเติมเต็ม ถึงแม้ว่าบางมุมบางจุดจะค่อนข้างเซอร์วิสเกินไปหน่อย แต่เป็นการเติมเต็มที่ค่อนข้างสมบูรณ์ดี
และที่โดดเด้งเปล่งประกายออกมาเหนือกว่าสิ่งใดใน Tron: Ares ก็คงจะเป็นซาวน์ประกอบและซาวน์ดนตรีที่นับว่าเป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่หนังเรื่องนี้นำมาเป็นจุดเด่น ที่ในภาคนี้ได้วงร็อกในตำนาน Nine Inch Nails มาประพันธ์เพลงประกอบให้ กลายออกมาเป็นซาวน์อิเล็กทรอนิกส์อันเป็นเอกลักษณ์ ผนวกเขากับจังหวะร็อกบีทปัง ๆ ที่เลือกจะผสมผสานรีมิกซ์เข้ากับเพลงประกอบเกมจากต้นฉบับ ทำให้มีกลิ่นอายความร่วมสมัยที่นำเอาซาวน์ดัดแปลงมาแจมเข้ากับดนตรีแห่งยุค 80s ได้อย่างกลมกล่อม ละมุนมากจนบางทีก็เด้งรุกล้ำส่วนอื่น ๆ ของหนังแบบเกินหน้าเกินตาไปสักนิด
ทางฝั่งการแสดงที่ดูเหมือนว่าภาคนี้ค่อนข้างเป็นการแนะนำและเปิดตัวตัวละครใหม่แทบจะทั้งหมด "จาเรด เลโต" ก็ยังคงฉายแสงฉายแววเปล่งประกายการเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทเบอร์ต้น ๆ ของฮอลลีวูดอย่างถ่องแท้ นี่คือชายวัยกลางคนวัยหลักห้าที่ยังขึงขังและสตรองด้วยพลังทางการแสดง ถึงคาแรกเตอร์นี้ของเขาอาจจะไปซ้ำ ๆ กับบทบาทเก่า ๆ ที่เขาเคยรังสรรค์เอาไว้ในอดีตไปบ้างสักหน่อย แต่เขาก็ตีความและโชว์ศักยภาพออกมาในทิศทางที่ประคับประคองตัวหนังเอาไว้ได้อย่างมีพลัง
นี่น่าจะเป็นการแสดงในหนังระดับบล็อกบัสเตอร์ฟอร์มใหญ่เรื่องแรก ๆ ของ "เกรต้า ลี" ที่ยอมรับว่าก็แอบรู้สึกเป็นกังวลว่าพลังการแสดงของเธอ ที่สั่งสมประสบการณ์มาจากหนังอินดี้ฟอร์มเล็ก ๆ มาโดยตลอด จะขับเคลื่อนไหวหรือไม่ เมื่อต้องมายืนหยัดเป็นหนึ่งในฐานที่มั่นของหนังเรื่องนี้ กลายเป็นเธอสามารถพรั่งพรูทางการแสดงออกมาได้ค่อนข้างเปล่งประกายดี แม้จะยังดูเก้ง ๆ กัง ๆ อยู่บ้างเล็กน้อย แต่กลายเป็นว่าลีลาแอคติ้งของเธอส่งเสริมกันไปด้วยดีเมื่อต้องเข้าฉากกับจาเรด เป็นการส่งเสริมพลังแอคติ้งให้กันและกันได้อย่างน่าพึงพอใจทีเดียว
รวมทั้งยังมีทีมนักแสดงสมทบที่ชวนจึ้งและประทับใจดี ไม่ว่าจะเป็น "อีแวน ปีเตอร์ส" ยังคงมอบการแสดงแบบจ้างร้อยเล่นล้าน ที่บียอนด์บทบาทการแสดงในคาแรกเตอร์ได้อย่างทำถึง "โจดี้ เทอร์เนอร์-สมิธ" สาวนักรบเอไอที่ขึงขังทรงพลัง ร่วมด้วย "ฮาซาน มินฮาจ์", "จิลเลียน แอนเดอร์สัน", "อาร์ทูโร แคสโทร" และตำนาน "เจฟฟ์ บริดเจ็ท" ที่กลับมาให้หายคิดถึงและยังเป็นหนึ่งในไอคอนที่ต้องยังคงอยู่ประจำเฟรนไชส์หนังเรื่องนี้ตลอดไป
โดยภาพรวมแล้ว Tron: Ares เป็นการคัมแบ็กกลับมาที่เติมเชื้อไฟของเฟรนไชส์หนังเรื่องนี้ให้กลับมาเรืองรองอีกครั้งอย่างมีนัยยะ องค์ประกอบงานสร้างยังโดดเด่นและยิ่งใหญ่ตระการอีกเช่นเคย เป็นการพัฒนาและยกระดับขึ้นจากสิ่งที่เคยสร้างสรรค์เอาไว้จากภาคที่แล้ว แต่โครงสร้างบทหนังอาจจะยังไม่หนักแน่นและยิ่งใหญ่เพียงพอที่จะชูเด่นขึ้นมาในระดับที่สมบูรณ์แบบ เพราะยังมีจุดบกพร่องและข้อด้อยติดขัดในส่วนของทรีเมนต์บทหนังที่ไม่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับจักรวาลหนังได้อย่างหนักแน่น อุปสรรคคือช่วงระยะเวลาที่ทำให้เกิดรอยต่อระหว่างเฟรนไชส์หนังนั่นเอง
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Tron: Ares ทรอน แอรีส
- ประเภท: แอคชัน / ไซไฟ / ผจญภัย
- ผู้กำกับ: โยอาคิม รอนนิง
- นำแสดงโดย: จาเรด เลโต, เจฟฟ์ บริดเจส, เกรต้า ลี, อีแวน ปีเตอร์ส
- ความยาว: 119 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 9 ตุลาคม 2025
Movie.TrueID METRIC: Tron: Ares ทรอน แอรีส
- ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7.3/10)
- การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7.2/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.0/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.5/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6.6/10)
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa